17 สถานที่ท่องเที่ยว อินส์บรูค ออสเตรีย (Innsbruck, Austria)    

ไปเที่ยวกันฝั่งยุโรป ที่ประเทศออสเตรีย มีเมืองประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าเที่ยวมากๆ กับเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เมืองที่ตั้งริมแม่น้ำอินน์ และถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้มีประวัตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และทัศนียภาพที่สวยของภูเขาที่เรียงราย น่ามาเที่ยวสุดๆ เรามาดูกันทั้ง 17 สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้กันเลย  

1. ประตูชัย (Triumphal)

ประตูชัย (Triumphal) เป็นประตูเข้าเมือง ทางเข้าหลักที่เข้าสู่เมืองอินสบรูค สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกของจักรพรรดิปีเตอร์ เลโอโปลด์ โยเซฟแห่งโรมัน กับมาเรีย ลุยซา แห่งสเปน ก่อนจะเกิดเรื่องราวแสนเศร้า เมื่อมาเรีย ต้องสูญเสียเจ้าชายไปหลังพิธีไม่กี่วัน ทำให้ต้องมีประตูชัย ที่มีทั้งความชื่นชมยินดีในการอภิเษก และความโศกเศร้าในการระลึกถึงการจากไปนั่นเอง  

2. ระเบียงหลังคาสีทอง (Golden Roof)

ระเบียงหลังคาสีทอง (Golden Roof) เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมือง ซึ่งมีอายุเก่าแก่ราว 500 ปี สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิฟรีดริชที่ 4 ช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ภายใต้รูปแบบอาคาร สไตล์โกธิคผสมบาโรก ตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยแผ่นทองแดงชุบทองคำ 2,657 แผ่น และมีการตกแต่งเป็นประติมากรรมให้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ของจักรพรรดิผู้สร้างด้วย  

3. พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Museum Hofburg)

พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Museum Hofburg) ที่นี่เป็นพระราชวังสีขาว ทรงโดมสีเขียวแบบโกธิค สร้างโดยจักรพรรดิซิกมันด์ในช่วงปี ค.ศ.1460 ภายในมีการตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยจิตรกรรมฝาผนัง และมีเรื่องราวต่างๆ เป็นภาพวาด โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในยุคนั้น จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับนักท่องเที่ยว  

4. อนุสาวรีย์เสา (St. Anne’s Column)

อนุสาวรีย์เสา (St. Anne’s Column) ที่นี่เป็นอนุสาวรีย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวเมือง ตั้งเด่นเป็นสง่า มองเห็นชัดเจน โดยมีวิวทิวเขาและอาคารสีสันสดใสตั้งอยู่รอบๆ โดยเสาของอนุสาวรีย์มีการแกะสลักลวดลายที่น่าสนใจ สร้างขึ้นในปี 1706 ออกแบบในสไตล์โครินเธียน ฐานของอนุสาวรีย์มีรูปปั้นเทวดา 4 องค์ซึ่งแต่ละองค์หันหน้าไปทางทั้ง 4 ทิศ  

5. ยอดเขา (Hafelekarspitze) ยอดเขา (Hafelekarspitze)

ยอดเขา (Hafelekarspitze) ยอดเขาแห่งนี้ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 2,334 เมตร เมื่อขึ้นไปยังยอดเขาสูงสุด จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองเก่าที่สวยงาม และลองนั่งเคเบิ้ลคาร์ ขึ้นไปยังยอดเขาได้ เพื่อชมวิวเมืองมุมสูง และยังมีลานสกีชื่อดังให้ได้เล่นด้วย บอกเลยว่า มาบนยอดเขานี้ วิวอลังการมาก สีสันบ้านเรือนเหมือนลูกกวาดเลยล่ะ  

6. หอคอย (stadtturm)

หอคอย (stadtturm) ที่นี่เป็นหอคอยประจำเมือง ใช้สำหรับชมวิว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1450 ในอดีตเคยเป็นที่คุมขังนักโทษ มีบันไดวนกว่า 130 ขั้น ทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มา จะได้สนุกกับการเดินขึ้นพิชิตยอดหอคอยแห่งนี้ ซึ่งจะทำให้เห็นวิวเมืองทั้งเมืองได้เช่นเดียวกัน  

7. ย่านอัลสตัลส์ (Altstadt)

ย่านอัลสตัลส์ (Altstadt) ย่านนี้ เป็นย่านเมืองเก่า ที่นักท่องเที่ยวชอบมาเดินกันมาก เพราะเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถนนปูด้วยหินและมีความคดเคี้ยวของเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนมีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมแบบโกธิกและบาโรก โดยภาพฉากหลังของบ้านนี้ ยังมีวิวของเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งเด่นชัดเจนอีกด้วย  

8. ลานสาธารณะ (Landhausplatz)

ลานสาธารณะ (Landhausplatz) เป็นลานสาธารณะของเมือง ซึ่งสามารถใช้เป็นลานสเก็ตได้ในช่วงฤดูหนาว เป็นลานที่มีพื้นผิวมันเรียบ และเป็นที่ตั้งของจัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ และเป็นลานสถานที่นัดพบสำคัญของชาวเมือง รวมถึงใช้เป็นสถานที่จัดแสดง จัดงานต่างๆกลางแจ้งบริเวณนี้ด้วย  

9. โบสถ์ประจำเมือง (Hofkirche)

โบสถ์ประจำเมือง (Hofkirche)  โบสถ์แห่งนี้ เป็นสถานที่ตั้งของหลุมศพจักรพรรติแม็กซิมิเลียนที่ 1 ที่สร้างไว้แบบอลังการมากๆ โดยรอบหลุมศพ จะมีรูปปั้นสำริดขนาดใหญ่ ใช้เป็นตัวแทนของจักรพรรดิ ที่ตั้งตระหง่าน ที่นี่เป็นหลุมศพที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปโบสถ์ Hofkirche ก่อสร้างในปี 1553 ภายในโบสถ์กว้างขวาง พื้นกระเบื้องสีขาวและดำ มีรูปปั้นสำริดที่มีความสูงตั้งแต่ 2-2.5 เมตรทั้งหมด 28 ชิ้น และยังมีหอสวดมนต์ที่ประดับด้วยแร่เงินด้วย  

10. บ้านหลากสีสันเมืองอินสบรูค (Colourful Houses Innsbruck)

บ้านหลากสีสันเมืองอินสบรูค (Colourful Houses Innsbruck) นี่เป็นเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยี่ยมเมืองอินสบรูค เนื่องจากมีบ้านหลากสีสัน ที่สง่างาม ในเมืองเก่าตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังและป้ายโลหะที่สลับซับซ้อน สถาปัตยกรรมที่สวยงามของอาคารหลากสีโทนพาสเทลอ่อน ตัดกับภาพฉากหลังเทือกเขาแอลป์ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกและโกธิกจากศตวรรษที่ 13 ถึง 14 อาคารที่สวยงามเหล่านี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ มาที่นี่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันของประวัติศาสตร์จริงๆ  

11. โรงละคร (Tiroler Landestheater Innsbruck)

โรงละคร (Tiroler Landestheater Innsbruck) เป็นโรงละครที่ก่อตั้งในปี 1629 ใช้เป็นสถานที่หลักในการชมการแสดงต่างๆ ของเมืองอินส์บรุค โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่สนใจในดนตรี และศิลปะ มีการจัดแสดงงานฉายรอบปฐมทัศน์หลายครั้งและที่นี่เป็นสถานที่ที่น่ารักในการสัมผัสประสบการณ์งานละครของเมือง  

12. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (Tyrolean State Museum)

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (Tyrolean State Museum) ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านแห่งทิโรล สร้างขึ้นระหว่างปี 1553-1563 สไตล์เรอเนสซองส์และอาร์เคด จัดแสดงสมบัติที่มีรูปแบบชาติพันธุ์อัลไพน์ เผยให้เห็นประวัติศาสตร์และเรื่องราวความสำคัญต่างๆที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม จัดว่าเป็นอีกพิพิธภัณฑ์สำคัญของเมืองนี้เลย  

13. สวนสาธารณะ (Innsbrucker Hofgarten)

สวนสาธารณะ (Innsbrucker Hofgarten) เป็นสวนสาธารณะประจำเมือง ใกล้กับย่านเมืองเก่า เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ บรรยากาศภายในร่มรื่น มีทั้งต้นไม้ ดอกไม้ประดับประดาทั่วสวน ทัศนียภาพสวยงาม วันหยุดคนจะเยอะเป็นพิเศษ  

14. สวนสัตว์อัลเพน (Alpenzoo innsbruck)

สวนสัตว์อัลเพน (Alpenzoo innsbruck) สวนสัตว์แห่งนี้ มีสัตว์มากกว่า 150 ชนิด ตื่นตาตื่นใจ ไปกับบรรยากาศที่เหมือนได้เข้าป่ามาเจอสัตว์จริงๆ สิ่งแวดล้อมรอบๆ เอื้ออำนวยกับสัตว์ และมีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังมีสัตว์หายาก ที่เหมาะกับการพาลูกๆ เด็กๆ มาเที่ยวชมเพื่อการเรียนรู้โดยเฉพาะ  

15. จุดชมวิว (Hungerburg)

จุดชมวิว (Hungerburg)  เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวของเมืองอินสบรูค ที่สวยงาม ตั้งอยู่บนเนินเชา นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวก สามารถเดินทางมาชมได้ทั้งรถรางบริการ หรือจะมาเดินป่า ปีนเขา ซึ่งเป็นเขตรอบต่อกับสวนสัตว์ เข้ามาเยี่ยมชมจุดชมวิวที่นี่เลยก็ได้  

16. สวนสนุกคริสตัลเวิลด์ (Swarovski Crystal Worlds)

สวนสนุกคริสตัลเวิลด์ (Swarovski Crystal Worlds)  ที่นี่เป็นสถานที่น่าถ่ายรูป เพราะมีการสร้างชิ้นงานขนาดใหญ่ ก่อนทางเข้าสวนสนุก Swarovski Crystal Worlds นั่นคือหัวยักษ์ที่มีดวงตาเป็นประกาย และปากที่ยื่นออกมจากน้ำพุ ที่นี่จึงมีน้ำพุที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1995 หัวยักษ์นี้ใสราวคริสตัล เป็นประตูสู่ความสนุกในโลกเวทมนต์ของสวนสนุกแห่งนี้ ถ่ายรูปแล้ว เข้าไปสนุกกับโลกแห่งจินตนาการด้านในกันเลย  

17. ตลาดไข่อีสเตอร์ (Easter Market)

ตลาดไข่อีสเตอร์ (Easter Market) ตลาดแห่งนี้ มีความเก่าแก่ และมีจุดเด่นพิเศษ คือไข่อีสเตอร์สีสันหลากหลายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่หน้าตลาด ผู้ชมมักเข้ามาหาสินค้าในช่วงอีสเตอร์ และยังมีร้านอาหาร ของขวัญ ช็อกโกแลตตามฤดูกาล และของประดับตกแต่งสำหรับเทศกาลอีสเตอร์โดยเฉพาะ และยังมีเทศกาลศิลปะไข่ จัดขึ้นที่นี่ด้วย   

เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เมืองที่มีสีสันราวกับลูกกวาดหลากสี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามเหมือนภาพวาด ใครได้มา จะต้องหลงเสน่ห์ของเมืองนี้แน่นอน