เที่ยวญี่ปุ่น (Japan) วันนี้ต้องบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมากขึ้น จากการที่คนไทยได้รับการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว จึงมีการเดินทางไปเที่ยวกันง่าย สะดวกสบายจึงเกิดรีวิวขึ้นมากมาย เพื่อให้เห็นภาพเราไปดูกันว่าเมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง อยากรู้ไปดูกันได้เลย .. ⛩
1. โตเกียว (TOKYO)
โตเกียว (Tokyo) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolis) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น จัดว่าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรวมเขตปริมณฑลแล้วมีประชากรอาศัยอยู่ราว 35,237,000 คน เฉพาะในตัวเมืองโตเกียว 23 แขวงการปกครองพิเศษ มีประชากรในเขตเมืองประมาณ 12 ล้านคน ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
โตเกียวเป็นศูนย์รวมแห่งความทันสมัย เทคโนโลยี แฟชั่น และแหล่งท่องเที่ยวในโตเกียว ก็มีทั้งสวนสาธารณะ ศาลเจ้า ถนนคนเดิน แหล่งช้อปปิ้ง เป็นเมืองที่คนไทยมาแล้วมาอีก มาครั้งเดียวไม่สะใจ เพราะเมืองสวย ผู้คนดี ช้อปปิ้งสนุก อาหารอร่อย ถ่ายอะไรก็สวยไปหมด
📍 พิกัด: Tokyo, Japan
2. เกียวโต (KYOTO)
เกียวโต (Kyoto) เป็นเมืองมรดกโลกเก่าแก่ ของญี่ปุ่น คนที่ชอบศิลปะวัฒนธรรมโบราณต้องมาสักครั้ง ที่นี่มีทั้งโบราณสถาน วัดวาอาราม ศาลเจ้า ที่ยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี หากใครที่อยากท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิต สโลไลฟ์ กับชาวพื้นเมือง หาชุดกิมะโนสวมใส่ ร่วมพิธีชงชา แบบโบราณก็ไม่ควรพลาด เที่ยวหาที่พัก แบบโฮมสเตย์ได้ไม่ยากเช่นกัน
📍 พิกัด: Kyoto, Japan
3. โอซาก้า (OSAKA)
โอซาก้า (Osaka) เมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศ นอกจากจะเป็นเมืองธุรกิจสำคัญของประเทศแล้วยังขึ้นชื่อด้านอาหารในราคาย่อมเยา เพราะไม่ว่าจะมุมไหนของเมือง คุณก็สามารถหาร้านอาหารรสชาติเป็นเลิศ แต่ราคาสบายกระเป๋าได้ไม่ยาก
นอกจากอาหารแล้วที่นี่ยังมีสถานที่เที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Kaiyukan) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ยูนิเวิร์ลซัล สตูดิโอ (Universal Studio) แห่งญี่ปุ่น และสวนลอยน้ำ (Floating Garden Observatory) เป็นต้น
📍 พิกัด: Osaka, Japan
4. ซัปโปโร (SAPPORO)
ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงบนเกาะฮอกไกโดตอนเหนือของประเทศ อากาศหนาวเย็นหิมะตกหนาแน่น ในช่วงฤดูหนาว คนที่ชื่นชอบเล่นสกี สัมผัสหิมะ ไม่ควรพลาดช่วง มกราคม-มีนาคม ของทุกปี เป็นแหล่งอาหารทะเลสดอร่อย บะหมี่ราเม็งเลิศรส และแหล่งผลิตเบียร์ขึ้นชื่อ
ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีก็จะการจัดงานเทศกาลคริสต์มาสสไตล์เยอรมันที่สวนโอโดริ (German Christmas Market at Odori Park) งานประดับไฟหน้าหนาว (Sapporo White Illumination) และตามมาด้วยเทศกาลหิมะและน้ำแข็งแกะสลักแห่งซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ในช่วงต้นปี
ส่วนสถานที่เที่ยวก็มีมากมาย เช่น โรงเบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) สวนกลางเมืองโอโดริ (Odori Park) ตึกที่ทำการเก่าแก่ของฮอกไกโด (Hokkaido Government Building) หอนาฬิกาเก่าประจำเมือง (Tokeidai) ย่านบันเทิงซูซูกิโนะ (Susukino) ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) สวนสัตว์มะรุยะมะ (Maruyama Zoo) และภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) เป็นต้น
📍 พิกัด: Sapporo, Japan
5. นารา (NARA)
เมืองนารา (Nara) หรือ เมืองแห่งกวาง เป็นเมืองเก่าที่อยู่เหนือโอซาก้าขึ้นไป ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกหนแห่งที่คุณเดินทางไปเที่ยว คุณจะพบเห็นกลุ่มกวางอันเป็นมิตรกับผู้คน นอกจากนี้นารายังถือเป็นแหล่งกำเนิดของขนบธรรมเนียมสำคัญๆ ของชาวญี่ปุ่น
เมืองนารานี้มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น พระพุทธรูปไดบุทสึ (Daibutsuden) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อที่ใหญ่ที่สุดของโลก วัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของโลกและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเช่นเดียวกับวัดโทไดจิ (Todaiji Temple) วัดเก่าแก่ที่สุดของเมือง
📍 พิกัด: Nara, Japan
6. นิกโก (NIKKO)
เมืองนิกโก (Nikko) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ
ในเมืองเป็นที่ตั้งของสุสานของโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ กับโทะกุงะวะ อิเอะมิสึ ผู้เป็นหลาน และศาลเจ้าฟุตะระซังอายุกว่า 1,200 ปี และยังมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย ทิวเขาทางตะวันตกของเมืองเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก เป็นที่ตั้งของน้ำตกและเส้นทางชมทิวทัศน์ที่กล่าวกันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
นิกโก้เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้านิกโก้โทโชงู ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่นี่มีจุดชมใบไม้แดงหลายแห่ง ในตัวเมืองมีต้นอิโจ (แปะก้วย) ขึ้นเรียงรายและตรงถนนขึ้นเขา ที่มีชื่อว่า อิโรฮะซะกะ ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นเส้นทางชมใบไม้หลากสีที่งดงามที่สุดในภูมิภาคคันโต
สถานที่ที่อยากแนะนำให้เดินทางไปชม คือน้ำตกริวซุ ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบจูเซ็นจิโกะ “ริวซุ” มีความหมายว่า หัวมังกร เนื่องจากด้านหน้าของแอ่งน้ำตก มีหินก้อนใหญ่ขวางทางอยู่ ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาถึงจุดนั้น ถูกแยกออกเป็นสองทาง ลักษณะคล้ายหัวมังกร ตรงส่วนหัวของมังกรมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ เมื่อใบไม้บริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็จะทำให้มองเห็นเป็นหัวมังกรสีแดงด้ว
📍 พิกัด: Nikko, Japan
7. โอกินาว่า (OKINAWA)
โอกินาว่า (Okinawa) เป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่เกาะริวกิวนับร้อยเกาะเรียงกันเป็นแนวยาวกว่าพันกิโลเมตร จนได้ชื่อว่าเป็นฮาวายแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็คือ โอกินาว่า โดยมีเมืองนาฮาเป็นเมืองหลวงนั่นเอง
ในอดีตโอกินาว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรริวกิวอันรุ่งเรือง และเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ในสมัยก่อนอาณาจักรริวกิวเป็นรัฐบรรณาการต่อราชวงศ์หมิงแห่งจักรวรรดิจีน จึงได้รับวัฒนธรรมต่างๆ จากจีน ทั้งในเรื่องของภาษา รูปแบบของสถาปัตยกรรม ข้าวของเครื่องใช้ และอาหารการกิน
📍 พิกัด: Okinawa, Japan