กรุงเวียนนาประเทศออสเตรียได้ขึ้นแท่น อันดับหนึ่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก จัดอันดับโดยนิตยาสาร “Economist” เอาชนะเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย แชมป์เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 7 ปีซ้อนได้ ซึ่งความน่าอยู่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่บรรยากาศ ความสวยงามของเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย 

เรามาดูเที่ยวกันของเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกกัน ว่าจะสวยแค่ไหน !!

1. พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace)

พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) คือหนึ่งแลนมาร์คที่ต้องเที่ยวในกรุงเวียนนา ตัวพระราชวังมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม มีความหรูหรา อลังการ อาคารสีเหลืองอร่าม บริเวณด้านหน้าพระราชวังมีดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส พร้อมบ่อน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์รวมผลงานด้านศิลปะชั้นเลิศและยังได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1996 อีกด้วย

📍 พิกัด: Schönbrunner Schloßstraße 47, 1130 Wien, Austria

2. พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)

พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1275 แต่เดิมคือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ภายในมีห้องมากกว่า 2000 ห้อง ตกแต่งศิลปะสไตล์บาโรก (baroque)  ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้

📍 พิกัด: 1010 Vienna, Austria

3. มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephens Cathedral)

มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St.Stephens Cathedral) ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางของจัตุรัสสเตฟานกรุงเวียนนา ซึ่งได้รับการออกเเบบมาในเเบบโกธิคที่มีความสวยงาม ภายในมีผลงานประติมากรรมต่างๆ ในเเบบศิลปะเชิงศาสนาเเละมีตำนานมากมายเกี่ยวกับมหาวิหารเเห่งนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่พลาดไม่ได้

📍 พิกัด: Stephansplatz 3, 1010 Wien, Austria

4. ถนนช้อปปิ้ง กราเบน และ โคห์ลมาร์ท (Graben and Kohlmarkt)

ถนนช้อปปิ้ง กราเบน และ โคห์ลมาร์ท (Graben and Kohlmarkt) เป็นหัวใจของถนนช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเวียนนา ตลอดสองข้างทางของถนนทั้งสองสายนี้เต็มไปด้วย ร้านขายสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนจำนวนมาาก ร้านอาหาร คาเฟ่ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามหรูหรา โดยไฮไลท์ของถนนสายนี้คือ อนุสาวรีย์เก่าแก่ Baroque plague column

📍 พิกัด: 1010 Vienna, Austria

5. ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Vienna City Hall)

ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Vienna City Hall) เป็นหนึ่งในอาคารที่สวยงามที่สุดในบรรดาอาคารเก่าแก่จำนวนมากในกรุงเวียนนา ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีความงามสง่าทั้งภายนอกและภายในของตัวอาคาร ด้านหน้าของศาลาว่าการจะเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งศาลาว่าการแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

📍 พิกัด: Friedrich-Schmidt-Platz 1, 1010 Wien, Austria

6. จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz)

จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz) ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางกรุงเวียนนา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ชมวิว และถ่ายรูปบริเวณรอบๆ ได้ ใกล้จัตุรัสสเตฟาน จะมีถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrasse) เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่มีห้างสรรพสินค้และร้านค้าตลอดสองข้างทาง สายช้อปปิ้งต้องถูกใจอย่างแน่นอน   

📍 พิกัด: Stephansplatz 3, 1010 Wien, Austria

7. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum หรือ Museum of Art History)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีโดมใหญ่เป็นสัญลักษณ์เด่น ที่ด้านหน้ามีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของเทพีเอเธน่า (Athene) เทพีแห่งปัญญา งานช่างฝีมือ อาวุธและการทำสงคราม

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บสะสมงานศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งอยู่ในสถานที่ปัจจุบันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของศิลปะที่สำคัญไว้เป็นจำนวนมาก 

นิทรรศการหลักของหอศิลป์ที่จัดแสดง ได้แก่ คอลเล็กชันอียิปต์ – โอเรียนเต็ล จุดเด่นของคอลเลกชันของอียิปต์ ได้แก่ โลงศพหินขนาดใหญ่อายุกว่า 600 ปีก่อนคริสตกาล และมัมมี่ที่มีภาพวาดปกคลุมและหน้ากากปิดทอง คอลเลกชันของโบราณวัตถุกรีกและโรมัน, คอลเล็กชันประติมากรรมและเครื่องประดับตกแต่ง, คอลเล็กชันของเหรียญ และคอลเลกชันของภาพวาดจำนวนมาก รวมถึงผลงานศิลปะชิ้นใหญ่ ๆ ของบรรดาศิลปินชื่อดังระดับโลก เช่น ราฟาเอล (Raphael), ทิเชียน (Titian), ไมเคิลแอนเจโล (Michelangelo) เป็นต้น

📍 พิกัด: Maria-Theresien-Platz, 1010 Wien, Austria

8. โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles Church)

โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles's Church) หรือที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “คาร์ลเคียร์เชอ” (Karlkirche) เป็นโบสถ์บารอกที่ผสมผสานหน้ามุขแบบกรีกและเสาแบบโรมาเนสก์แกะสลักสวยงาม 

โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ Saint Charles Borromeo เนื่องจากราวปี ค.ศ. 1713 ได้เกิดโรคระบาดใหญ่ลุกลามไปทั่วยุโรป ส่งผลให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สมเด็จจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันจึงได้ทรงอธิษฐานว่าหากโรคระบาดสงบลงจะสร้างโบสถ์เป็นการอุทิศ

ภายหลังจากที่กรุงเวียนนารอดพ้นจากโรคระบาดพระองค์จึงทรงโปรดให้สร้างโบสถ์แห่งนี้จนกระทั่งมาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1739 สิ่งที่โดดเด่นคืออาคารจะมีเสา Trojan 2 ต้น จำลองต้นแบบมาจากอาคาร Pantheon ของโรมันโบราณในกรุงโรม แกะสลักเป็นเรื่องราวของเซนต์ชาลส์ ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยจากโรคระบาดจนได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญ ภายในอาคาร บนโดมเพดานประดับตกตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกงดงามมีมิติ บอกเล่าเรื่องราวและดึงดูดชวนให้หลงใหลเมื่อแหงนมองขึ้นไป บริเวณด้านนอกโบสถ์เป็นสวนสาธารณะ สามารถนั่งพักผ่อน หรือปิกนิกบริเวณนี้ได้ด้วย 

📍 พิกัด: 1040 Vienna, Austria

9. บ้านฮุนเดอร์ตวาสเซอร์ (Hundertwasser House)

บ้านฮุนเดอร์ทวาสเซอร์ (Hundertwasser House) เป็นอพาร์ทเม้นท์ที่ไม่เน้นเส้นตรงแต่เป็นลักษณะโค้งมนในกรุงเวียนนาย ซึ่งเป็นไอเดียของสถาปนิก ชื่อ ฟรีเดนส์ไรช์ ฮุนเดอร์ตวาสเซอร์ (Friedensreich Hundertwasser) ฮุนเดอร์ทวาสเซอร์เป็น สถาปัตยกรรมที่แปลกตา และสีสันไม่เหมือนใคร ตัวอาคารทาสีสัน ทั้งฟ้า ชมพู ขาว เหลือง ซึ่งเป็นตึกที่มีนักท่องเที่ยว ให้ความสนใจมากเพราะความสวยแปลกใหม่ของดีไซน์ตึก

📍 พิกัด: Kegelgasse 36-38, 1030 Wien, Austria