สวัสดีเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยวเหมือนกับเรา ที่ต่อให้เวลาน้อย ก็หาเวลาไปจนได้ 555
ถ้าพูดถึงที่เที่ยวใกล้ๆ แบบ ไปเช้า - เย็นกลับ หรือแบบ 2 วัน 1 คืน เชื่อว่าอยุธยาคงเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าจะให้พูดถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีกิจกรรมอะไรน่าสนใจบ้าง หลายคนคงนึกถึงการไหว้พระ 9 วัด หรือไม่ก็การเที่ยวตลาดน้ำ ไปกินกุ้งเผา ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่ก็โรตีสายไหมเจ้าดัง อะไรทำนองนี้ใช่มั้ยคะ
วันนี้กานต์จะพาทุกคนเดินทางไปที่ อยุธยาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ กิจกรรมที่แตกต่าง ที่ศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระแชง ชุมชนที่ถือว่าเป็นต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสถานที่ดีๆ ที่ให้ทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กๆ ได้ทำ
ที่นี่มีกิจกรรมมากมาย อาทิ DIY สิ่งของจากผักตบชวา , เรียนรู้การทำขนมไทย, ศึกษาวงจรชีวิตจิ้งหรีด, เรียนรู้การเพาะเห็ดฟาง, เก็บไข่ในเล้า, ตกปลา รวมทั้งการทำนาสาธิตฯ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองเองก็จะได้สอนน้องๆหนูๆ ให้รู้จักวิถีชีวิตคนในชุมชนมากขึ้นด้วย
ส่วนเรื่องของกิน ขอบอกว่าอิ่มจนพุงกาง ด้วยอาหารหลากหลายเมนูจากฝีมือของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งอาหารบ้านๆ ไปจนถึงกุ้งเผาา
ขอเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน โดยขับรถกันไปเอง ด้วยเวลาว่างแค่ เสาร์ - อาทิตย์ แต่อยากเที่ยวแบบแหวกแนวจากทุกครั้ง อยากไปสโลว์ไลฟ์ ชิลๆ แต่ไม่ไกล โจทย์นี้ เลยทำให้เราได้หาข้อมูลจาก ททท. จนเจอกิจกรรมที่ชุมชนบ้านกระแชง จึงได้รวมตัวกันและติดต่อคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ ผู้ใหญ่ราตรี เพื่อไปเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดชุมชนแบบ 2 วัน 1 คืน
ราคาที่พัก รวมอาหาร 3 มื้อ พร้อมกิจกรรม : 1,500 บาท/คน
- อาหาร 3 มื้อ เที่ยง,เย็น,เช้า (แต่มีแถมกลางวันก่อนกลับด้วย)
- กิจกรรมต่างๆ แล้วแต่เราสนใจ หลักๆคือ ดำนา, จักรสาน, ตกปลา, เรียนรู้วงจรจิ้งหรีด (โชคดีเราได้แถมไปใส่ชุดออเจ้าที่วัดไชยฯ)
เช้าวันเสาร์ เราใช้เวลา เดินทางแค่ 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็มาถึงที่จุดหมายแล้วค่ะ
สำหรับการเดินทางมาที่ ต.กระแชง ให้ใช้ถนนกาญจนาภิเษกหรือทางหลวงหมายเลข 9 มุ่งหน้า อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เข้าสู่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 3111 ประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวขวาสู่ถนน 3011 ขับตามทางไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ อ.บางไทร ตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอกับ ต.กระแชง หาไม่ยากเลยค่ะ
มาถึงเราก็เจอกับผู้ใหญ่ราตรี ผู้ที่จะคอยดูแลเราตลอดทริป ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ที่นอน พร้อมให้ความรู้ในด้านต่างๆ ขอบอกว่าผู้ใหญ่ใจดีมากกก เป็นคนตลก ฮาๆ เราเลยได้เสียงหัวเราะตลอดทริป
ถ้าใครสนใจอยากมาทำกิจกรรมสามารถติดต่อหา ผู้ใหญ่ราตรีได้โดยตรงนะคะ ที่เบอร์ 098-3437940 (แอดไลน์จากเบอร์ได้เลยจ้าผู้ใหญ่ใจดีมากก)
เรามาถึงช่วงประมาณ สิบโมงเช้า ยังไม่ทันได้พูดคุยแนะนำตัว ผู้ใหญ่ก็ถือ ข้าวเหนียว มะม่วงมาต้อนรับ พร้อมบอกให้กินกันให้หมดนะ มีอีกเยอะ 555 ขอบอกว่าอร่อยมากค่ะ ข้าวเหนียวมูลผู้ใหญ่ทำเอง อร่อยแบบไม่ต้องราดกะทิเลย
กินไป ผู้ใหญ่ก็ชวนคุยไปเรื่อยจนรู้ว่า ชุมชนกระแชง หมู่ 2 ถือได้ว่าเป็นชุมชนตัวอย่างของหมู่อื่น ที่ตอนนี้ ทางททท.เอง ได้เข้ามาดูแล และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตในชุมชน มีเด็กๆ และกรุ๊ปมาเที่ยวกันเยอะพอสมควร
กิจกรรมสานกุ้ง
บางคนมาค้าง บางคนแค่เข้ามาทำกิจกรรมแบบ One day trip แล้วค่อยเข้าไปพักในตัวเมือง แต่วันที่เราไปพิเศษมากค่ะ ไม่มีใครเลยนอกจากเรา 4 คน ผู้ใหญ่เลยดูแลอย่างใกล้ชิด พอกินเสร็จยังไม่ทันเอากระเป๋าลงจากรถ ผู้ใหญ่ก็แนะนำให้รู้จักกับ อาจารย์อีกคนที่เชี่ยวชาญด้านการสานตรอกไม้ไผ่ และสอนให้พวกเราสานกุ้งจากตรอกไม้ไผ่ ต้องใจเย็นและใช้ความอดทนมากกกก กุ้งพวกเราเลยออกมา ตัวผอมบ้าง อ้วนบ้าง แต่ก็สำเร็จนะคะ เพราะผู้ใหญ่ขู่เอาไว้ว่า ถ้าทำกุ้งไม่เสร็จจะไม่ได้กินข้าว
ใช้เวลาสานอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง จนท้องร้อง ผู้ใหญ่เลยเรียกให้พวกเราไปกินข้าวด้วยกัน คือนั่งกินพร้อมกับผู้ใหญ่ ที่ศาลาริมน้ำ อาหารบ้านๆ ใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ไม่มีพิธีรีตรองอะไร กระเป๋าก็เอาไว้หลังรถยังไม่ได้ เอาลง และไม่รู้ว่าจะเอาอะไรต่อ 555 รู้แต่ว่ากับข้าวบ้านๆ นี่แหละ อร่อยมากกกค่ะ
มิ้อแรกผ่านไปแบบไวมากกก อากาศก็ดีมากเช่นกัน เราไปช่วง 26-27 ธันวา อากาศไม่ร้อน มีลมพัด นั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำ จนสมาชิกในทีมง่วง เราเลยหากิจกรรมทำ จนได้แบบนี้อะ บาปมั้ยอ่าา
เหมือนเป็นคนบาป ที่ตกปลาแล้วได้หลายตัวมาก
ทำฟักทองสังขยา
ผู้ใหญ่เลยถามว่าอยากรู้วิธีทำฟักทองสังขยามั้ย จะสอนสายขนมหวานอย่างเราเลยรีบไปดูค่ะ เหมือนจะทำไม่ยาก ส่วนผสมก็ไม่มาก แต่ทำเสร็จแล้วกิน น่าจะง่ายสุด สำหรับสายขนมอย่างเราาาา
กิจกรรมดำนา
ช่วงบ่ายพอแดดเริ่มคล้อย ผู้ใหญ่ราตรีจึงพาเราไปดำนาที่แปลงสาธิต เป็นการดำนาครั้งแรกในชีวิตค่ะ แต่ทุกคนดูสนุกกับการเล่นโคลนมากกว่า 555 ผู้ใหญ่บอกว่าปกติ จะเป็นเด็กๆ เข้ามาทำกิจกรรม เด็กกรุงเทพฯส่วนใหญ่ชอบกิจกรรมนี้มาก แต่ผู้ใหญ่อย่างเราจริงๆ ก็ชอบเหมือนกัน แต่ก้มๆ เงยๆ แปปเดียวยังปวดหลัง ต้องนับถือชาวนาที่ก้มๆ เงยๆ ทั้งวันจริงๆ
คนที่ดูตั้งใจดำนาจนเสร็จน่าจะเป็นเพื่อนร่วมทริปที่ดำอยู่คนเดียว เพราะเราอยากไปใส่ชุดไทย ถ่ายรูปที่วัดไชยฯ ตามคำชวนของผู้ใหญ่ราตรี ที่กระซิบมาว่า เดี๋ยวจัดให้กรุ๊ปนี้เป็นพิเศษ มีเหรอคะ ที่เราจะปฏิเสธ 5555555
วัดไชยวัฒนาราม
ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้ละครจะจบไปสักพักแล้ว แต่กระแสคนใส่ชุดไทยมาเดินเที่ยวยังเยอะอยู่ จนกลายเป็นธุรกิจร้านเช่าชุดไทยเต็มหน้าวัดไชยวัฒนาราม
ใครที่สนใจสามารถไปเช่าชุดได้นะคะ ราคาอยู่ที่ชุดละ 200 บาท มีบริการ แต่งหน้าทำผมให้พร้อมเลยคร่าาาา พิเศษสุดๆก็คือวันนี้ หัวหน้าทัวร์ของเรา ผู้ใหญ่ราตรีใส่ชุดไทยถ่ายรูปกับเราด้วยคร่าาาาา
ที่เห็นแต่งตัวกันเต็มยศแบบนี้ ใครจะรู้ว่าเพิ่งเสร็จจากดำนา โดยที่ยังไม่ทันอาบน้ำ แถมกระเป๋าเสื้อผ้าก็เต็มหลังรถ ทุกคนแฮปปี้มากค่ะ เป็น 1 วันที่ได้ทำกิจกรรมหลายอย่างมาก ไม่ต้องรีบร้อน แข่งขันกับใครให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน เราไปวัดไชยฯ ช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี เลยได้แสงค่อนข้างสวย จากนั้นก็กลับมาที่บ้านผู้ใหญ่ เพื่อย่างกุ้งกินกันต่อ แล้วค่อยอาบน้ำ วันนี้เราจะเน่าให้สุด แล้วหยุดที่หลับเป็นตายยยย
ที่พักของเราคืนนี้เป็นแพในน้ำค่ะ มีไฟฟ้า มีพัดลม แต่ไม่มีแอร์ ไม่มีห้องน้ำ ตอนกลางวันร้อนนี่เอง ผู้ใหญ่เลยไม่รีบให้เอาของไปไว้ แต่ตกกลางคืน เรานอนกางมุ้งเปิดพัดลม อากาศเย็นนะคะ ธรรมชาติสุดๆ ถ้าปวดท้องก็เดินมาขึ้นห้องน้ำได้ที่ชั้นบนบ้านผู้ใหญ่
ถ้าไม่อยากนอนในแพแบบนี้ สามารถกางมุ้งนอนได้ที่บนบ้าน รวมกับผู้ใหญ่ เพราะบ้านสมัยก่อนจะไม่กั้นห้อง แต่เป็นพื้นที่โล่งๆ นอนกางมุ้งกันคนละหลัง
สำหรับคนรักสบายแนะนำว่า ให้เลือกแบบ 1 day trip แค่เข้ามาทำกิจกรรมจะดีกว่า แล้วไปค้างในเมืองแทน ซึ่งราคาอาจมีเปลี่ยนแปลงสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้ใหญ่ราตรี ตามเบอร์โทรที่บอกไว้นะคะ