รีวิวภูเก็ตหน้าฝน .. 4 วัน 3 คืน ได้รูปสวย ๆ ชิค ๆ เพียบ   

DAY 1 

พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยว 7.50 ถึงสนามบิน 9.15 เราไปด้วยกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน 13-16 กรกฎาคม ไปกัน 5 คน ผู้หญิงหมดเลย การเดินทางครั้งนี้ไม่ดีเลย์ ถึงตามกำหนด โชคดีมาก ๆ ละฟ้าฝนก็ดูเป็นใจแดดเปรี้ยงเลย   

Ocean Lounge Phuket

เมื่อถึงสนามบินปุ๊บ เราก็เดินทางไปยังอ่าวปอเพราะทริปนี้อยากจะล่องเรือยอร์ชภูเก็ต แบบชิค ๆ สวย ๆ กับเค้าบ้างนั้นเอง จากสนามบินมาที่ท่าเรืออ่าวปอ ใช้เวลาสักพักประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง การนั่งเรือยอรช์เราใช้บริการของ Ocean Lounge Phuket   

ฝ้ายมาแปะราคาไว้ให้เพราะลงรูปใน IG คนถามมาเยอะมากเรื่องราคา ก็เลยจะรีวิวราคาให้ด้วย ราคาค่อนข้างสูงแต่ถ้ามองความคุ้มถือว่าคุ้มมากนะ เพราะ 1 ลำก็มาได้ตั้ง 20 คนแล้ว อย่างเช่นถ้าเรามาแบบ Half Day 29,000 บาท มาสัก 10 คน หารกันแค่คนละ 2,900 เอง ถ้ามาครบจำนวน 20 คน ก็ถูกไปอีก แต่มารอบนี้พวกเรามาจัดหนักจัดเต็ม นอน 1 คืนไปเลยจ้า หารกันเยอะหน่อยเพราะมาน้อยแต่ว่าคุ้มมากกกกกกกกเว่อร์    

ลงเรือมา นอกจากเรา 5 คนก็จะมีกัปตันเรือ 1 คน ลูกเรือ 1 คน และก็เชฟ 1 คน ซึ่งเชฟนี้คือตัวแปรสำคัญของพวกเรามาก เห็นเป็นผู้ชายแต่ทำอาหารอร่อยมากกกกกก แบบมาก ไม่ใช่ว่าลงเรือแล้วจะกินอะไรก็ได้ไม่ใช่นะ แต่อาหารคือดี มามื้อแรกก็เที่ยงแล้วเรายังไม่ได้กินอะไรเลย เชฟก็จัดการให้ทุกอย่าง   

ซึ่งราคาก็รวมอยู่ที่เราจ่ายแล้ว และจะบอกว่าอาหารไม่ได้มีแค่ 3 มื้อนะ แต่มีให้กินตลอดทั้งวัน หิวก็บอกได้เลย แต่นี้ไม่มีเวลาหิวเลยเพราะเชฟทำตลอด ทำชนิดที่ว่าถ่ายเมนูไม่ทันเยอะเกิน ทั้งอาหารและผลไม้    

เป็นมื้อกลางวัน มื้อแรกของภูเก็ตที่ฟินมาก ปลาอร่อยมาก นํ้าจิ้มซีฟู้ดก็แซ่บมาก  

ระหว่างกิน เรือก็ล่องไปตามทะเลเรื่อย ๆ ครั้งนี้เราไป 3 จังหวัดเลย เริ่มต้นที่ภูเก็ต ไปกระบี่ และจบที่พังงา เราจะไปจอดนอนที่พังงา ซึ่งแค่ค่าทัวร์เกาะต่อคน ถ้าปกติไปขนาดนี้ก็หลายพันนะ แถมไปแบบทุรักทุเร แต่เราไปแบบสวย ๆ เลยจ้า เพราะเราสายรักสบาย 5555 ถือว่าแพคเกจเรือ นอกจากอาหาร การล่องเรือไปเกาะตั้ง 3 จังหวัด ก็ถือว่าคุ้มมาก  

อิ่มแล้วก็มาถ่ายรูปกัน โดยรูปที่ได้ก็มาจากลูกเรือนั้นเอง ซึ่งไปเป็นกลุ่มไม่ต้องกลัวไม่มีภาพรวม พี่ที่นี่ถ่ายรูปเก่งมาก ถ่ายให้ตลอด ถามอยู่นั้นว่าถ่ายรูปมั้ยถ่ายให้ 555555 คือถ่ายเก่งมากกก แต่ก่อนจะได้ถ่ายรูปฝนตกจ้า ตกตรงเกาะห้องกระบี่ อดถ่ายมุมนั้นมาเลย เพราะสวยมาก   

หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ก็มีความอยากลงเล่นนํ้า แต่เนื่องจากทะเลหน้าฝนนํ้ามีความขุ่น แต่ก็ถือว่าใสและสวยมากสำหรับพวกเราแล้ว แต่แค่จะดำนํ้าไม่ได้เพราะมองไม่เห็น กัปตันก็เลยหาที่ลงเล่นนํ้าให้ ตลอดการไปเล่นนํ้าก็จะมีลูกเรือช่วยคอยดูแลตลอด อุปกรณ์บนเรือก็มีให้ครบ  

นี้ขนาดหน้าฝนนํ้ายังสวยขนาดนี้ ถ้ามาซัมเมอร์คงฟินมาก แต่ข้อดีของการมาหน้าฝนคืออากาศดีมากไม่ร้อน แม้จะต้องลุ้นฝนหน่อย แต่โดยรวมคือดี และก็หากจะมาล่องเรือแบบนี้ ควรเช็คอากาศที่แน่ชัดก่อนนะคะ เพราะหน้าฝนก็มีความอันตราย แต่ภูเก็ตนี้ฝนแปดแดดสี่ตามคำรํ่าลือมาก เพราะว่าตก 5 นาทีก็หยุด แดดมา สักพักใหญ่ตกอีก ตกเหมือนแรงสักแปปก็หยุดแล้ว พี่ ๆ เค้าก็บอกว่าหน้า Low ก็มาได้ ถูกด้วยแค่เช็คอากาศดี ๆ   

หลังจากเล่นนํ้าก็มีมาม่าหมูสับกุ้งร้อน ๆ มาให้กินถึงที่ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีขนมตลอด แฮปปี้มากอยู่บนเรือแต่ไม่มีอด นั่งคุยไปกินมาม่าไป แปปเดียวพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว และเรือก็มาจอดที่เกาะยาวน้อย พังงา และกัปตันบอกเราจะนอนกันที่นี่   

วิวสวยมากจริง ๆ และอากาศก็ดีมากกกกกก สดชื่น สูดหายใจให้เต็มปอด เผลอแปปเดียวก็มืดแล้วได้เวลาอาหารเย็น ยังไม่ทันหิวเลย บอกแล้วว่าเชฟเค้าขยันทำอาหารมาก นี้ถ้ายังไม่นอนก็มีอีก 555555 แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะมันมืดแล้วเแสงกลางทะเลน้อย   

ส่วนห้องนอนมีทั้งหมด 3 ห้องห้องนํ้าในตัว เล็ก ๆ ไม่มีอะไรแต่ว่าก็หลับสบายไม่ต้องกลัวนอนไม่ได้ แต่ถ้าใครมา 20 คนก็แนะนำว่ามาไปกลับดีกว่าค่ะ เดียวจะไม่มีที่นอน 55555  

DAY 2

ตื่นเช้าจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่เมื่อคืนฝนตกหนักเลยไม่เห็น แต่ที่พีคคือนอนสบายไม่รู้เรื่องเลยว่าฝนตก 5555 และเช้ามาเชฟของเราก็ทำอาหารรอเลยจ้า งานนี้คือแปรงฟันมานั่งกินก่อนเลย เป็นอาหารเช้าที่แฮปปี้มากที่สุดเลย   

กินเสร็จก็จะไปอาบนํ้าแต่งตัว วันนี้ถือว่าฟ้าฝนเป็นใจมีแดดอยู่เลยทำให้ขากลับสามารถยืนถ่ายรูปได้แบบรัว ๆ ไปเลยจ้า  

ทะเลเมืองไทยนี้สวยจริง ๆ หน้าฝนก็ยังสวย  

ใช้เวลาจากพังงามาถึงอ่าวปอ ภูเก็ต ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงฝั่ง รถก็มารอรับไปโรงแรม ซึ่งก่อนกลับก็พูดคุยขอบคุณพี่ ๆ ทั้ง 3 คนที่ดูแลพวกเราอย่างดี ทั้ง ๆ ที่พี่เค้าเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิงแต่ไม่รู้สึกเกร็งอะไรเลยตอนอยู่บนเรือ แถมพี่ ๆ เค้าดูแลดีมาก ทำกับข้าวเก่ง ถ่ายรูปเก่ง ให้ความรู้เรื่องเกาะต่าง ๆ แก๊งค์เราวุ่นวายพอควร  

แต่พี่เค้าก็ไม่รำคาญเลย ก็เลยมีการให้สินนํ้าใจเล็กน้อยจากพวกเราแทนการขอบคุณ อยากจะบอกว่าคือคุ้มมากจริง ๆ ไม่เสียดายเงินเลยแฮปปี้มากกับการลงเรือยอร์ชที่ภูเก็ตครั้งแรก  

Fin Hostel Phuket

จากนั้นพวกเราก็นั่งรถจากท่าเรืออ่าวปอมาที่โรงแรมซึ่งอยู่ในย่านหาดกะตะ ซึ่งที่พักเราจองสองที่แยกกัน แต่ว่าอยู่ใกล้กัน ติดกันเลยเป็นที่พักในเครือเดียวกัน แยกเพราะว่าห้องเต็ม ที่แรกจะชื่อว่า Fin Hostel Phuket ราคาจองใน Booking.com อยู่ที่ 770 ฿ ราคาถูกมาก แต่ดีงาม  

หลังจากทุ่มไปกับล่องเรือ ก็ต้องประหยัดหน่อย 5555 ซึ่งราคาไม่รวมอาหารเช้า ห้องเตียงใหญ่มีห้องนํ้าในตัว ถ้าใครเลือกห้องนํ้ารวมนอนรวมก็ถูกไปอีก   

ย่านนี้ก็เป็นอีกย่านที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยทั้งต่างชาติมาพัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติมากกว่าและก็งานดีด้วย 555 ที่พักก็น่ารักปุ๊กปิ๊กมาก อารมณ์แบบอยู่เมืองนอกเก๋ ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ ห้องก็กว้างขวางหลับสบาย ฟินสมชื่อ คือแค่นี้ก็คุ้มแล้วอ่ะกับราคานี้ อยู่ตั้ง 3 คืนประหยัดได้อีกเยอะ  

Must Sea Hotel

โรงแรมอีกที่คือ Must Sea Hotel อยู่ข้าง ๆ กันเลย อันนี้จะราคา 650 ฿ ไม่รวมอาหารเช้า ถูกกว่า Fin นิดหน่อย

การตกแต่งของ Must Sea Hotel จะต่างจาก Fin อันนี้จะมีความเป็นทะเล โรงแรมถูกตกแต่งด้วยเซิร์ฟบอร์ด เพราะที่ Must Sea มีแพ็คเกจสอนเซิร์ฟบอร์ดด้วย และหาดกะตะ กะรน ที่อยู่ใกล้ที่พักเค้าบอกว่าเหมาะกับการเล่นเซิร์ฟมาก   

สำรวจที่พักเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันอาบนํ้าใหม่ เพราะจะไปกินข้าวกัน โดยพวกเราขับรถมาหาอะไรกินกันในเมือง จากที่พักมาในเมืองไม่ไกลมากแปปเดียวถึง    

 ร้านวันจันทร์

ร้านที่เรามากินข้าวคือ ร้านวันจันทร์ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นร้านดังในภูเก็ตเลย ร้านตกแต่งแนววินเทจเหมาะกับการถ่ายรูป  

ที่ร้านวันจันทร์ไม่ได้มีดี แค่การตกแต่งร้าน แต่อาหารเค้าอร่อยพวกเราสั่งข้าวสองโถว สั่งอาหารเบิ้ลสองรอบจ้า มา 5 คนกินกันหน้ากลัวมาก  

กินไปทั้งหมด 2,145 ฿ ที่ชอบเลยคือเหมียงผัดไข่ กับเซ็ตนํ้าพริกวันจันทร์ อร่อยมากกกก และที่สั่งเพิ่มมาคือห่อหมกเนื้อปู เนื้อแน่นมากควรสั่ง เป็นการกินข้าวอีกมื้อที่แฮปปี้ จากร้านวันจันทร์สามารถเดินไปยังเมืองเก่าถ่ายรูปตามตึกต่าง ๆ ได้ จริง ๆ พวกเราเคยมากันแล้ว แต่ก็อยากถ่ายอีกก็เลยเดินไปถ่ายอีก บวกกับวันนี้เป็นวันอาทิตย์ มีถนนคนหลาดใหญ่ พอดี ก็เลยจะไปเดินกัน  

ย่านเมืองเก่า

จากที่กินข้าวแล้ว ก็เดินเล่นย่านเมืองเก่า ถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ   

ถนนคนเดินหลาดใหญ่

จากนั้นก็เดินต่อไปยังถนนคนเดินหลาดใหญ่ ซึ่งถนนคนเดินหลาดใหญ่จะมีเฉพาะวันอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็น ของกินอร่อย มีของให้ซื้อเยอะ  

วันที่ไปคือฝนเดียวตกเดียวหยุด แต่ก็ยังให้พอเดินไปไม่มีปัญหา อย่างที่บอกตกไม่ถึง 5 นาทีก็หยุดให้เดินละ  

ของกินที่นี่อร่อย โดยเฉพาะขนมอาโป้ง เป็นขนมโบราณของภูเก็ต คนต่อแถวเยอะมาก แต่ก็รอไม่นาน 4 ชิ้น 20 กินร้อน ๆ อร่อยดี   

เดินไปเดินมาไปเจอร้านนี้ ชิคมากเหมาะกับการถ่ายรูปสุด แต่ไอติมแพงมากแม่เจ้า 150 ฿   

เดินถนนคนเดินเสร็จก็กะจะไปกินร้านโกเบ๊นซ์ ข้าวต้มแห้งภูเก็ตที่ดัง ๆ แต่ด้วยความอิ่มของขนมที่หลาดใหญ่ เลยจะหาร้านนั่งพักก่อน ซึ่งร้านที่เราเลือกแลดูเหมือนจะไม่พักเพราะไปร้านโรตี ร้านนี้มีชื่อว่า ร้านน้ำชาโรตีอันดา อยู่หน้าโรงแบตดาวรุ่ง โรตีคือยืนหนึ่งแป้งดีงามมาก ซึ่งการมาภูเก็ตก็ควรมากินโรตี และร้านนี้ก็คือดีงาม  

ว่าจะพักเบรกก็ไม่ได้พัก ทุกคนอิ่มมากแต่ก็อยากกินข้าวต้มแห้งมาก ก็เลยตัดสินใจไป อิ่มแต่ก็สู้ 5555555 ก็สั่งมาคนละชามเบา ๆ กับหมูกรอบ 1 จาน ร้านนี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก ดังและอร่อยอยู่แล้ว แต่อยากจะบอกคนที่ไม่เคยกินและคิดว่าข้าวต้มแห้งมันจะอร่อยยังไง คือข้าวอ่ะมันนุ่มลื่นคอมาก กินกับนํ้าซุปยิ่งดี มันไม่ใช่ข้าวแข็ง ๆ เวลาเรากินข้าวต้ม ส่วนหมูกรอบ นี้คือกรอบสมชื่อจริง ๆ     

กินเสร็จแล้ว ก็กลับห้องไปนอนพร้อมลุยต่อพรุ่งนี้  

DAY 3 

เริ่มต้นทริปด้วยการไปไหว้พระทำบุญก่อน ซึ่งแน่นอนว่าวัดดังภูเก็ตก็คือวัดไชยธาราราม หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่าวัดฉลอง หลวงพ่อแช่ม ซึ่งวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินทางมาง่ายขับรถแปปเดียวถึง ที่วัดมีทั้งคนไทยและก็ต่างชาติ สาย ๆ คนจะเริ่มเยอะหน่อย  

Three Monkeys Restaurant

ไหว้พระทำบุญกันเสร็จเราก็ไปหาข้าวเช้า ที่รวมเป็นข้าวเที่ยงด้วย พวกเราเลือกร้าน Three Monkeys Restaurant  ร้านนี้เป็นคาเฟ่กลางป่า มีทั้งของคาวของหวาน ราคาไม่แพงถ้าเทียบคุณภาพ อาหารอร่อยมากกก ทั้งคาวทั้งหวาน ครบจบที่เดียว ที่สำคัญมุมถ่ายรูปเยอะมาก บรรยากาศดีมาก ๆ ขนาดไปกลางวันยังไม่ค่อยร้อน

พวกเรานั่งกันนานมากกกก เพราะกินทั้งคาวทั้งหวาน สั่งสองรอบสามรอบ มื้อนี้หมดไป 2,550 บาท ถือว่าไม่แพงเลย เพราะกินเยอะมาก แอบบอกว่าข้าวเหนียวมะม่วงดีงามมาก จากนั้นระหว่างนั่งก็ทำการหาข้อมูลว่ามีร้านไหนน่านั่งน่าไปอีก เพราะเราจะนั่งรอฆ่าเวลาไปเล่นนํ้าตอนเย็น 

Sweet Talk Phuket

ก็ไปเจอร้านไอติมที่อยู่หาดกะรน มีชื่อว่า Sweet Talk Phuket เป็นร้านที่ Cute มากกกกก น่ารักปุ๊กปิ๊กสุด ๆ สีพาสเทล ไอติมแพงไปนิด โคนนี้อยู่ที่ 150 ฿ แต่ร้านน่ารักให้อภัย และก็ไอติมอร่อย สั่งบลูเบอรี่โยเกิร์ตมา  

กินไอติมเสร็จพวกเราก็กลับไปเปลี่ยนชุดที่โรงแรมเพราะว่าจะไปเล่นนํ้าที่หาดกะตะ สามารถเดินจากโรงแรมไปได้เลยไม่ไกล  

พาลิซ่ามาเที่ยวด้วย ก่อนหน้าก็ไปดูคอนมาก็เลยพาน้องมาเที่ยว 555555555

หาดกะตะเป็นหาดที่ดีงามเหมาะกับการเล่นนํ้าเพราะคลื่นไม่แรงเท่ากะรน แต่ว่าก็แรงอยู่นะ แต่สนุกมาก กรี๊ดกันเป็นเด็กเลย คลื่นใหญ่สะใจแต่ก็ต้องระวังเพราะน่ากลัวอยู่ 5555 นอกจากเล่นนํ้าหาดกะตะยังเหมาะกับการเล่นเซิร์ฟด้วย คนนิยมมาเล่นที่นี่ จริง ๆ จะเรียนเซิร์ฟกับที่โรงแรมเพราะว่าที่โรงแรมมีแพคเกจสอนด้วย แต่ว่าใจก็กลัวอยู่ก็เลยไม่ได้เล่น แต่ใครมาพักที่นี่และอยากเล่นก็ติดต่อได้เลย ไม่แพง   

บ้านปิ้งย่างภูเก็ต

พวกเราเล่นนํ้านานกันพอสมควร สนุกสนานมาก เหมือนกับไปเป็นเด็ก 55555555 เล่นเสร็จอาบนํ้าแต่งตัวใหม่ไปหาอะไรกิน มติไปลงที่ปิ้งย่าง ก็ไปเจอรีวิว ร้าน บุฟเฟ่ต์บ้านปิ้งย่างภูเก็ต 199 ฿ เพิ่มเตาปิ้งย่าง +100 ฿   

อาหารก็ถือว่าเยอะอยู่คุ้มค่ากับราคานี้ อร่อยไม่แพง แต่ที่เด็ดคือเป็นร้านที่นํ้าจิ้มอร่อยมาก แบบมาก ๆ เล่นนํ้ามาเหนื่อย ๆ หิว ๆ นี้ฟินเลย   

หลังจากกินเสร็จพวกเราก็ขับรถเล่นไปป่าตอง ใช้เวลาไม่นานประมาณครึ่งชั่วโมงตอนแรกจะหาร้านนั่งแต่ว่าไม่มีที่จอดรถ ก็เลยวน ๆ ดูบรรยากาศ มาช่วงหน้า Low ก็ถือว่าคนน้อย แต่จากที่ถามคนแถวนั้นเค้าก็บอกด้วยเศษฐกิจด้วย เพราะแต่ก่อนหน้า Low ก็ไม่เหงียบเหงาขนาดนี้ ขับวนดูบรรยากาศก็จะเที่ยงคืนแล้วพวกเราก็เลยกลับแยกย้ายนอน    

DAY 4

วันสุดท้ายแล้ว เวลาวันหยุดและความสนุกผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ตื่นช้าหน่อย กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็เก้าโมงกว่าแล้ว ไฟท์กลับเราคือ 16.50 ก็เลยมีเวลาไปหาอะไรกินกัน ไม่ต้องรีบ เช้านี้เราไปกิน ร้าน มาลาติ่มซำ (MALA DIMSUM) อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินไปตาม map   

อร่อยมาก พวกเรากินกันเยอะมาก ที่ร้านไม่ได้มีแค่ติ่มซำนะคะ ยังมีทั้งขนมจีน ข้าว อาหารฝรั่ง อาหารไทย อาหารพื้นเมือง มีเยอะมาก พวกเรากินกันเยอะอยู่เหมือนกันหมดไปประมาณ 900+   

กินเสร็จระหว่างทางเจอร้านผลไม้ ไปเจอทุเรียนโลละ 150 ก่อนหน้านี้ก็ซื้อกินกันไปแล้ว มาวันนี้กินอีก ทุเรียนใต้ก็อร่อยนะ แถมไม่แพงด้วย อร่อยกว่าตอนไปกินที่ระยองอีก ดีงาม แก๊งค์นี้ไปไหนก็กินทุเรียนตลอด5555 จากนั้นก็เดินกลับมาที่พัก เรากับพี่อีกคนไปนวดกัน ที่เหลือไปหาร้านกาแฟกินรอเวลาไปสนามบิน   

Thanya Spa Phuket

ร้านนวดที่เรามาอยู่หน้าที่พักเลย ชื่อว่า Thanya Spa Phuket ร้านหรูหราพรีเมียมมาก และเนื่องด้วยทางเราทำงานหนักมาตลอด ก็เลยเลือกนวดหัว พี่เค้าก็บรรยายสรรพคุณที่ใช้นวดให้ แต่ก็ลืมไปละ 555 เอาเป็นว่าดี สบายมาก มีแถมนวดหลังให้ด้วย อยากจะทำต่อสักสองชั่วโมงเลย สบายตัวสุด ๆ ราคาอยู่ที่ 600 ฿   

นวดเสร็จก็ได้เวลารถมารับไปสนามบิน ซึ่งขาไปสนามบินฝนตกหนักมากกกกแบบมาก นึกในใจโชคดีมากที่เรามาเจอนิดเดียว พอให้อากาศดี และก็โชคดีต่อที่สองคือไฟท์บินไม่ดีเลย์ถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัย กลับมานี้รูปเยอะมากเกือบสองพันกว่ารูปได้ 555555555555    

จะบอกว่าประทับใจทุกอย่าง ตั้งแต่นั่งเรือยอร์ช โรงแรมที่พัก อาหารการกิน ที่เที่ยวทะเลใต้มากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังชอบอยู่ตลอดได้รูปสวยกลับไปทุกครั้ง มีแรงที่จะกลับมาทำงานต่อ ไว้ครั้งหน้าต้องเปลี่ยนจากหน้าฝนมาเป็นซัมเมอร์แน่นอน : )

ยังไงถ้าชอบรีวิวก็ฝากกดไลท์เป็นกำลังใจให้เพจฝ้ายด้วยนะคะ     https://www.facebook.com/puifaikamonblog/