หยุดเวลาไว้ที่ดอยหลวงเชียวดาว ไปกับซุปเปอร์ฮีโร่

วันที่เขียน 09/10/2019
ยอดเข้าชม

37

หยุดเวลาไว้ที่ดอยหลวงเชียวดาว ไปกับซุปเปอร์ฮีโร่

วันที่เขียน

09/10/2019

ยอดเข้าชม

37

หยุดเวลาไว้ที่ดอยหลวงเชียวดาว ไปกับซุปเปอร์ฮีโร่    

Pin: ดอยหลวงเชียงดาว

Trip: ยอดมนุษย์: ตอน ดอยหลวงเชียงดาว อาวๆๆ

Road trip: กาญจนบุรี-เชียงใหม่ (ขึ้นปางวัว ลง เด่นหญ้าขัด)

Date: 7-8 ธันวาคม 2558 (2 วัน 1 คืน)

Travel Cost: กลุ่ม 5 คน คนละ 1034 บาท

Detail: รีวิวการเดินป่าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวไปกับซุปเปอร์ฮีโร่ โอ้โหตัวอะไรเนี่ย

หลังจากที่ทริปยอดมนุษย์ได้ดำเนินต่อมาถึงดอยที่ 2 จากทั้งหมด 6 ดอย ผ่านด่านแรกไปกับสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว โฆษณาแอบแฝงไม่แอบแฝง แสดงโต้งๆ --> http://pantip.com/topic/35927685 เราจึงเดินทางมาพิชิตยอดดอยลูกต่อไปนั่นก็คือ "ดอยหลวงเชียงดาว" ได้ข่าวว่าที่นี่สวยมาก ความอยากจึงบังเกิด จิตใจนี่เตลิดไปถึงบนยอดแล้ว ช้าอยู่ไย ไปกันเลยดิ Let go!!...  

ดอยหลวงเชียงดาว เป็นดอยหรือยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย สูงถึง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล อยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณรอบๆรายล้อมไปด้วยภูเขาลูกน้อยลูกใหญ่มากมาย วิวข้างทางก็สวยจนอดที่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปบ่อยๆไม่ได้ เรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้สรรค์สร้างจากธรรมชาติที่สวยตั้งแต่ระหว่างทางยันปลายทางกันเลยทีเดียว หากชอบความสูงที่ไม่ค่อยหวาดเสียว มาเดินป่าที่ไม่เปลี่ยว แต่เที่ยวไปด้วยกันเลยดีกว่า มามะ มาเที่ยวกันเถอะ..  

หนทางที่ยาวไกล ย่อมมาพร้อมการจองที่เกือบยาวนาน เรื่องมันมีอยู่ว่า... หากมีแพลนที่จะเดินป่า ขึ้นดอยหลวงเชียงดาวนั้น เราต้องจองล่วงหน้าเดือนหนึ่ง หากเราจะเดินทางไปในเดือนหน้า (งงล่ะสิ?) เอาเป็นว่าจะยกตัวอย่างให้ดูละกัน  

Ref. เพจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่

จากรูปด้านบนจะเป็นปฏิทินในการจองขึ้นดอยหลวงเชียงดาว นั่นก็คือสมมติว่าเราจะไปเดินขึ้นดอยในเดือนธันวาคม (เรื่องจริงก็ได้ 55) เราก็ต้องจองในเดือนพฤศจิกายน ตัวล่างในกรอบคือวันที่ที่สามารถโทรจองได้นั่นก็คือ 15-30 พฤศจิกายน ง่ายๆก็คือจองก่อนเดินทาง 15 วันนั่นเอง พอจองได้สำเร็จเราก็ต้องส่งรายชื่อไปยังเจ้าหน้าที่ผ่านทางอีเมล์ [email protected] เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ https://www.facebook.com/1907831442777293

ปล. การไปเป็นกลุ่มจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และไปหลายคนก็สนุกดีนะ


การเดินทาง

  • รถส่วนตัว: ขับไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว
  • รถประจำทาง: นั่งรถเมล์ส้มมาลงเชียงดาว แล้วต่อสองแถวเข้าที่พัก (กรณีจอง)
  • อื่นๆ: ตามสะดวก


ค่าใช้จ่ายสำหรับอุทยาน

  • ค่าลูกหาบคนละ 500 บาทต่อวัน (จ้างก็ได้ ไม่จ้างก็ได้)
  • ค่าธรรมเนียมเข้าเขตคนละ 20 บาท
  • ค่าธรรมเนียมรถคันละ 30 บาท
  • ค่าเต้นท์หลังละ 30 บาท
  • ค่ามัดจำขยะกลุ่มละ 600 บาท (ตอนลงมาเก็บขยะลงมาด้วย เพื่อแลกเงินคืนภายหลัง)
  • ค่ารถ ทางปางวัว(1200 บาท), ทางเด่นหญ้าขัด(1800 บาท)


เส้นทางขึ้น-ลง

1.เส้นทางปางวัว: ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง (ส่วนมากเป็นทางชัน)

2.เส้นทางเด่นหญ้าขัด: ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 3 4 5 ชั่วโมงแล้วแต่หยุด (พื้นราบเป็นส่วนใหญ่ และหญ้าเยอะ)

***โดยเฉลี่ยใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง


ปล.1 ส่วนมากคนจะเดินขึ้นเส้นเด่นหญ้าขัด และลงทางปางวัว เพราะเดินขึ้นง่าย และเดินลงเร็ว  

ปล.2 ระยะเวลานั่งรถเพื่อไปยังจุดเดินเส้นทางเด่นหญ้าขัดจะนานกว่าปางวัวใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว แต่ปางวัว 15 นาที  

ปล.3 ข้อดีของการมีลูกหาบคือนอกเหนือจากที่เขาจะช่วยเราแบกสัมภาระแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการนำไปยังจุดชมวิวต่างๆ และจองพื้นที่กางเต้นท์ด้วย  


หมายเหตุเพิ่มเติม

ปล1. จำกัดนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 150 คน

ปล2. มีส้วมหลุม

ปล3. ไม่มีต้นน้ำ เตรียมน้ำไปให้พร้อม

ปล4. มีจุดชมวิวหลัก 3 จุด ได้แก่ ยอดดอยหลวงเชียงดาว, กิ่วลมเหนือ, กิ่วลมใต้


ตอนที่ 0 พักกาย พักใจ

6 ธันวาคม 2559 เราได้เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ แต่ยังไม่ทันได้สวัสดีที่พัก เพื่อนรักนักเปิด Map ก็พาเราหลงไปยังศูนย์รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องแวะทักทายสักหน่อย ก่อนจะล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว คืนนี้เราจะปักหลักกันที่ "Chiang Daoเชียงดาวสตอรี่แคมป์" เพื่อเตรียมตัวขึ้นดอยหลวงเชียงดาวในวันรุ่งขึ้น สนใจติดต่อพี่อู๊ดได้ 081-733-8505 มีบริการที่พัก และ เตรียมอาหารสำหรับเดินขึ้นดอยด้วย  

ด้วยความที่ไม่อยากไปสบาย (เอ้ะยังไง?) เราจึงเลือกที่พักแบบอาคาร A เฟรม มีลักษณะเป็นหลังคาคว่ำลง เปิดโล่งด้านข้าง รับลมหนาวได้สบาย (หรือหนาวกันนะ?) แต่มีมุ้งกันยุงให้ เป็นที่พักนอนรวมจุได้ 8 คน มาคนเดียวก็นอนได้ คิดหัวละ 200 บาท ห้องน้ำมีสบู่ แชมพู และน้ำอุ่นให้พร้อม..  

ภาพตัดมาที่เช้านี้ อากาศดีๆ เหมือนจะแจ่มใสเลยละกัน อาหารที่เราทานคิดเป็นหัวนะคะ หัวละ 80 บาท ได้เยอะมาก อร่อยด้วย ว่าแล้วก็กระซวกกันเลยดีกว่า แฮ่ๆๆ  


ตอนที่ 1 ปางวัว หรือ ปางตาย

เขาว่า... ขึ้นทางปางวัวนั้นโหดนะ เปลี่ยนไปขึ้นทางเด่นหญ้าขัดเถอะ เดินง่ายกว่า โดนกดดันต่างๆว่า เฮ้ยย!!.. เพิ่งหัดเดินป่า แน่ใจนะว่าจะขึ้นปางวัว เท้าแตกแน่ๆ แม้ทางจะสั้นกว่าแต่มันชันนะ เดี๋ยวก็ได้เหนื่อยเดินช้า ถึงก็เวลาพอๆกับเส้นทางเด่นหญ้าขัดแหละ ด้วยความที่ไม่เชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ อุดมการณ์มึนจึงเกิดขึ้น ชอบขึ้นทางเด่นหญ้าขัดและลงทางปางวัวกันนักใช่ไหม ได้!! เราจะไปขึ้นปางวัวแต่ลงเด่นหญ้าขัดกัน เฮ่!!  

พยายามจะทำวิธีต่างๆ ให้เดินถึงเขา  

พยายามทุกก้าว มอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ  

เหมือนเดินบนสะพานที่มีปลายทางคือใจของเธอ  

ยังคงคิดและหวังจะนำเอารักสัมภาระนี้ไปให้  

แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที  

แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป  

อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร  

อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที  

อีกไกลแค่ไหนจนกว่าจุดกางเต้นท์ เสียที (นอนตรงนี้เลยได้ไหม)  

มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ ได้โปรด  

บอกกับฉันให้รู้ที ว่าสุดท้ายแล้วฉันควรเดินต่อไหม  

ยังไม่คิดยอมแพ้ ฉันเพียงแต่อ้อนล้าก็เท่านั้น  

ภายในป่ายังคงเดินขึ้นเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน  

คงจะดีไม่น้อย ถ้าเธอบอกให้ฉันได้รับรู้  

ทางชันที่แสนไกล เหตุผลต่างต่างที่ยังซ่อนไว้  

ว่าทำไมเดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที  

แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป  

อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร  

อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที  

อีกไกลแค่ไหนทางจะเลิกชัน เสียที  

มีทางใดที่เดินลัดไปจุดกางเต้นท์ ได้โปรด  

บอกกับฉันให้รู้ที  

ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีแบตเหลือ  


ตอนที่ 2 อ่างสลุง กับ ยอดสูงสุด

หลังจากที่เราเดินจากจุดเริ่มต้นเวลาเที่ยงเศษๆ เราก็มาถึงจุดกางเต้นท์อ่างสลุงเวลาบ่าย 2 นิดๆ เกือบบ่าย 3 โมง (นี่เดินหรือวิ่ง? 555) ก็ไม่ได้รีบอะไรนะ เดินถ่ายรูปไป พักบ้าง อู้บ้าง กินบ้าง บึ้ดจ้ำบึ้ดกันมาอย่างรวดเร็วเฉย งงเลย 555 สำหรับเส้นทางปางวัวนั้นจริงๆก็เดินไปยากนะ แต่ยากตรงที่ทำยังไงถึงจะไม่ให้ลื่น เพราะเป็นทางชัน ที่มีความมันส์เป็นดินเหนียวแน่นๆ ซึบซับเกาะเป็นแผ่นกับรองเท้า ดอกยางแค่ไหนก็มีวืดกันบ้างล่ะ  

ในช่วงแรกก็จะเป็นทางชันขั้นบันได ต่อมาก็เข้าดงไม้ไผ่ สักพักก็เจอดงกล้วย (แต่กล้วยหมด เหลือแต่ต้น 55) เลี้ยวหลบหักมุมแปบนึงก็จะเจอโหดหิน ฟินไปกับมอสข้างทาง ไม่นานก็จะเจอกับแสงแดดแผดเผา ร่มหญ้าก็เอาไม่อยู่ (มันเตี้ย) เดินขาเปลี้ยขึ้นเนินมาเรื่อยๆ ถ่ายวิวเรื่อยเปื่อยได้ตลอดทาง เพราะวิวสวยมาก ฟ้าใส เมฆก็อลังการมาก จากที่คิดว่าจะเก็บแบตไว้ถ่ายจุดชมวิว จำเป็นต้องหิ้วแบตสำรองขึ้นมาใช้ทันใด คาดว่าหลายๆคงอดใจไหม วิวอะไรสวยเป็นบ้า มาม่าก็หิ้วขึ้นมากินได้ 55  

ดอยหลวงเชียงดาวมีดาวให้สอยไหม ขอสอยหน่อย จึ้กๆๆ นี่คือเต้นท์ พร้อมเสบียง (ส่วนคนในเต้นท์นั้นกินไม่ได้นะ 55)

ขณะเวลาเกือบบ่าย 3 โมงเราจึงนั่งพักกันสักครู่หนึ่งก่อนว่าจะเอาอย่างไรกับวิถีชาวเขาต่อ อีก 3 ชั่วโมงพระอาทิตย์จะตกดิน เราจึงคิดว่าจะไปกิ่วลมใต้ก่อน แล้วก็กลับลงมาขึ้นยอดสูงสุดต่อ คำนวนเวลาแล้วขึ้นกิ่วลมใต้ 40 นาที ลงอีก แล้วก็ไหนจะถ่ายวิวนุ่นนี่อีก เบ็ดเสร็จก็ 2 ชั่วโมง แล้วเดินขึ้นยอดสูงสุดใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เท่ากับว่าเราต้องลงจากกิ่วลมใต้มายังอ่างสลุงตอนห้าโมงเย็น เพื่อทำเวลาขึ้นยอดสูงสุดอีกครึ่งชั่วโมง วิ่งดิ เอ๋ รออะไร แต่เอ๋คิดว่า ถ้ารีบแบบนี้สุดท้ายก็จะไม่ได้อะไรเลย กิ่วลมใต้ก็ไม่ได้พระอาทิตย์ตก ขึ้นยอดสูงสุดพระอาทิตย์ก็อาจจะตกไปแล้ว แห้วคู่ไม่ดีแน่ๆเลย เราจึงนอนเปื่อยๆ รอ 4 โมงเย็นค่อยเดินชิวๆไปยังยอดสูงสุดละกัน (พับโครงการอย่างเป็นเอกฉันท์ 555)  

ปะ ไปปีนเขากัน  

เรียบเรียงโดย PinTrip

09/10/2019

ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว.. ของคนรุ่นใหม่

สิ่งที่เราอยากแนะนำ