เที่ยวไทยเท่ กับการท่องเที่ยวเมืองรองของไทยที่จะพาเรามุ่งสู่ชุมชนบ้านบางพลับ

วันที่เขียน 22/12/2018
ยอดเข้าชม

32

เที่ยวไทยเท่ กับการท่องเที่ยวเมืองรองของไทยที่จะพาเรามุ่งสู่ชุมชนบ้านบางพลับ

วันที่เขียน

22/12/2018

ยอดเข้าชม

32

เขียนโดย doubletee

past-time traveller, full-time cafehopper

เที่ยวไทยเท่ กับการท่องเที่ยวเมืองรองของไทย รอบนี้เราออกไปเที่ยวกับ TakeMeTour ที่จะพาเรามุ่งสู่ชุมชนบ้านบางพลับ เพื่อเรียนรู้วิถีชุมชน รวมถึงอาหาร LocalTable ที่เข้าถึงความเป็น Local อย่างแท้จริง

มาดูการใช้ชีวิตตามแบบวิถีชาวบ้านของจังหวัดสมุทรสงครามกัน

อ่านรีวิวเต็มๆ ได้ที่นี่ : https://th.readme.me/p/21974

ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ TakeMeTour ที่ได้ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Local Table - Taste Thailand on the LocalTable เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น

หากสนใจทริปของ TakeMeTour สามารถเข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.takemetour.com/localtable

ทริปนี้เรามุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม

มายังที่แรกตลาดแม่กลองหรือตลาดร่มหุบ ตลาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมา เนื่องจากเป็นตลาดที่เปิดทุกวัน และมาเพื่อชมรถไฟวิ่งผ่านตลาด โดยก่อนรถไฟมาร่มก็จะยังเต็มพื้นที่

และทุกอย่างก็ถูกเก็บเมื่อถึงเวลารถไฟผ่าน โดยรถไฟจะผ่านตลาดช่วงเวลา 11.10 น. 11.30 น. 14.30 น. 15.30 น.

ระยะความใกล้มาก

เมื่อรถไฟผ่านไปร่มก็เริ่มกลับมากางตามเดิม

สำหรับที่ตลาดแม่กลองนี้เป็นตลาดท้องถิ่น ที่ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ของที่ขายก็ยังคงขายในราคาปกติ

ของขึ้นชื่อของแม่กลอง ปลาทูแม่กลอง

สำหรับร้านคาที่แบกับพื้นแบบนี้ เวลารถไฟผ่านก็สามารถวางทิ้งได้เลย

มีอาหารซีฟู้ดทั้งหลาย

เจอของน่าสนใจตับปลาทู

แกงหอยขม

ตลาดที่นี่เป็นตลาดที่สะอาดสมกับรางวัลที่ได้รับ

เนื่องจากสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ปลูกมะพร้าวได้ดี เนื่องจากสภาพน้ำกร่อย ทั้งมะพร้าวน้ำหอมและกะทิจึงเป็นของขึ้นชื่อ ขนมทำจากกะทิทั้งหลายจึงเป็นของที่ไม่ควรพลาด อย่างเช่นขนมครก

ส่วนพวกร้านอาหารมีร้านอาหารแนะนำอย่างร้านบะหมี่เกี๊ยวก๋องเมงจั้น ที่ทำเส้นบะหมี่เอง

และร้านข้าวมันไก่ชั้น 1 ของโรงแรมสวัสดี โรงแรมแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสงคราม

ออกเดินต่อมายังจุดหมายของเราชุมชนบ้านบางพลับ

สิ่งแรกที่รอต้อนรับเราอยู่คืออาหารท้องถิ่นที่ปรุงจากวัตถุดิบในชุมชน ได้แก่ เมนูต้มส้มหยวกกล้วย, น้ำพริกปลาทู, แกงกระดองกรุบ และขนมสัมปันนีกล้วย

อาหารรสชาติอร่อยทุกอย่างเราตอบแทนเจ้าบ้านด้วยการกินหมดไม่มีเหลือ ทั้งปลาทูที่ขึ้นชื่อ กระดองกรุบจากมะพร้าวในสวน หยวกกล้วยและสัมปันนีจากกล้วยจากในชุมชน

ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตร

คุณสมทรง แสงตะวัน ตัวแทนของชาวชุมชนบ้านบางพลับ ที่ได้รวมตัวกันทางด้านการเกษตร โดยเป็นผู้นำในการปลูกส้มโอแบบไม่ใช้สารเคมี จนในปัจจุบันในชุมชนได้มีการร่วมกันปลูกจนได้ผลผลิตจำนวนมาก และได้เริ่มพัฒนาที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรฯ โดยที่นี่จะเป็นศูนย์กลางมีจักรยานพร้อมเส้นทางการปั่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับวิถีชุมชนของชาวบ้านบางพลับ

วิถีชุมชนที่เราได้สัมผัสคือการทำน้ำตาลมะพร้าว

เคี่ยวน้ำตาลจนเป็นยางมะตูม ยกลงใช้เหล็กกระทุ้งน้ำตาลให้แห้ง

จนเหนียวได้ที่ตักรวมในภาชนะ

ตักหยอดน้ำตาลลงบนพิมพ์

เป็นขั้นตอนสนุกๆ ที่ได้ลองลงมือทำ สวยบ้างเละบ้าง

เมื่อแห้งแล้วแกะออกจากแบบพร้อมจำหน่ายและรับประทาน ถ้าใครลองได้ชิมน้ำตาลมะพร้าวจะทราบว่าน้ำตาลมะพร้าวจะมีรสหวานกลมกล่อม หอมและไม่บาดคอ และเนื่องจากที่นี่เป็นมะพร้าวน้ำกร่อยจะมีความอมเค็มนิดๆ เรียกว่าเอามากินเล่นยังเพลินทีเดียว

จากที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ เราปั่นจักรยานไปต่อกันที่ฐานอนุรักษ์ว่าวไทย ของคุณลุงอุดม มีคง

คุณลุงเองมีอาชีพเป็นเกษตรกร แต่ด้วยใจรักในว่าวไทย จึงมีงานอดิเรกเป็นการประดิษฐ์ว่าว และเปิดสอนให้กับคนที่สนใจอยากเรียนรู้

คุณลุงเริ่มสอนตั้งแต่วิธีมัดเชือก

ให้เราได้ทดลองแปะกระดาษ

เมื่อเสร็จก็จะได้ว่าวไทยง่ายๆ อย่างว่าวปักเป้า

แบบตกแต่งก็ยิ่งสวยงามไปอีก

จากบ้านคุณลุงอุดม ปั่นจักรยานต่อไปอีกไม่ไกลจะถึงศาลายอดขุนพลฅนเอาถ่าน สถานที่ผลิตถ่านผลไม้ดับกลิ่นอับชื้น

ที่นี่พี่หมึก สถาพร ตะวันขึ้น คนที่บอกว่าแต่ก่อนเป็นคนไม่เอาถ่าน จนมีจุดเปลี่ยนในชีวิตกลายมาเป็นคนสร้างรายได้จากถ่าน โดยที่นี่ไม่ได้เผาถ่านไม้ธรรมดาเพียงอย่างเดียว ยังเป็นการพัฒนาทำถ่านผลไม้ เพื่อใช้ในการดับกลิ่นอับชื้น ที่ทั้งสวย และมีประโยชน์

จากผลไม้เหล่านี้ที่หลายอย่างไม่มีค่า ไม่สามารถไปขายต่อได้

ได้ถูกแปลงสภาพเป็นถ่านหน้าตาดีแบบนี้

จุดเริ่มต้นจากการเผาถ่านไม้ธรรมดา แต่ในชุมชนที่เต็มไปด้วยผลไม้ พี่หมึกบอกว่าในชุมชนจะมีกลุ่มแม่บ้านที่ทำผลไม้แช่อิ่มอยู่แล้ว ซึ่งเราต้องทำอะไรที่ต่างออกไปเพื่อไม่ให้แย่งอาชีพกันและกัน ดังนั้นผลไม้ที่แคระแกรน ไม่ได้คุณภาพ นำไปขายหรือแช่อิ่มไม่ได้ ก็จัดการนำมาเผาเป็นถ่านซะ

ลองผิดลองถูกอยู่นานจนได้วิธีเผาถ่านที่ได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แค่ใช้ได้ แต่คิดไปจนถึงว่าถ่านที่ออกมา ต้องไม่มีเขม่าดำติดมือ

และนอกจากจะได้ถ่านแล้ว ยังได้ทั้งน้ำมันจากเขม่าควัน นำมาใช้ไล่แมลงศัตรูพืช

ท่อควันที่ขัดกันไว้ เพื่อให้น้ำมันไหลลงไปยังถังรอง

มาดูปี๊บที่เผาไว้เรียบร้อยแล้ว

ก็จะได้ถ่านผลไม้หน้าตาประมาณนี้

เราได้อะไรเยอะมากจากพี่หมึก จากบ้านพี่หมึกเราปั่นจักรยานไปต่อกันที่สุดท้าย

สวนผลไม้ ที่นี่คือแหล่งของต้นมะพร้าวที่ให้น้ำตาลกับเรา

จะเห็นกระบอกเก็บน้ำตาลอยู่บนต้น นอกจากต้นสูงๆ แบบนี้ยังมีมะพร้าวต้นเตี้ยที่สามารถเก็บน้ำตาลได้ง่ายๆ อีกด้วย

เรียบเรียงโดย PinTrip

22/12/2018

ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว.. ของคนรุ่นใหม่