สวัสดีครับ หลังจากได้รีวิวรีสอร์ท2เเห่งบนเกาะช้างไปเเล้ว คราวนี้จะมารีวิวที่กินที่เที่ยวของเกาะช้างเเละระหว่างทางที่ไปบ้างนะครับ ซึ่งเอาจริงๆ ที่เที่ยวเเทบไม่มีเพราะทริปนี้ผมเน้นกินๆ นอนๆเป็นหลักครับ
ทริปนี้ผมเริ่มต้นเดินทางจาก กทม ไปเกาะช้างด้วยการขับรถส่วนตัวไปครับ ซึ่งเดินทางมาได้ราว 2 ชม ก็มาถึงระยองครับ ผมเเวะทานกาเเฟมื้อเช้ากันที่ร้าน PASSIONE X RAYONG เพราะออกจากกทม เเต่เช้า เลยอยากได้คาเฟอีนซะหน่อย
ภายในร้านกว้างขวางดีครับ มีมุมให้นั่งเยอะเลย ช่วงผมไปยังไม่มีคน บรรยากาศเลยดูสบายๆครับ
ผมว่าคุณภาพขนมกับกาเเฟที่นี่ดีไม่เเพ้ กทม เลยครับ ใครผ่านมาเเถวระยองเเนะนำเลยครับ
จากนั้นก็ตรงไปท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เพื่อข้ามเรือเฟอรี่ ค่ารถ100 ค่าคน คนละ 40 บาท ซึ่งตอนข้ามโคตรหวาดเสียว รถผมเป็นคันสุดท้าย เเถมเขาอัดเเน่นจนท้ายรถผมเสมอขอบหลังของเรือเฟอรี่ (ขอบหลังไม่มีอะไรกั้นครับ เป็นทางโล่งๆเอาไว้เวลาเทียบท่าให้รถวิ่งขึ้นลง) เเละจอดเบียดเเน่นจนผมลงจากรถไม่ได้ เป็น1 ชม ที่นั่งหายใจไม่ทั่วท้องเลย
พอถึงฝั่งผมตรงไปทานอาหารที่ร้านเจ๊อิ๋วซีฟู๊ด ซึ่งรสชาติเเละราคาดีทีเดียว เสียดายหิวไปหน่อยลืมถ่ายรูป 5555 จากนั้นก็ไปเชคอินที่รีสอร์ทครับ คืนเเรกผมพักที่ Aana Resort ครับ ตัวรีสอร์ทร่มรื่นดีครับ มีเสียเวลารอนานตอนเชคอินนิดนึง เเต่ถือว่าเข้าใจได้
ที่รีสอร์ทมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายดีครับ ผมเลือกพายเรือคายัคช่วงเย็นๆไปยังริมหาด เพราะตัวรีสอร์ทจะอยู่ริมคลองตรงปากอ่าว บรรยากาศช่วงเย็นครึกครื้นดีครับ เเขกที่มาพักเล่นซับบอร์ด พายคายัคกัน สนุกดีครับ
ผมนั่งเล่นอยู่ริมหาดจนพระอาทิตย์ตก ก็พายเรือกลับที่พักครับ
มื้อค่ำคืนแรกผมฝากท้องไว้ที่ครัวตาเกลือซึ่งเป็นีร้านอาหารของAana Resort ทางร้านมีอาหารเป็นเซท ผมว่าสะดวกดีครับ รสชาติอาหารอร่อยดีครับสำหรับผม โดยเซทที่ผมสั่งจะมีปลาน้ำดอกไม้พล่า, หมึกผัดวุ้นเว้นกะปิ, ใบโกงกางทอดสอดไส้กุ้ง, ไก่ต้มกระวาน เเละเซตทะเลเผา เมื่อเทียบกับราคา1190 ผมว่าโอเคอยู่นะ
ทานไปสักพักก็มีโชว์ควงกระบองไฟให้ดูเพลินๆครับ
วันรุ่งขึ้นผมออกไปหาคาเฟนั่ง โดยคาเฟเเรกคือ Alarm Cafe ซึ่งตั้งอยู่ตรงชั้น 2 ของหนองบัวซีฟู๊ด ตรงคลองพร้าว
คาเฟเน้นกระจกโปร่งๆดี ช่วงผมไปฟ้าครึ้ม เลยยังไม่ร้อนมาก เเต่เเอบรู้สึกว่าถ้าวันไหนเเดดเเรง คงจะร้อนทีเดียว
ถัดไป ผมไปที่ Wari Coffee ซึ่งอยู่หน้าหาดคลองพร้าว ไม่ไกลจากAlarm เท่าไรนักครับ ตัวคาเฟ่เป็นอาคารเล้กๆตั้งอยู่ริมหาด บรรยากาศดูดีทีเดียว
ที่นี่มีที่นั่งทั้ง Indoor เเละ Outdoor ผมเเนะนำoutdoor บรรยากาศดีกว่าครับ รับลมทะเลสบายๆดี
ผมสั่งชาเขียวมาทาน รสชาติยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไรครับ
หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปเชคอินอีกรีสอร์ทครับ โดยคราวนี้ผมไปพักที่ Awa Resort ครับ
รีสอร์ทนี้จะออกเเนว Modern Chinese บรรยากาศโดยรวมดีครับ สวย ถ่ายรูปขึ้นมากครับ
ช่วงเย็นผมออกไปขับรถเล่นกัน ผ่านร้านหมึกซาซิมิริมถนนเลยเเวะลองกันครับ คนขายสุภาพ เเละทำดูสะอาดดีครับ เเนะนำๆครับ แผงตั้งอยู่ถนนคนเดินใกล้ๆ คชารีสอร์ท
จากนั้นก็กลับมาพักผ่อนที่Awa ครับ ที่นี่ช่วงเย็นตรงริมทะเลบรรยากาศดีครับ มีhappy hour ด้วย เหมาะมานั่งhang out ครับ
ช่วงเย็นผมเลือกฝากท้องไว้ที่รีสอร์ทครับ อาหารใช้ได้ ไม่ดีไม่เเย่ ราคากลางๆครับ
วัดถัดมาผมไปคาเฟ่ริมทะเลชื่อ Le Jaojom ครับ ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ริมทะเลเลยครับ ทางเข้าคาเฟมีการจัดสวยเเบบญี่ปุ่น บรรยากาศ contrast ดีครับ
ภายในตกเเต่งเเบบ oriental มีที่นั่งเยอะดีครับ เเบ่งเป็นโซนๆ เห็นมีห้องส่วนตัวด้วย
อีกฝั่งจะเป็นสนามหญ้า คงเอาไว้นั่งดื่มช่วงเย็น เเละมีหาดด้านหน้า เเต่หาดเเนวนี้จะเป็นหินครับ ไม่ใช่หาดทราย
ขนมเเละเครื่องดื่มที่นี่อร่อยดีครับ เเถมหน้าตาขึ้นกล้อง ราคาอาจจะสูงนิดนึง เเต่เมื่อเทียบกับร้าน การบริการ ผมว่าสมราคาครับ
จากนั้นผมเดินทาวต่อไปยังสะพานเเดงบ้านสลักเพชรครับ เพราะเห็นในรูปเป็นทางเดินสีเเดงทางกลางป่าโกงกางสวยดีครับ ทางเข้าค่อนข้างเล็ก ดุเเล้วไม่มีวี่เเววคความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่าไร ยังดีที่พอมีป้ายอยู่ ไม่งั้นคงคิดว่ามาผิด
ช่วงเเรกของทางเดินจะเป็นป่าครึ้มครับ บรรยากาศร่มรื่นดีครับเเต่ยังไม่สวยเท่าไร
สักพักก็จะเจอลานโล่ง ตรงนี้สวยครับ เเต่เอาจริงร้อนมากกก เเนะนำเอาร่มมาด้วยครับ
ถ้าเราเดินต่อไปจะเป็นริมทะเลครับ ผมเดินไป กลับใช้เวลาราวๆ 40 นาทีครับ เดินสบายๆ เคยอ่านเจอว่าทางเดินพังเป็นบางส่วน เเต่ตอนผมไปดีอยู่นะ สงสัยมีคนซ่อมเเล้ว
หลังจากนั้น ผมไปทานข้าวกันที่ สลักเพชรซีฟู๊ด ซึ่งเป็นร้านดังของเกาะช้างครับ ตัวร้านอยู่ริมอ่าว บรรยากาศดีใช้ได้อยู่ครับ
เดินเลยร้านไปหน่อยจะเป็นอ่าวจอดเรือ ตรงนี้วิวสวยครับ
ที่นี่น่าจะเป็นสะพานปลาด้วย เลยมีอาหารทะเลสดๆเยอะ
ผมสั่งปลาอินทรีย์ทอด หมึกหอด กุ้งลายเสือ หมึกไข่นึ่งมะนาว เเละผัดผัก โดยรวมรสชาติดีสมคำร่ำลือครับ ราคาอยู่ในระดับกลางๆไม่เเพงมากครับ
วันสุดท้ายมีเรื่องนิดหน่อยคือปั๊มน้ำของรีสอร์ทพัง น้ำไม่ไหล เลยลงมาทานอาหารเช้าทั้งที่ไม่อาบน้ำกันเลย อาหารเช้าที่ Awaกลางๆครับ ไม่ดีไม่เเย่
กว่าน้ำจะไหลปาไปเกือบเที่ยง ขากลับจึงรีบดิ่งไปท่าเรือเฟอรี่ ซึ่งเเน่นอน ผมได้เป็นคันสุดท้ายอีกเเล้ว เเถมด้านหน้าเป็นรถพ่วง ดีหน่อยที่คราวนี้เรือมีโซ่กั้นด้านหลัง
มื้อเที่ยงผมขับเข้าตัวเมือง ตอนเเรกตั้งใจจะไปกินเกี๊ยวหนองบัว เเต่ร้านดันหยุดประจำปี เลยไปกินก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิทเเทนครับ
ผมสั่งข้าวผัดพริกเกลือ, ทะเลลวก, เกาเหลากั้ง เอาจริงๆนะผมไม่ค่อยโดนเท่าไร เเอบผิดหวังเล็กๆ
ขากลับผมเเวะทานกาเเฟกันที่จันทบุรี ร้านที่เเวะคือซีห์ หรดี ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลเเถวเเหลมสิงห์
ภายในร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากมีมุมให้นั่งกรุบกริบ
ด้านหลังร้านจะเป็นสนามหญ้ากว้าง เเละมีที่นั่งรับลมทะเลครับ ผมว่าตรงนี้บรรยากาศดีครับ
ที่นี่น่าจะ pet friendly เพราะเห็นลูกค้าเอาเเมวมาด้วย น่ารักดีครับ
ตัวขนมเเละเครื่องดื่มรสชาติใช้ได้ครับ