1 วัน 1 คืน

สายโอตะคุควรไปเยือน เด็นเด็นทาวน์ (Denden Town) 🎮

วันที่เขียน 19/08/2019
ยอดเข้าชม

1,708

สายโอตะคุควรไปเยือน เด็นเด็นทาวน์ (Denden Town) 🎮

วันที่เขียน

19/08/2019

ยอดเข้าชม

1,708

#Osaka #ท่องเที่ยว

สายโอตะคุควรไปเยือน เด็นเด็นทาวน์ (Denden Town) 🎮  

นิปปอนบาชิ เด็นเด็นทาวน์ (Nipponbashi Denden Town) หรือที่เรียกกันติดหูว่า เด็นเด็นทาวน์ (Denden Town) นับว่าเป็น อากิฮาบาระ (Akihabara) ของเมือง โอซาก้า (Osaka) เลยทีเดียว โดยจะเป็นแหล่งรวมร้านขายของเล่น โมเดล เกมส์ หรือของสะสมต่างๆ โดยสมัยก่อนที่นี่เป็นที่พักอาศัย แต่ในปัจจุบันนี้เป็นย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง อุปกรณ์ช่าง เครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ ขายปลีกเทียบเท่า อากิฮาบาระ (Akihabara) ในโตเกียวเลย โดยสมัยเมจิจะเป็นย่านที่มีร้านขายหนังสือดังๆ เเต่พอหลังสงครามได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นร้านขายวิทยุ และเครื่องมือช่าง จนพัฒนามาขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน และต่อมาก็มีร้านคอสเพลย์ ร้านเมดคาเฟ่ ร้านขายของเล่น โมเดล เกมส์ หรือของสะสมต่างๆ เปิดตามกันมาเหมือนกับย่านอากิฮาบาร่า  

เนื่องจากเป็นคนชอบซื้อของเล่นโมเดล และเกมส์ต่างๆ ในทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวที่ โอซาก้า (Osaka) แล้วก็ได้ไปย่านและร้านของเล่นอยู่บ่อยๆ เลยอยากทำรีวิวแบบคร่าวๆ สำหรับชาวโอตาคุเหล่านักล่าของสะสม ของเล่น เกมส์ หนังสือการ์ตูนต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดมาก เพราะจำชื่อร้านไม่ได้มาก แต่ก็น่าจะมีประโยชน์ไม่มาก ไม่ก็ไม่มีประโยชน์เลยละ อิอิ เราได้พยายามถ่ายรูปมาให้ดูกัน แต่ต้องบอกเลยว่าร้านของเล่นส่วนใหญ่เกือบทุกแห่งในญี่ปุ่น เค้าไม่ค่อยให้ถ่ายรูปกันนะ เราก็เลยอาจจะถ่ายแค่หน้าร้านแล้วบอกรายละเอียดของด้านในร้านว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้างนะ แต่ถ่ายร้านไหนสามารถถ่ายให้ชมได้ก็จะลงให้ดูกันนะ  


วิธีเดินทาง

นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน

  • สาย Sakaisuji Line ลงสถานี Namba ออก Exit 5
  • สาย Sennichimae Line ลงสถานี Nipponbashi แล้วออก Exit 4


นิปปอนบาชิ เด็นเด็นทาวน์ (Nipponbashi Denden Town)

นิปปอนบาชิ เด็นเด็นทาวน์ (Nipponbashi Denden Town) หรือที่เรียกกันติดหูว่า เด็นเด็นทาวน์ (Denden Town) นับว่าเป็น อากิฮาบาระ (Akihabara) ของเมือง โอซาก้า (Osaka) เลยทีเดียว โดยจะเป็นแหล่งรวมร้านขายของเล่น โมเดล เกมส์ หรือของสะสมต่างๆ โดยสมัยก่อนที่นี่เป็นที่พักอาศัย แต่ในปัจจุบันนี้เป็นย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง อุปกรณ์ช่าง เครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ ขายปลีกเทียบเท่า อากิฮาบาระ (Akihabara) ในโตเกียวเลย โดยสมัยเมจิจะเป็นย่านที่มีร้านขายหนังสือดังๆ เเต่พอหลังสงครามได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นร้านขายวิทยุ และเครื่องมือช่าง จนพัฒนามาขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน และต่อมาก็มีร้านคอสเพลย์ ร้านเมดคาเฟ่ ร้านขายของเล่น โมเดล เกมส์ หรือของสะสมต่างๆ เปิดตามกันมาเหมือนกับย่านอากิฮาบาร่า  

เนื่องจากเป็นคนชอบซื้อของเล่นโมเดล และเกมส์ต่างๆ ในทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวที่ โอซาก้า (Osaka) แล้วก็ได้ไปย่านและร้านของเล่นอยู่บ่อยๆ เลยอยากทำรีวิวแบบคร่าวๆ สำหรับชาวโอตาคุเหล่านักล่าของสะสม ของเล่น เกมส์ หนังสือการ์ตูนต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดมาก เพราะจำชื่อร้านไม่ได้มาก แต่ก็น่าจะมีประโยชน์ไม่มาก ไม่ก็ไม่มีประโยชน์เลยละ อิอิ เราได้พยายามถ่ายรูปมาให้ดูกัน แต่ต้องบอกเลยว่าร้านของเล่นส่วนใหญ่เกือบทุกแห่งในญี่ปุ่น เค้าไม่ค่อยให้ถ่ายรูปกันนะ เราก็เลยอาจจะถ่ายแค่หน้าร้านแล้วบอกรายละเอียดของด้านในร้านว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้างนะ แต่ถ่ายร้านไหนสามารถถ่ายให้ชมได้ก็จะลงให้ดูกันนะ  


ร้าน Super Kids Land

ภายในร้านส่วนใหญ่จะขายพวกกันดั้ม พร้อมอุปกรณ์ประกอบโมเดลต่างๆ และของเล่นจากการ์ตูนคลาสสิคเรื่องต่างๆ อย่าง Saint Seiya และ Sailormoon  

เวลาเปิด - ปิด: จ - ศ 10.15 - 20.00 น. และ ส - อา 10.00 - 20.00 น. 


วิธีเดินทาง

นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน

  • สาย Sakaisuji Line ลงสถานี Namba ออก Exit 5
  • สาย Sennichimae Line ลงสถานี Nipponbashi แล้วออก Exit 4 

 

ร้าน Yellow Submarine

เป็นร้านครบเครื่องสำหรับนักสะสมกันเลย ร้านหลักตรงหัวมุม ชั้นแรกจะมีของออกใหม่ รวมถึงพวกงานจากกล่องสุ่ม งานแยกจากกาชาปอง มาแยกขายเป็นตัวๆให้ เหมาะสำหรับไม่อยากลุ้นดวงตัวเอง มาหยิบเอาตัวที่เราอยากได้เลย แต่ราคาก็จะ ถูก แพง แล้วแต่ความหายากด้วยนะ   


ร้าน Naniwa Dengyosha

โดยร้านนี้จะแบ่งเป็น 3 ชั้น ในร้านจะมีโมเดลจากตู้เครนเกมส์ หรือโมเดลจากตู้คีบต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนมากเป็นมือสอง มีทั้งกล่อง และแบบแกะซีลใส่ถุงพลาสติก เพราะฉะนั้นควรดูอุปกรณ์ในถุงกันดีๆ ว่าของครบไหมด้วยนะ ร้านค่อนข้างแคบ อัดแน่นด้วยของเล่น ชั้นแรกจะมีขายพวกโมเดลจากตู้เครนเกมส์ ชั้นสองจะเป็นพวกของเล่นขบวนการ มดแดง ต่างๆ ส่วนชั้นสามจะเป็นของเล่นโซนยุโรปพวกสตาร์วอลล์ หนังซุปเปอร์ฮีโร่ฝั่งอเมริกานั่นเอง   


ร้าน Super Potato

หน้าร้านสังเกตง่ายๆ มีหุ่น มาริโอ (Mario) ตัวใหญ่ตั้งอยู่เด่นๆ เลย โดยที่นี่จะเป็นร้านสำหรับคนคอ Retro Games ทั้งหลายครับ มีทั้งเกม และเครื่องเกมเก่าๆ ทั้งแรร์ และไม่แรร์ มือ1-2 ให้เลือกกันอย่างจุใจ และยังมีพวกบทสรุปเก่าๆ ของเกมต่างๆ ร้านนี้หน้าร้านจะขายพวกของจุกจิกของเกมคลาสสิก รวมถึงพวกฟิกเกอร์ก็มีบางส่วน ซึ่งราคาค่อนข้างโอเคเลยนะ และก็ทางซ้ายมือที่เป็นหลืบมืดๆ ถ้ามีเวลาลองเดินดูเผื่อเจอ Cassic Games ที่น่าสนใจได้ครับ  

เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 11.00 - 20.00 น. 

คนที่เคยเล่นเกมยุค 80 90 มาร้านนี้มีตายกันไปข้าง !!  


ร้าน Kotobukiya

เป็นร้านที่ขายสินค้าแบนด์ตัวเอง ซึ่งดังในเรื่องงานปั้นต่างๆ ที่มาจากการ์ตูน เกมส์ และหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทางฝั่งอเมริกามากมาย โดยจะมีตู้โชว์จัดได้ในแต่ละชั้นสวยงามมาก แต่ราคาอาจจะแพงและสูงหน่อย  


กาชาปอน (Gashapon)

ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติที่มีไข่อยู่ด้านใน ภายในไข่นั่นก็จะมีของเล่น หรือของสะสมเล็กๆ ใส่เอาไว้ โดยการหยอดจะเป็นแบบสุ่ม ถ้าใครต้องการสะสมให้ครบทั้งชุดก็ต้องเหนื่อยกันหน่อย เพราะขึ้นอยู่กับดวงของพวกท่าน 100 % กันเลย ตู้ของเล่นเหล่านี้ในตอนแรกไอเดียที่เข้ามาจากฝั่งอเมริกา มาถึงที่ประเทศญี่ปุ่นปนะมาณปี 1965 และ ปี 1970 ก็ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย แล้ว ณ ปัจจุบันก็มีหลายๆ ที่ในญี่ปุ่นเลยนะ  


ร้าน Kaiki Ranger

ในร้านจะเป็นแบบตู้กระจก โดยแต่ละชั้นของตู้จะมีโดเมลต่างๆ แยกตามเรื่องการ์ตูน หรือเกมส์เรื่องดังๆ มากมาย โดยแต่ละตัวจะมีติดป้ายราคาที่ชัดเจน ส่วนมากจะเป็นงานจากกล่องสุ่ม หรือกาชาปองสุ่ม งานเซตขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีงานกล่องใหญ่ๆ บ้างเหมือนกัน ราคาตามความหายากของแต่ละชิ้นงาน  


ร้าน Pasomaru

ร้านตู้มือสองเช่นเดียวกัน แต่จะแบ่งตู้ขายได้เป็นระบบกว่า ราคาก็จะค่อนข้างหลากหลายเช่นเดียวกัน ร้านนี้หน้าร้านจะมีมาเปิดขายพวกงานเก่ามากๆ  


ร้าน Kaiki Ranger

ในร้านจะเป็นแบบตู้กระจก โดยแต่ละชั้นของตู้จะมีโดเมลต่างๆ แยกตามเรื่องการ์ตูน หรือเกมส์เรื่องดังๆ มากมาย โดยแต่ละตัวจะมีติดป้ายราคาที่ชัดเจน ส่วนมากจะเป็นงานจากกล่องสุ่ม หรือกาชาปองสุ่ม งานเซตขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีงานกล่องใหญ่ๆ บ้างเหมือนกัน ราคาตามความหายากของแต่ละชิ้นงาน  


ร้าน Animate

ร้านชื่อดังมีสาขาทั่วประเทศ ทั้งตึกแบ่งเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นแยกเป็นคนละร้าน โดยงานหลักที่ขายคือเกี่ยวกับ Anime ทั้งหลาย ตั้งแต่ของสะสม การ์ตูน Light Novel เกม รวมไปถึงฟิกเกอร์ด้วย โดยชั้นที่มีส่วนแบ่งให้ขายฟิกเกอร์เป็นหลักคือ ชั้น 2-3 งานจะไม่เยอะมาก มีทั้งงานใหม่และงานเก่าปนๆ กัน ถ้าใครเป็นแฟนแนว Anime อยู่แล้วอาจจะเดินอยู่ได้ในตึกนี้ทั้งวันเลยก็เป็นได้  

เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 10.00 - 21.00 น.


ร้าน E. Volks Osaka Showroom

ร้านนี้เป็นร้านตู้มือสอง หรือ ตู้ฝากขาย ที่เราเรียกว่าตู้โชว์เคส ไว้สำหรับนักสะสมมาขายของกันเอง มีโมเดลให้เลือก เหมาะกับคนที่ตามงานตัวเล็กๆ ถึงกลาง แนะนำค่อยเดินดูดีๆ เพราะมันลายตามาก และราคาจะถูกแพงไม่เท่ากันทุกตู้เพราะเจ้าของตู้เป็นคนตั้งราคาเอง ฉะนั้นควรดูให้ทั่วๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยวิธีการซื้อก็ง่ายๆ ให้เขียนสินค้าที่จะเอาลงไปในกระดาษเช็คลิสที่หยิบได้ตรงเคาเตอร์ เอาตัวไหน ให้เขียน เบอร์ตู้ รหัสสินค้า และราคา ลงไป แล้วเอาไปยื่นที่เคาเตอร์ พนักงานจะเดินมาตามไขหยิบมาให้เราและให้เราเช็คตรวจสอบสินค้าก่อนจ่ายเงินนั่นเอง  

เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 11.00 - 20.00 น.


ร้าน Hero Gangu

ร้านนี้จะขายงานมือ 1 เป็นหลัก มีหมดตั้งแต่งานของทางญี่ปุ่นไปจนถึงงานฝรั่ง ชั้น 2 จะเป็นงานพวกยุค Classic เก่าๆ หน่อย ญี่ปุ่น ปนฝรั่ง ใครตามงานเก่าๆ ลองไปเยี่ยมชมได้  

เวลาเปิด - ปิด: 12.00 - 19.00 น. และ หยุดทุกวันพุธ


ร้าน Jungle

ร้านอีกแห่งที่ต้องเข้า มีสินค้าเกือบทุกไลน์ เน้นว่าทุกไลน์จริงๆ ให้คุณได้เลือกสรรกันอย่างจุใจ เข้าไปในร้านนี้แล้วคุณจะรู้ตัวตอนออกมาอีกทีว่าเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว

ในร้านจะแบ่งเป็น 3 ตึกติดกัน และแต่ละตึกจะมีชั้นสองให้ขึ้นไปโดยข้างบนจะไม่เชื่อมต่อกันนะ ใครเข้าไปแล้วอย่าลืมเดินขึ้นไปให้ครบด้วยแนะนำมากๆ  

ของร้านนี้ส่วนนึงจะเป็นของมือ 2 บางทีอาจจะราคาไม่เท่ากันในแต่ละกล่อง ตัวหนึ่ง 6000 เยน อีกตัว 9000 เยน เพราะสภาพต่างกันนั่นเอง ยังไงต้องดูและอ่านป้ายกันดีๆ หรือสอบถามพนักงานของร้านได้เลยนะ

เวลาเปิด - ปิด: จ - ศ 12.00 - 20.00 น. และ ส - อา 11.00 - 20.00 น.

สังเกตง่ายๆ หน้าร้านจะมีหุ่น Grendizer และ Mazinger Z ตัวใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้านนั่นเอง  

ในตรอกซอกซอยก็ยังมีร้านแอบซ่อนอยู่นะ เดินดูให้ละเอียดๆ อย่างร้านนี้ชื่อ Toys Zero ขายพวกงานกาชาปอน (Gashapon) แบบยกเซ็ต ราคาไม่แพง บางเรื่องถูกแบบน่าตกใจ !!  

จบไปกันแล้วนะ กับการแนะนำร้านของเล่น ของสะสมหลายๆ ย่าน เด็นเด็นทาวน์ (Den den Town) ในเมืองโอซาก้า ซึ่งอาจจะไม่ละเอียดมาก แต่ก็น่าจะมีประโยชน์บ้าง สำหรับคนสายโอตาคุแบบเรานะ