• สายการบิน
  • ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ
  • เตรียมตัวก่อนเดินทาง
  • ที่พัก
  • รีวิวท่องเที่ยว
  • ของขึ้นชื่อประจำเมือง
  • สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน
  • สรุปตารางท่องเที่ยว
4 วัน 3 คืน

เฮ...โหล...โอกินาว่า

วันที่เขียน 27/08/2020
ยอดเข้าชม

61

เฮ...โหล...โอกินาว่า

วันที่เขียน

27/08/2020

ยอดเข้าชม

61

#Okinawa

สายการบิน

Airlines

  • Peach Aviation
    Peach Aviation
    DMK
    01:55
    OKA
    08:30
  • Peach Aviation
    Peach Aviation
    OKA
    21:00
    DMK
    02:55

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

เราเลือกที่จะเช่ารถ เพราะเราเดินทางกัน 4 คน หารแล้วตกคนละพันกว่าบาทต่อวัน ซึ่งก็ไม่แพงมากและข้อดีคือสามารถไปเที่ยวในที่ไกลๆ ได้ เพราะบางสถานที่อยู่ไกล จากตัวเมืองอีกด้วย

วิธีการหา GPS ของสถานที่ที่เราต้องการจะไป เราก็แค่กรอกเบอร์โทรศัพท์เข้าไปเท่านั้นเอง 

ซึ่งที่นี่บอกเส้นทางได้ละเอียดมาก สะดวกมากจริงๆ นอกจากนั้นเราก็ใช้เป็น Map Code เอาก็ได้ ซึ่งเราจะใส่ให้ใน สถานที่เราไปในแต่ละที่ก็แล้วกันนะ

แลกเงิน เราแลกจาก Superrich สีเขียวมานะ แนะนำให้ค่อยดูเรทเงินดีๆ และทยอยแลกเก็บเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องแลกทีเดียวเป็นจำนวนเยอะๆ เพราะมีโอกาสจะขาดทุนเวลาค่าเงินเยนลงนั่นเอง

ฟรีวีซ่า ถ้าเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวและพำนักไม่เกิน 15 วันไม่ต้องขอวีซ่านะ


ปลั๊กไฟ

ที่นี่เป็นแบบขาคู่หัวแบน หากใครนำอุปกรณ์ที่หัวปลั๊กไฟเป็นแบบขาคู่หัวแบน กระแสไฟฟ้าของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 110 V น้อยกว่าของไทยที่ใช้ 220 V เช่น ก็แปลว่าใครจะใช้อะไรที่กำลังไฟสูงกว่า 110 V ก็ควรพกหัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วย


แอปพลิเคชันแนะนำ

  • Google Translate เพื่อใช้แปลภาษาให้เราอ่านพอเข้าใจได้บ้าง
  • Gurunavi แอปแนะนำร้านอาหารที่เด็ดที่สุดของญี่ปุ่น

สภาพอากาศ

เราไปช่วงเดือนกันยายนเป็นฤดูร้อนพอดี สไตล์การแต่งตัวเลยไม่ ต้องกังวลกันไป ก็ใส่เสื้อยึดหรือเสื้อเชิ๊ตแขนสั้น กางเกงขาสั้น ก็สบายดี แต่ถ้าอยากให้โดดเด่น ก็ขอแนะนำว่าให้ใส่เสื้อฮาวายแบบเรากันได้เลยนะ

ค่าครองชีพ

ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ราคาก็จะพอๆ กับเมืองอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นเลยนะ

ภาษาที่ใช้

ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นปกติ แต่อาจจะมีสำเนียงสไตล์โอกินาว่า ซึ่งเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าต่างกันตรงไหน ยังไง เพราะเราก็ฟังไม่ออก 

ภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่นี่ ถ้าเป็นร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ พนักงานของร้านก็จะสามารถพูดหรือสื่อสารภาษาอังกฤษกับเราได้นะ แต่ถ้าเป็นร้านอาหารหรือร้านขายของตามย่าน อาจจะพูดและฟังได้นิดหน่อย แต่ไม่ต้องกลัวเพราะคนที่นี่น่ารักและใจดีมากๆ เปิดรูปหรือใช้แอปแปลภาษาเอาก็ได้ครับ

อินเทอร์เน็ต

เราใช้ Sim2Fly ของ AIS ราคา 399 บาท สามารถใช้ได้สูงสุด 7 วัน

ที่พัก

รีวิวท่องเที่ยว

จังหวัดโอกินาวะ (Okinawa) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมายราว 160 เกาะ โดยมีเกาะหลักโอกินาวะ (Okinawa Main Island) เป็นศูนย์กลาง มีความรุ่งเรืองในยุคสมัยริวกิว ซึ่งสามารถสร้างวัฒนธรรมในแบบฉบับของตัวเองพร้อมกับการรับอิทธิพลจากประเทศต่างๆ อาทิ จีน อเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น มีสภาพอากาศแบบเขตร้อน มีท้องทะเลสีฟ้าอมเขียวสะอาดใสดุจดั่ง สีมรกตประกายแดด และเป็นที่พักผ่อนตากอากาศทางทะเลติดอันดับโลก


Day 1 | ออกเดินทาง

เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน Peach Air โดยบินช่วงตี 1.55 ของวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2017 (นั่นก็คือช่วงดึกของวันที่ พฤหัสที่ 21 นะครับ อันนี้สำคัญเลย สำหรับคนที่ชอบจองตั๋วหลังเที่ยงคืน เพราะจะงงวันที่ต้องไปเช็คอินและตกเครื่อง กันได้ง่ายเลยๆ นะ) โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราก็จะถึงที่สนาม Naha Airport ประมาณ 8.30 นะ

ประมาณ 9 โมง ก็เข้ามาในตัวสนาม Naha Airport ไม่มีงวงช้างนะครับ เดินเข้าไป LCC Terminal (โกดังเก็บของชัดๆ) เข้ามาใน LCC Terminal ก็รอกระเป๋าที่โหลด โดนจะมีเจ้าหน้าที่เข็นเข้ามาให้เรื่อยๆ 

จากนั้นนั่งรถ Shuttle Bus มาลงที่ Domestic Terminal เพื่อจะมาหา บริษัทเช่ารถ ซึ่งเราจองกับทาง Toyota โดยตรง ก็จะมีรถตู้รับไปศูนย์เช่า ซึ่งห่างจากสนามบินประมาณ 5 นาที (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนขึ้นรถตู้เพราะต้องหาป้ายศูนย์เช่ารถที่เราเช่ากันอย่างวุ่นวาย !!) 

พอได้รถก็ไม่รอช้า ทดลองกด GPS กันดูก่อน ตอนแรกก็งงๆ พอใช้เป็นก็สบายครับ เพราะ GPS ที่นี่บอกละเอียดมาก โดยเรากรอกเบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ ร้าน ก็จะสะดวกมากครับ นอกจากเป็นจุดชมวิว เราก็ใช้เป็น Map Code เอาก็ได้ ซึ่งเราจะใส่ 2 อย่างนี้ให้แล้วกัน เพราะไม่ได้ใช้รถบัส รถเมล์ หรือ Monorail เลย


ผางวงช้าง (Cape Manzamo)

สถานที่แรกของทริปเราขับรถกันไปที่ Cape Manzamo (ผางวงช้าง) เป็นสถานที่ที่ต้องมา check in กัน ถ้าไม่ได้มาถือว่ามาไม่ถึงนะ โดยหน้าผารูปงวงช้างอันโด่งดังของเกาะโอกินาว่า ตั้งอยู่ริมทะเลในหมู่บ้านอนนะ (Onna) เขต Kunigami ของจังหวัดโอกินาว่า โดยหน้าผานี้ มีความสูง 20 เมตร ถูกน้ำทะเลซัดกัดกร่อนจนเป็นรูปงเหมือนงวงช้าง

พิกัด GPS : 0989661210 


ร้าน Okashi Goten

ที่ต่อมาเราแวะกันที่ร้านขายของฝากกันที่ ร้าน Okashi Goten เพื่อซื้อของฝากต่างๆ กันเลยตั้งแต่วันแรกกันเลย เพราะเราเช่ารถมา และอาจจะไม่ได้แวะกลับมาอีกแล้วนั่นเองร้าน Okashi Goten นั้นเป็นร้านขายของฝากที่จำหน่ายขนมพื้นเมืองต่างๆ ของโอกินาว่า และมีผลิตภัทณ์ที่เป็นมันม่วงเยอะมาก ด้วยความหวานของมันม่วง ทำให้มันเข้ากับรสชาติของแป้งทำขนมได้ดีค่ะ เมนูต่างๆ มีดังนี้ ทาร์ต/พาย/เค้ก/โมจิ/เค้กโรล และอีกมากมายที่ใช้มันม่วงเป็นไส้ นอกเหนือจากมันม่วงแล้ว ยังมีเลมอนโอกินาว่าที่อร่อยมากๆ เช่นกัน

เว็บไซต์ : http://okashigoten.co.jp
พิกัด GPS : 0989823388


ทาร์ตมันม่วง (Beni Imo Tart)

Beni Imo Tart หรือ ทาร์ตมันม่วง ขนมส่วนใหญ่ของที่นี่จะมีส่วนผสมของมันม่วง มีความหอมเฉพาะตัว อร่อยดีนะ ซื้อไปเป็นของฝากได้เลย

ไอศครีมแรกของทริป เป็นรสที่ต้องลองก่อนเลย นั่นคือรส “มันม่วง” พอมองดูโลโก้ก็สงสัยเลยว่ายี่ห้อนี้มันคล้ายๆ โลโก้นม Foremost บ้านเรา แต่ทำไมเขียน Blue Seal สรุปแล้วมันคือยี่ห้อ Foremost นั่นแหละแค่เค้า Take Over มาเลยเปลี่ยนชื่อเท่านั้นเอง รสมันม่วงนี่อร่อยมากกกกก


สวนสนุกริวกิวมูระ (Ryukyu Mura)

ช่วงบ่ายขับมากันต่อที่ Ryukyu Mura เป็นหมู่บ้านจำลองของชาวโอกินาวาครับ ต้องเสียค่าเข้าคนละ 1,200 เยน นะครับ บริเวณในหมู่บ้าน ก็เดินเพลินๆ ชมหมู่บ้านจำลองของชาวโอกินาว่าได้ที่นี่เลย

สถานที่เที่ยวที่จำลองเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของอาณาจักรริวกิวในสมัยโบราณ พร้อมมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมโอกินาว่า ซึ่งประกอบด้วย อาคารแต่ละหลังที่มุงด้วยกระเบื้องสีแดง และกลุ่มเวิร์คช้อปต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามา ร่วมกิจกรรมได้ เช่น การปั้นเครื่องปั้นดินเผา และระบายสีรูปปั้นชิซะขนาดเล็ก

ค่าเข้าชม : 1,200 เยน
เวลาเปิดปิด : 8:30 - 17:30 (เข้าก่อน 17:00)
พิกัด GPS : 0989651234


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

สถานที่ต่อไปเราก็ขับขึ้นเหนือมาจนถึง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2002 ไฮไลท์ของการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ คือแท็งก์น้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Tank) ซึ่งเป็น 1 ในแท็งก์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต ในทะเลแถบโอกินาว่าที่หลากหลาย สัตว์น้ำที่โดดเด่นที่สุดคือฉลามวาฬยักษ์

พิกัด GPS : 0980483748


ปลาฉลามวาฬ

พระเอกหลักเป็นที่นี่ คือ “ปลาฉลามวาฬ” นั่นเอง เราอ่านข้อมูลเจอมาว่าหากเข้าชมหลัง 16:00 ผู้ใหญ่จะเหลือราคา 1,290 เยน (เสร็จสิครับ 555)“ปลาฉลามวาฬ” ตัวเป็นๆ กับคนนับแสน (เวอร์ๆ) ถือว่าคุ้มค่าครับ 

รอบโลมาของเราคือ 17.30 น. ใครที่จะมาดูควรเช็คเวลาของวันที่มาให้ดีนะครับ จะได้ไม่พลาดการแสดงนี้ เพราะมันน่ารักมากๆ แสดงไม่น่าเกิน 20 นาที น่ารักจริงๆ โชว์เสร็จออกมาตรงข้ามก็มีร้านละลายทรัพย์ให้ท่านเลือกช็อป (ไม่ได้แด๊กเราหร๊อกก…ไปซื้อเบียร์ดีฟ่าาา 555)

ค่าเข้าชม

  • ผู้ใหญ่ 1,850 เยน 
  • เด็กมหาวิทยาลัย 1,230 เยน
  • หากเข้าชมหลัง 16:00 ผู้ใหญ่ ราคา 1,290 เยน, เด็ก 610 เยน

เวลาเปิด - ปิด

  • 8:30 - 20:00 (เดือนมีนาคม - กันยายน)
  • 8:30 - 18:30 (เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์)


ร้านอาหารเย็น

ก่อนกลับเพื่อนได้ seach หาร้านที่หาไว้ซึ่งเราไม่รู้ว่าชื่ออะไร ขับหลงกันอยู่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงร้าน...

เมนูที่สั่งไวที่สุด Orion Beer เป็นเบียร์เจ้าถิ่น ลองซะหน่อย (จริงๆ ดื่มมา 2 สองแล้วครับ 555)

ส่วนตัวอยากให้กินแบบดราฟเบียร์ (Draft Beer) คือ เบียร์สด นะครับ มันจะอร่อยกว่าแบบกระป๋อง แต่ก็แพงกว่าเกือบเท่าตัว 

อาหารก็มาเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว ที่เราสั่งมาลอง เพราะราคาค่อนข้างแพงครับ ตกลงกันว่าเอาแค่ลิ้มรสความอร่อย ไม่เน้นอิ่มมม !!


เข้าที่พักเมือง Nago | Airbnb

ถึงที่พักสักทีซึ่งคืนแรกซึ่งคืนนี้เราพักกันที่ Nago โดยเราจองแบบ Airbnb.com นะ การจองผ่าน Airbnb จะได้ราคาถูกกว่าถ้าพักกันแบบ 4 คนขึ้นไป

ห้องพักเป็นแบบเสื่อฮานามิ เอ้ย !! ทาทามิ คือ จะนอนก็ต้องเอาโต๊ะและเก้าอี้ออกไป แล้วเอาฟูกมาปูนอนเอง (นอนพื้นนั่นเอง) 

มื้อที่ 7 ของวัน 555


Day 2 | ชมวิวริมชายหาด

วันนี้ขับรถข้ามเกาะกัน เราขับมาที่สะพาน “โคริโอยาชิ” (Kouri Ohashi) เป็นสะพานข้ามเกาะจาก Okinawa ไปเกาะโคริจิมะ (Kouri-jima Island) 


สะพานโคริโอยาชิ (Kouri Ohashi)

สะพานแห่งนี้ยาวเกือบ 2 กิโลเมตร เป็นสะพานที่ใช้เดินทางข้ามไปยังเกาะโคริจิมะ (Kouri-jima Island) ด้วยท้องฟ้าแจ่มใส จึงสามารถขับรถรับลมพร้อมชมทิวทัศน์ของท้องฟ้า ผืนน้ำสีเขียวมรกตและธรรมชาติ อันแสนงดงามได้อย่างเต็มอิ่มทุกช่วงเวลาในการเที่ยว

ก่อนข้ามมีที่จอดรถและร้านอาหาร เราก็กินมื้อแรกที่นี่กันเลย โดยเราสั่งมาเป็นโซบะใส่หมูสามชั้น มาพร้อมกับข้าวผัดและ สาหรายพวงองุ่น โดยสาหร่ายพวงองุ่น มีชื่อญี่ปุ่นว่า “Umibudo” รสชาติเค็มๆ กินกับน้ำราดเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยดี


มุมบนสะพานโคริโอยาชิ (KOURI OHASHI)

จากบนสะพานก็เห็นชายหาด (เล็กๆ) แต่ก็ดูสะอาดและมีน้ำทะเลที่สดงามอยู่นะ


ร้าน Uminchu

บ่ายๆ แวะมาทางข้าวเที่ยงที่ ร้าน Uminchu มีโต๊ะนั่งกินนอกร้านด้วยแต่เวลานั้นร้อนเหลือเกิน เลยกินบนชั้น 2 มีแอร์เย็นๆ สบายๆ เปิด 10.00 - 16.00 น. โดยชั้น 1 จะเป็นเหมือนตลาดปลาเล็กๆ ซึ่งเราสามารถเลือกของและจ่ายเงิน แล้วนำขึ้นไปทานได้ด้านบนได้เลย โดยของส่วนใหญ่สดและราคาถูกใช้ได้เลยละ

เว็บไซต์ : http://yomigyo.shimatabi.jp/
พิกัด GPS : 0989561640


หมู่บ้านมิฮามะสไตล์อเมริกัน (Mihama American Village)

ช่วงบ่ายสามโมงเราก็มาถึงกันสักทีที่ หมู่บ้านมิฮามะสไตล์อเมริกัน (Mihama American Village) ที่เมือง Chatan Town ซึ่งเป็นแหล่งความบันเทิงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภาคกลางของเกาะโอกินาว่า ที่นี่จะคล้ายๆ Outlet ขนาดใหญ่ที่ ภายในจะมีร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหารจำหน่ายฮอตด็อกและแฮมเบอร์เกอร์ ร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ Mihama 7 และชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่  นอกจากนี้ห่างออกไปไม่ไกลนักเป็นชายหาดทิศตะวันตกที่เหมาะสำหรับนั่งชม พระอาทิตย์ตกพร้อมปิ้งบาร์บีคิวสังสรรค์กันได้อีกด้วย (แต่เราไปไม่ทันพระอาทิตย์ตกก็เลยอดไปนะ เศร้า)

เวลาเปิด - ปิด : 11:00 - 22:00
พิกัด GPS : 0989265678


Ocean Hotel

คืนที่ 2 และ 3 เรามานอนที่โรงแรม Ocean Hotel ซึ่งมีราคาแพงนิดหน่อย 

เราเลือกพักที่ โรงแรมนี้ เพราะมีที่จอดรถแต่ไม่ฟรีนะ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และใกล้ถนน Kokusai ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้ง ของโอกินาว่า อีกด้วย) 


ลงมาเอารถซึ่งที่จอดรถโรงแรมเป็นแบบนี้ เคยเห็นใน Fast 3 เท่มากกกก แต่แพงมากกก คืนละ 1,500 เยน อีกวันไปจอด Car Park ข้างๆ วันละ 800 เยน (ปะโธ่!!!!!!)


Day 3 | เดินชมประสาท

เช้าวันที่ 3 สถานที่แรกที่เราขับรถมากันก็คือ ปราสาทชูริ (Shuri Castle) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการบริหาร และเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์มานานหลายร้อยปี จนกระทั่งกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่าในปี 1879 ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้รับขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage นั่นเอง 


ปราสาทชูริ (Shuri Castle)

ปราสาทชูริได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2019 ตอนนี้น่าจะกำลังปิดบูรณะอยู่

บนเนินเขาที่เราเห็นอยู่จะเป็นที่ตั้งของห้องโถงใหญ่ (Seiden) ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจัดงาน กิจการสำคัญของรัฐ เป็นอาคารที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา 

สถาปัตยกรรมและสีแดงสดทำให้มีเอกลักษณ์กว่าปราสาทแห่งอื่นๆ ในญี่ปุ่น ขอบคุณลุงเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูปราสาทถ่ายรูปนึง หล่อเลย (หน้าลุงเหมือนคุณครูสอนภาษาไทยตอน ม.ปลายเรามากเลย 555)

ค่าเข้า : 820 เยน
พิกัด GPS : 0988862020


ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ (Naminoue-gu Shrine)

ช่วงบ่ายๆ มาเราขับรถแวะมากันที่ ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ (Naminoue-gu Shrine) เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่อยู่ในซอย สามารถเดินลงไปชายหาดด้านล่างได้ด้วย เป็นหนึ่งในศาลเจ้าหลักประจำโอกินาว่า ซึงตั้งอยู่บนยอดผาที่สูง สามารถมองลงมาเห็นภาพท้องทะเล จะมีรูปปั้นชิสะ (รูปปั้นสิงโตแบบโอกินาว่ามีไว้เฝ้าประตู)

ค่าเข้า : ฟรี
พิกัด GPS : 0988683697


ชายหาดนามิโนะอุเอะ (Naminoue Beach)

ลงมาจากศาลเจ้าหน่อย เราจะเจอกับ ชายหาดนามิโนะอุเอะ (Naminoue Beach) ซึ่งเป็นชายหาดเล็กๆ มีคนเล่นน้ำนิดหน่อย มีสะพานเป็นวิวข้างหน้า อืมม… ต้องขอบอกเลยว่าหาดเราน่าเล่นกว่าครับ แต่น้ำของเค้าสะอาดใส มีสีสวยกว่า แต่มันดูไม่เป็นธรรมชาติเพราะมีสะพานนี่แหละ 


เอาท์เลตมอลล์ โอกินาว่า (Outlet Mall ASHIBINAA)

บ่ายๆ เรามาแวะมาชอปปิ้งกันที่ เอาท์เลตมอลล์ โอกินาว่า (Outlet Mall ASHIBINAA)
 ที่นี่จะเป็น Outlet แห่งแรกในโอกินาว่า ที่รวบรวมร้านค้าชั้นนำกว่า 100 ร้าน ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าแบรนด์เนม นาฬิกา ข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น ทุกร้านจัดเต็มทั้งสินค้ารุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ลดราคากระหน่ำกว่า 30-80% ให้ได้เดินช้อปปิดท้ายทริปกันอย่างจุใจ ภายใต้บรรยากาศสบายๆ สไตล์รีสอร์ทริมทะเล หากช้อปจนเหนื่อย สามารถขึ้นไปทานอาหารที่ชั้น 2 มีอีกหลายร้านที่พร้อมให้บริการอีกด้วยนะ

เวลาเปิด - ปิด : 10:00 - 20:00
พิกัด GPS : 0988916000


Bikkuri Donkey

มื้อบ่ายๆ เราเดินมากินที่ร้านใกล้ๆ Outlet ที่ชื่อ Bikkuri Donkey จริงๆแล้ว เราเคยกินที่โอซาก้าแล้วครั้งนึง อร่อยมากกกก แต่จำชื่อร้านไม่ได้ 

ข้างๆ ก็มีร้าน Blue Seal ใหญ่เหมือนกัน กินสิรออะไรกินเป็นแบบนมปั่นรสโกโก้ ลืมชื่อ (ลืมตลอดดด) โกโก้เข้มข้นมากกกก…กกกอร่อยไปอี๊กกกก..กก


JUNE DONUTS

ขับรถหลงทางแต่ได้มาเจอกับร้านโดนัทร้านนึงที่มีชื่อว่า JUNE DONUTS เลยถือโอกาสแวะเข้าไปดูสักหน่อยจริงๆ มีน้องส่งมาเหมือนกันว่าให้ไปลองดู ดันหลงมาเจอเฉยเลย โดยสไตล์ร้านจะตกแต่งแบบเรียบๆ สีเขียวพาสเทลตัดกับสีชมพูของตัว ฟลามิงโก้ ซึ่งเป็นเหมือนมาสคอตของร้านนี้เลยก็ว่าได้ 

เราสั่งเมนูโดนัดมิ๊กเบอรี่มั้ง กับน้ำเขียวอิตาเลี่ยนโซดา ซึ่งมาในรูปแบบที่สาวๆ ต้องร้องคาวาอิ๊ และถ่ายลงโซเชียลอย่างรวดเร็วกันแน่ๆ ส่วนเรื่องรสชาติก็ใช้ได้นะ แต่สำหรับเรา เราว่าหน้าของโดนัสหวานไปนิดนะ

เวลาเปิด - ปิด : 9:30 - 22:00
พิกัด GPS : 0988632755


Day 4 | หินงอกหินย้อยในถ้ำ

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทรปโอกินาว่าแล้ว ซึ่งวันนี้แผลนคือนอนให้เต็มอิ่มเพราะต้อง Check out ก่อนเที่ยง 555 ก็ใช้เวลาจัดกระเป๋าไปด้วย 


ถนนโคคุไซโดริ (Kokusai Dori Street)

วันนี้เราจัดกระเป๋าเสร็จก่อนเลยลงมาเดินเล่นที่ ถนนโคคุไซโดริ (Kokusai Dori Street)

ลองมันม่วงของร้าน Calbee+ อร่อยดี มีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้นนะ !!


สวนสนุกโอกินาว่าเวิล์ด (Okinawa World)

สุดท้ายที่เราจะแวะก่อนกลับนั่นคือ สวนสนุกโอกินาว่าเวิล์ด (Okinawa World) เป็นสวนสนุกที่ตกแต่งด้วยรูปแบบวัฒนธรรมโอกินาว่าทั้งหมด โดยจุดท่องเที่ยวหลักๆ คือ ถ้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หมู่บ้านหัตถกรรม และพิพิธภัณฑ์งู เราเลือกตั๋วเฉพาะเข้าชมถ้ำและหมู่บ้านเท่านั้น 

ค่าเข้าชม : 

  • ตั๋วสำหรับเล่นเครื่องเล่น 1,650 เยน
  • ตั๋วเฉพาะเข้าชมถ้ำและหมู่บ้านเท่านั้น 1,240 เยน
  • ตั๋วเข้าชมหมู่บ้านเท่านั้น 620 เยน

เวลาเปิด - ปิด : 9:00 - 18:00 (เข้าชมก่อน 17:00)

พิกัด GPS : 0989497421


ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำจะชื้นๆ เดินชมหินงอกหินย้อยไปเรื่อยๆ ก็เพลินดีนะครับ ธรรมชาติดี คนชอบก็น่าจะชอบ แต่เราเฉยๆ เพราะก็คล้ายๆ ถ้ำในเมืองไทยนั่นแหละ แต่ชมที่ทางเดินทำได้ดีมาก สะดวก มั่นคง

จบมื้อสุดท้ายของทริปโอกินาว่ากันที่นี่เลย เป็นโซบะกับหมูสามชั้น อร่อยใช้ได้เลยละ


Hana Airport

ตกเย็นเราก็ไปคืนรถที่เช่ามากัน และเค้าก็มาส่งเราที่สนามบิน Hana Airport แล้วเราก็มานั่งรอเครื่องที่ LCC Terminal

แนะนำให้ซื้อของฝากต่างๆ จาก Domestic Terminal มาก่อนนะครับ เพราะที่ LCC มีร้านขายอยู่ 1 ร้านเล็กๆ กับร้านกาแฟ 1 ร้าน ที่เปิดถึงแค่ 2 ทุ่ม 

ใครจะซื้อแนะนำเลยว่าซื้อมันวันแรกเลยครับดีที่สุดนะ โดยเครื่องเราออกประมาณ 3 ทุ่ม ก็นั่งรอกันไปยาวๆ นะ

ของขึ้นชื่อประจำเมือง


ทาร์ตมันม่วง (Beni Imo Tart)

ขนมส่วนใหญ่ของที่นี่จะมีส่วนผสมของมันม่วง มีความหอมเฉพาะตัว อร่อยดีนะ ซื้อไปเป็นของฝากได้เลย แนะนำร้าน Okashi Goten นั้นเป็นร้านขายของฝากที่จำหน่ายขนมพื้นเมืองต่างๆ ของโอกินาว่า และมีผลิตภัทณ์ที่เป็นมันม่วงเยอะมาก ด้วยความหวานของมันม่วง ทำให้มันเข้ากับรสชาติของแป้งทำขนมได้ดีค่ะ เมนูต่างๆ มีดังนี้ ทาร์ต/พาย/เค้ก/โมจิ/เค้กโรล และอีกมากมายที่ใช้มันม่วงเป็นไส้ นอกเหนือจากมันม่วงแล้ว ยังมีเลมอนโอกินาว่าที่อร่อยมากๆ


เครื่องปั้นดินเผา และ ผ้าทอ

ของขึ้นชื่ออีกอย่างจะเป็นพวกเครื่องปั้นดินเผา แต่ใครจะขนกลับไปกันเหล่า !!!

สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน

ค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน Peach Air 7,800 บาท
เช่ารถ 3,168 บาท
ค่าที่พัก ที่พัก Airbnb เมือง Naga 884 บาท
Ocean Hotel 2 คืน 3,685 บาท
ค่าสถานที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (kinawa Churaumi Aquarium) 380 บาท
สวนสนุกโอกินาว่าเวิล์ด (Okinawa World) 365 บาท
สวนสนุกริวกิวมูระ (Ryukyu Mura) 350 บาท
อื่นๆ Sim2Fly 399 บาท
อาหาร 5,000 บาท
รวมทั้งหมด 22,031 บาท
ค่าเดินทาง
ตั๋วเครื่องบิน Peach Air 7,800 บาท
เช่ารถ 3,168 บาท
ค่าที่พัก
ที่พัก Airbnb เมือง Naga 884 บาท
Ocean Hotel 2 คืน 3,685 บาท
ค่าสถานที่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (kinawa Churaumi Aquarium) 380 บาท
สวนสนุกโอกินาว่าเวิล์ด (Okinawa World) 365 บาท
สวนสนุกริวกิวมูระ (Ryukyu Mura) 350 บาท
อื่นๆ
Sim2Fly 399 บาท
อาหาร 5,000 บาท
รวมทั้งหมด 22,031 บาท

สรุปตารางท่องเที่ยว