5 วัน 5 คืน

ไปฮิเมจิ (Himeji) กับ นายบ้าเที่ยว

วันที่เขียน 05/11/2018
ยอดเข้าชม

90

ไปฮิเมจิ (Himeji) กับ นายบ้าเที่ยว

วันที่เขียน

05/11/2018

ยอดเข้าชม

90

#Hyogo #ท่องเที่ยว #Himeji

ไปฮิเมจิ (Himeji) กับ นายบ้าเที่ยว    

ฮิเมจิ (Himeji) เป็นเมืองในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ ใกล้ๆ เมืองโกเบ (Kobe) และโอะกายามะ (Okayama) ด้วย และมีระยะทางจากโอซาก้า (Osaka) ประมาณ 100 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากโอซาก้า (Osaka) มาเที่ยวที่เมืองฮิเมจินี้ แบบเช้า - เย็นกลับได้เลย  

ฮิเมจิ (Himeji) เป็นอีกเมืองนึงที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจ ระบบคมนาคมขนส่ง ธรรมชาติ และวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย เมืองฮิเมจิเป็นที่ตั้งของ “ปราสาทฮิเมจิ” (Himeji Castle) ปราสาทที่มีชื่อเสียง 1 ใน 3 ของปราสาทในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น   

สิ่งที่คนทั่วไปนึกถึงเมื่อมาเที่ยวเมืองฮิเมจิ (Himeji) คือ “ปราสาทฮิเมจิ” (Himeji Castle) หรือ “ปราสาทนกกระยางขาว” เป็นประสาทเก่าแก่ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1400 ปราสาทแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกโจมตีในสมัยสงครามโลก ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถัดจากปราสาทฮิเมจิไปไม่ไกล มี “สวนโคโคเอง” (Kokoen Garden) ที่เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่น สวยงามไม่แพ้สวนในศาลเจ้าต่างๆ ในเกียวโต ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนนี้ได้  


วิธีเดินทางจาก โอซาก้า (Osaka) ไป ฮิเมจิ (Himeji)

1.เดินทางโดย JR สถานี Shin-Osaka นั่ง Sanyo Shinkansen ไปลงที่สถานี Himeji โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

2.เดินทางโดย JR สถานี Osaka สาย JR Special Rapid Service for HIMEJI ไปลงสถานี Himeji โดยใช้เวลาประมาณ 65 นาที

📍 สามารถชมรีวิวเกี่ยวกับ JR Kansai WIDE Area Pass แบบ 5 วัน ได้ที่นี้เลยนะ --> https://goo.gl/BZkqNJ

🚄 สามารถจอง JR Kansai WIDE Area Pass แบบ 5 วัน

(**รับที่สนามบินคันไซ) ผ่านทาง Klook และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.klook.com/th/activity/3277-5-day-kansai-wide-area-jr-pass


ฮิเมจิ (Himeji)

ฮิเมจิ (Himeji) เป็นเมืองในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ ใกล้ๆ เมืองโกเบ (Kobe) และโอะกายามะ (Okayama) ด้วย และมีระยะทางจากโอซาก้า (Osaka) ประมาณ 100 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากโอซาก้า (Osaka) มาเที่ยวที่เมืองฮิเมจินี้ แบบเช้า - เย็นกลับได้เลย  

เพราะเราใช้บัตร JR Kansai WIDE Area Pass เราจึงใช้รถไฟ JR โดยไปเริ่มต้นขึ้นที่สถานี Shin-Osaka แล้วนั่งรถไฟ Sanyo Shinkansen ไปลงที่สถานี Himeji นั่นเอง  

โดยบัตร JR Kansai WIDE Area Pass ที่เราใช้นี้ เราจะสามารถนั่งรถไฟ Sanyo Shinkansen ได้ แต่ต้องไปนั่งตู้รถไฟที่เป็นแบบ Non-Reserved เท่านั้นนะ  

โฉมหน้าของบัตร JR Kansai WIDE Area Pass ที่เราใช้เดินทางในครั้งนี้

นั่งมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงสถานีฮิเมจิ (Himeji) แล้ว  

ให้หาป้ายทางออก Exit North ที่เขียนว่า Himeji Castle หรือ ปราสาทฮิเมจิ นั่นเอง  

ด้านหน้าสถานี JR Himeji  

ด้านข้างของสถานี JR Himeji จะมีที่นั่งพักผ่อนให้ด้วย  

ออกมาเราก็จะเห็น “ปราสาทฮิเมจิ” (Himeji Castle) อยู่ตรงหน้าเราเลย ซึ่งเราสามารถที่จะเดินเอาประมาณ 15 – 20 นาที หรือ ขึ้นรถไฟสาย Sanyo ไปลงที่สถานี Sanyo-Himeji ออกทาง Exit 1 ออกมาด้านหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร จะเจอตัวปราสาทสีขาวเด่นแต่ไกล  

เราจะเห็นรูปปั้น “ชะชิโฮะโกะ” เป็นสัตว์ในตำนานญี่ปุ่น หัวเป็นเสือ ตัวเป็นปลาคาร์ฟ อยู่ตลอดทางของเมืองนี้

ฝาท่อระบายน้ำของเมืองนี้จะเป็นรูป “นกกระยาง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิเมจินี้  

เดินมาเรื่อยๆ ก็ระยะทางไกลพอดูนะสำหรับการเดินในหน้าร้อนของที่นี่นะ !!  


ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นสมบัติประจำชาติและมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 400 ปี ด้วยสภาพเดิมของปราสาทที่ยังสมบูรณ์แบบที่สุดในญี่ปุ่นจึงได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกเป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี 1993 พื้นที่โดยรอบปราสาทเป็นสวนในแบบญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างให้มีทิวทัศน์ที่งดงาม มีความสง่างามของปูนขาว จึงทำให้ที่แห่งนี้ถูกเรียกกันจนติดตามอีกว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” หรือปราสาทสีขาว  


ค่าเข้าชมปราสาท

  • ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป)
  • นักเรียน 300 เยน (ระดับประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย)

** แต่ถ้าซื้อแบบตั๋วแบบรวมปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) กับ สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden)

  • ผู้ใหญ่จะแค่ 1,040 เยน
  • เด็กนักเรียนจะเหลือแค่ 360 เยน เท่านั้น

(ซึ่งสามารถไปซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าปราสาทได้เลยนะ)

*** แต่ถ้าใครไปกดซื้อตั๋วจากตู้กดอัตโนมัติแล้ว ก็สามารถเพิ่มเงินอีก 40 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 60 เยน สำหรับเด็กนักเรียน เพื่อเปลี่ยนเป็นตั๋วแบบรวมได้ที่เคาน์เตอร์เช่นกันนะ   

  เวลาเปิด - ปิด : 9:00 - 17:00 น. (ปลายเดือนเมษายน - สิงหาคม: 9:00 - 18:00 น.)

  วันปิดทำการ : ปิดวันที่ 29 - 30 ธันวาคมของทุกปี 

แผนที่ภายในตัวปราสาท  

เราใช้เวลาจากชั้น 1 ไปถึงชั้น 6 ประมาณ 35 นาที บันไดทางขึ้นในแต่ละชั้นค่อนข้างชันและลื่นพอสมควร ยังไงระมัดระวังกันด้วยนะ  

วิวทิวทัศน์ด้านบนที่จะสามารถมองผ่านจากนอกหน้าต่างโดยรอบของตัวปราสาท พอมองออกไปจะสามารถเห็นเมืองฮิเมจิโดยรอบสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ซึ่งบานนี้หันไปทาง JR Himeji ทางที่เราเดินกันมา (ไกลพอดูเลยนะเนี่ยย..ยยย !!)  

หน้าต่างแต่ละบานจะมีตะแกรงลวดไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งของที่จะตกหล่นลงไปนอกตัวปราสาท การถ่ายรูปผ่านหน้าต่างจึงต้องใช้ความพยายามเป้นอย่างมากเลย  

วิวของชั้นบนสุดของตัวปราสาท เราจะเห็นรูปปั้นปลาที่หลังคาปราสาท มีชื่อว่า “ชะชิโฮะโกะ” (Shachihoko) เป็นสัตว์ในตำนานญี่ปุ่น หัวเป็นเสือ ตัวเป็นปลาคาร์ฟ เชื่อว่ามีอำนาจทำให้ฝนตกได้ ไว้ป้องกันปราสาทจากไฟไหม้  

บนชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของปราสาท จะมีศาลเจ้าเล็กๆ อยู่ ชื่อว่าศาลเจ้าโอซากะเบะ จินจะ (Osakabe-jinja Shrine) ที่คนญี่ปุ่นมักขึ้นมาสักการะกัน  

แบบจำลองโครงสร้างของตัวปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่สร้างด้วยไม้  

แผนที่จำลองเมืองฮิเมจิ (Himeji) โดยรอบทั้งหมด  

มาถึงข้างในบริเวณตัวปราสาทก็ถือโอกาสถ่ายรูปกันซะหน่อยนะ  


สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden)

สถานที่ต่อไปก็คือสวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวปราสาทโดยออกมาจากทางปราสาทให้เราเดินเลี้ยวขวา เดินประมาณ 10 นาที  

  ค่าเข้าชม: 300 เยน

  เวลาเปิด - ปิด : 9:00 - 18:00 น. (กันยายน - กลางเมษายน: 9:00 - 17:00 น.)

** เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที  วันปิดทำการ 28 - 30 ธันวาคมของทุกปี

สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden) ตั้งอยู่ภายในเมืองฮิเมจิ (Himeji) เป็นเมืองในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) นับว่าเป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ มีบรรยากาศสวนที่มีการตกแต่งสไตล์สมัยเอโดะให้เดินชมกันถึง 9 แบบ 9 สไตล์ที่แตกต่างกันไป ตรงกลางของสวนเป็นบ้านที่ขุนนางเคยอยู่อาศัยที่ในอดีตนั้นเคยเป็นบ้านพักของขุนนางนิชิ โอยาชิกิ (Nishi-Oyashiki) มาก่อน เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชมความงามของสวนแห่งนี้ได้เมื่อซักประมาณปี ค.ศ. 1992 นี่เอง  

มุมสวยๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปจะเป็นบนสะพานนี้ รวมถึงตัวเราด้วยเช่นกัน อิอิ  

เป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ มีบรรยากาศสวนที่มีการตกแต่งสไตล์สมัยเอโดะให้เดินชมกันถึง 9 แบบ 9 สไตล์ที่แตกต่างกันไป  

สระน้ำนี้มีปลาคาร์ฟหลากสีอยู่ด้วยกัน 250 ตัว !!  

สรุปโดยรวมเมืองฮิเมจิ (Himeji) เป็นเมืองที่น่าเที่ยวดีนะ การเดินทางก็สะดวก โดยสามารถไปแบบเช้า – เย็นกลับได้จากเมืองโอซาก้า (Osaka) ในเมืองนี้จะมีปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นไฮไลต์ของเมืองนี้ และสวนโคโคเอง (Kokoen Garden) สวนนี้สวยงามเกินคาดหมาย มีมุมสวยๆ เยอะ ใครที่มาเที่ยวที่เมืองฮิเมจินี้ ไม่ควรพลาดสวนนี้อีกหนึ่งที่นะ