รีวิวเชียงใหม่..2 วัน 1 คืน เที่ยวชิว ๆ แต่รูปเพียบ
ทริปนี้เป็นทริปสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่อยากเที่ยวเชียงใหม่ และถึงแม้ทริปนี้จะเป็นทริปสั้น ๆ แต่รับรองว่าได้รูปกลับกรุงเทพเพียบ มาเชียงใหม่ครั้งนี้ ฝ้ายเดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ ซึ่งฝ้ายเลือกไฟท์สาย ถึงสนามบินเชียงใหม่ 13.50 น. ที่เลือกไฟท์นี้เพราะไม่อยากตื่นเช้า แต่ใครกลัวไม่คุ้มก็เลือกไฟท์เช้าๆ ไปเลย
DAY 1
พอมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็ออกมายืนรอรถ ซึ่งรถที่จะมารับนั้นเป็นของที่พัก ที่เราจองไว้ รวมอยู่ค่าที่พักที่เราจ่ายเลย ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว เพราะที่พักอยู่ในเมืองนี้เอง ไปเที่ยวต่อง่าย ๆ ที่พักนี้มีชื่อว่า Live In Town Chiang Mai
Live In Town Chiang Mai
ที่เราเลือกพักที่นี้เพราะว่า มันไม่ใช่โรงแรมซะทีเดียวเป็นอารมณ์เหมือนบ้านหรือทาวน์โฮมให้เช่าอ่ะ ซึ่งมันก็จะเหมาะมากหากเรามาเป็นแก๊งค์ หรือครอบครัว แบบ 4-8 คนรัยงี้ ก็จะได้ฟิลที่รู้สึกว่าได้มาอยู่ด้วยกัน
ที่ Live In Town Chiang Mai มีทั้งหมด 3 ชั้น นี้คือชั้นแรกเมื่อเข้ามา .. ลืมบอกไปว่าที่นี้เช็คอินง่ายมาก เวลาเราจองอ่ะฝ้ายจองผ่าน https://abnb.me/h3KodbqKcS ซึ่งมันถูกกว่าพวก agoda นะ จากที่เช็คราคามา และก็พอจองเสร็จทางที่พักเค้าจะส่งรหัสเข้าบ้านมาให้ ลงรถเสร็จก็มาใส่รหัสเข้าบ้านได้เลย เช็คเอาท์ก้อแค่ปิดประตูมันก็ล็อคเอง เดียวแม่บ้านจะมาตอนเที่ยง ก็ง่ายดี
ที่นี้ก็จะมีอุปกรณ์ครัวให้หมด จาน ชาม ซ้อม กระทะไฟฟ้าหม้อชาบูก็มี เก๋เว่อร์ ชอบบบบบสุด เพื่อน กรี๊ดดดดดดดด 555 ซึ่งชั้น 1 ก็จะมีคล้าย ๆ ห้องรับแขกทางเข้า มีห้องนํ้า มีห้องครัวในและก็ครัวนอก
แต่ไฮไลท์ที่จะนั่งเมาท์ปาร์ตี้ ก็ต้องมาชั้น 2 เลยสวยมากกกกกกกก ตกแต่งดีเว่อร์ ที่กดจองมาก็เพราะมุมนี้แหละ
คือมุมนี้ที่ทุกคนจะต้องมารวมกัน ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านอ่ะ จะถ่ายรูป จะปาร์ตี้ได้ที่มุมนี้เลย หรือจะดูทีวี จะเล่นเน็ตก็ได้ WiFi ก็ฟรี
ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นห้องนอน ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ห้อง ห้องที่ฝ้ายถ่ายมาคือห้องใหญ่สุด ชั้น 3 จะมี 2 ห้องนอน ห้องนํ้าในตัวทั้ง 2 ห้อง และก็ชั้น 2 ที่เป็นห้องนั่งเล่นเมื้อกี้จะมี 1 ห้องนอน และก็ห้องนํ้าที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น
ห้องนอนก็คือดีมากกกก ชอบสุดคือมีกระจกบานใหญ่ด้วยนี้แหละ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเค้าก็มีให้หมดนะคะ ทั้งผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม แชมพู ครีมอาบนํ้า ห้องนํ้าก็สวยงาม ออกแบบเรียบ ๆ แต่ดูดี ราคาก็ถือว่าคุ้ม
ใช้เวลาอยู่ในที่พักนานเหมือนกัน เพราะรู้สึกสบาย เวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว เราตั้งใจว่าวันนี้จะไปถ่ายรูปที่ One Nimman อย่างเดียวเลย ซึ่งทางเรานั้นก็ได้ดูรีวิวมาแล้วว่าไปที่เดียวจบ มันดีมาก
การเดินทางวันแรกเราไม่ได้เช่ารถนะคะ และได้คำแนะนำจากพี่เจ้าของที่พักซึ่งพี่เค้าก็น่ารักมาก ๆ แนะนำให้เราเรียก Grab เค้าบอกคนเชียงใหม่จริง ๆ ไม่ขึ้นรถแดง ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่กล้ากลัวมีปัญหา แต่พี่เค้าก็บอกเรียกได้ เราก็เรียก ซึ่งเป็น JustGrab จากที่พักไป One Nimman ราคา 80 บาท มันก็ไม่ไกลเลยนะ ประมาณโลสองโล
One Nimman
ถึงแล้ว One Nimman สรุปง่าย ๆ เลยมันก็คือ ที่ไว้ถ่ายรูป มีร้านค้าขายของ ของกิน ของใช้ของฝาก ซึ่งรับประกันค่ะว่าที่แห่งนี้มันถ่ายรูปสวยทุกมุมจริง ๆ มาเถอะ
มุมยอดฮิต มีความเป็นยุโรปมากเว่อร์ มาเชียงใหม่ไม่กี่ชั่วโมงกดชัตเตอร์รัว ๆ ไปกี่รูปแล้วไม่รู้ตั้งแต่ที่พักยันที่ One Nimman ซึ่งคนก็มีมาเรื่อย ๆ นะคะ ไม่ได้เยอะหรือน้อยกำลังโอเคเราถ่ายรูปได้เลย ถามว่าทัวร์ลงมั้ย ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะนะแต่ไม่ได้ถึงกับเป็นทัวร์
มุมชิค ๆ เก๋ ๆ เยอะมาก กดชัตเตอร์รัว ๆ ไปเลยจ้าาาาาาาาาา
ข้างหน้าจะเป็นลาน มีขายพวกเบียร์ ของกิน รัยงี้ ให้ได้นั่งสร้างสรรค์ชิว ๆ มุมตรงนี้ฝรั่งเยอะมาก แต่ที่ที่เราจะไปกินข้าวไม่ใช่ตรงนี้ แต่เป็น One Street Food ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็อยู่ใน One Nimman นี้แหละ เดินผ่านที่เป็นห้องโถ่งสวย ๆ ไปเจอเลย ไฮไลท์อยู่ตรงนี้ มันไม่แพงจ้าาาาาาาาาา OMG !!!!
ปกติถ้ามาเที่ยวอะไรที่มันเป็นแนว ๆ นี้เราก็จะคิดแล้วอ่ะเนอะ ว่ามันแพง แต่ที่นี้ไม่ใช่เลยแถมยังรวมร้านเด็ด ๆ ดัง ๆ ในเชียงใหม่ไว้ อย่างไส้กรอก ไส้อั๋วนี้ ลืมชื่ออ่ะ แต่อ่านรีวิวมาคือดังมาก คนต่อคิวเยอะ ราคาไม้ละ 15 บาทเอง ถูกเว่อร์ อร่อยมากเว่อร์ด้วย ส่วนข้าวผัดสับปะรดก็คือ 150 เองจ้า กินได้ 2 คนเลยอ่ะ เยอะมาก จะกินอย่างอื่นต่อเลยไม่ได้กินเลยอิ่มก่อน
จุดที่ตอนแรก งง ๆ ในการเดินของ One Nimman ก็คือ ออกทางเดิมไม่ได้นะ ตามตึกที่เราเห็น เหมือนเค้าตั้งใจให้เราเดินให้ครบให้จบ ซึ่งก็เออ ฉลาดแหะ 555555 เราก็เดิน ๆ วนไป ใช้เวลานานเหมือนกันนะ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ภายในมีอะไรเยอะเหมือนกัน ของฝากก็มี ราคาไม่แพง
นั้นแหละค่ะ และผลจากการเดินและถ่ายรูปอยู่ในนั้น ใช้เวลานานมาก จนมืด 5555 ก็เลยเดินย้อนมานิดเดียว มาที่ห้าง MAYA กินไอติมละก็แว๊บถ่ายรูปหน้าห้างกับไฟซะหน่อย
หมดวันแรกแล้วเราก็ไม่ได้ไปไหนต่อ กะจะเอาของกินที่ได้ติดไม้ติดมือมากลับไปกินที่พัก นอนเปิดแอร์ดูหนังชิว ๆ กัน เอาให้คุ้มหน่อย เลยขอปิดท้ายด้วยน้องหมี STARBUCKS น่ารักกกกกมาก จริง ๆ ไม่รู้จังหวัดอื่นมีมั้ยแต่งตัวตามภาคตามจังหวัด 555
DAY 2
วันที่ 2 ได้มาถึงอย่างรวดเร็วจากที่เมื่อคืนนอนหลับสบายเต็มอิ่มกับที่พักแล้วนั้น ก่อนมาฝ้ายได้ทำการจองรถ เพราะไฟท์กลับ 6 โมงเย็น เลยอยากขับรถไปดูนู้นนี้กันชิว ๆ ก็นัดรับรถกันที่บ้าน ฝ้ายหาข้อมูลรีวิวเรื่องรถพอสมควร ก็ไปเจอเพจ OMG Car Rent รถเช่าราคาถูกเชียงใหม่ ซึ่งรีวิวดี มีดาราเคยมาใช้ และก็เค้ามาส่งรถถึงที่พักได้ด้วย ตอนคืนก็คืนสนามบิน ไม่ต้องมัดจำบัตรเครดิต มัดจำ 3,000 บาท ค่ารถ 1,000 บาท จากการใช้บริการรถใหม่ พนักงานดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร ใครสนใจเช่ารถก็ลองดูได้ค่ะ ฝ้ายจองล่วงหน้าแค่ 2 วันแต่จองง่ายมาก
Brand New Field Good
ที่แรกของวันนี้ที่เราจะไปก็คือ Brand New Field Good นั้นเอง เจ้าของก็คือ นิว (นิวจิ๋ว) กับเป๊ก เป็นสถานที่ที่เค้าแต่งงานกันและก็ตอนนี้เปิดเป็นร้านกาแฟกลางทุ่งนา การมาก็ไม่อยากค่ะ ตาม Google Map มาเลย ห่างจากตัวเมืองประมาณครึ่งชั่วโมง ร้านเปิด 10 โมง
มาถึงแล้วจะเจอวัด จอดรถบริเวณนั้นแล้วเดินมาได้เลย ทางเข้าร้านจะเป็นสะพานทอดยาวท่ามกลางทุ่งนา ชื่อว่า สะพานฮอมฮัก ซึ่งตอนไปคือ ชาวบ้านกำลังจะเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ถ้ามาช่วงปลูกขาวคงสวยกว่านี้อีก แต่แค่นี้ก็คือสวยมากกกกกกกกกกกกกก
แต่สิ่งที่ท้อนิด ๆ คือแดดร้อนมากเว่อร์5555 จะมาตอนเย็นก็ไม่ได้เพราะตกเครื่องแน่ และคนน่าจะเยอะ จริง ๆ ร้านน่าจะเปิดก่อน 10 โมงเนอะ 555 พอมาถึงร้านก็มีโซนแอร์กับไม่แอร์สลับไป ไปจับจองที่นั่งเขียนว่าจะเอาเมนูอะไรละก็ระบุเลขโต๊ะ และมาจ่ายตังค์เดียวพนักงานเค้าจะเอาไปเสริฟ์ให้
แต่ยอมในการตกแต่งร้านเลยทุกอย่างดูลงตัวดูสวย นึกถึงวันที่เค้าแต่งงานกัน คือสถานที่นี้มันก็สวยมากจริง ๆ อ่ะ อยากแต่งงานที่นี้บ้างเลย 555555555555
นั่งรอไม่นานเพราะไปตอนร้านเปิดพอดี คนไม่เยอะ ก็ได้มาแล้วที่สั่งไป ฟินกับบรรยากาศเว่อร์ แต่ร้อนมากเหมือนกัน อยากนั่งโซนที่เห็นวิวแต่จะไม่ได้แอร์ และไม่มีพัดลม ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าอยากให้เป็นธรรมชาติ แต่น่าจะมีพัดลมนิดนึง เพราะกินไปถ่ายรูปไป เหงื่อตกไป 55
ถามถึงเครื่องดื่ม สำหรับฝ้ายชอบนะ เพราะมันไม่หวานทั้งเครื่องดื่มและก็ของหวานคือโอเคเลยอ่ะ รสชาติที่เรากินอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องลองไปชิมดู เพราะรสชาติก็ถูกปากใครปากมันอ่ะเนอะ แต่โดยรวมคือดีชอบมากกกกกกก ถ่ายรูปได้เป็นพันอีกเหมือนกัน
มีโอกาสก็อยากไปตอนเย็นอีก ยังไงใครไปเชียงใหม่ และสายคาเฟ่ ก็ลองมาที่ Brand New Field Good รับรองว่าเก๋ นี้ถ่ายลง IG มีแต่เพื่อนถาม 555 และมาที่นี้ก็อย่าลืมมาไหว้พระด้วยนะคะ จริง ๆ วัดถึงก่อนคาเฟ่อีก วัดนี้มีชื่อว่า วัดอรัญญวาส บ้านปง เป็นวัดเล็ก ๆ แต่สวยมาก เงียบสงบ
วัดอรัญญวาส
วัดเล็ก ๆ แต่สวยมากเลย ชอบวัดตามเหมืองเหนือ เชียงใหม่พวกนี้มาก คือสวยมากกกกก ยังไงก็แวะมาไหว้พระเพื่อความเป็นศิริมงคลกันได้นะคะ
ระเบียง ณ แม่ริม
เราใช้เวลากันนานอีกเช่นเคย เนื่องจากการกดชัตเตอร์อย่างไม่หยุด ทำให้ปาเข้าไปจะเที่ยงแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะที่คนทยอยมาคาเฟ่เยอะแล้ว เราเลยกลับและก็ไปหาอะไรกิน หาข้อมูลรีวิวมาได้ความมาว่า ร้านอาหารอร่อย วิวดี มีอะไรบ้าง ก็ไปเจอร้าน ระเบียง ณ แม่ริม ใช้เวลามาจาก Brand New Field Good พอสมควร
บรรยากาศร้านดีมาก ต้นไม้เยอะ มุมร้านจะอยู่มุมสูง ทำให้วิวดีมาก มุมถ่ายรูปก็เยอะมากเช่นกัน ราคาอาหารถือว่าก็สูงระดับนึงเลย อย่างปลา 450 บาท แกง 280 บาท ประมาณนี้ ซึ่งพอกินเข้าไป คือ จะบอกว่าคุ้มค่ากับที่จ่ายอ่ะ อร่อยมากกกกกกกกกกกก และดูเหมือนไม่เยอะแต่จริง ๆ เยอะมาก อิ่มมาก คุ้มค่ากับราคาจริง
ที่สำคัญก็คือพนักงานเค้าดูแลดีมากกกก ดูเป็นร้านอาหารที่เกรดพรีเมียมหน่อยก็ว่าได้ บริการดีสุด อันนี้ยอมเลย อาหารก็ดี วิวก็สวย ก็แนะนำว่าควรมาเลยชอบมากกกกก อิ่มท้องและอิ่มใจแล้วก็เหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงต้องไปสนามบิน เวลารวดเร็วมากเว่อร์ เลยตัดสินใจไปใกล้ ๆ ทางกลับพอดี คือ สวนสัตว์เชียงใหม่ สารภาพเลยว่ามาเชียงใหม่ไม่เคยมาเลยอ่ะ 5555
สวนสัตว์เชียงใหม่
ตอนแรกก็ งง ๆ ว่าจอดรถตรงไหน ทำไมเค้าจอดตามทาง สำรวจไปมาคือ สวนสัตว์ใหญ่มาก เดินไม่ไหวแน่นอน ถ้าไม่ขับรถไปจอดจุดต่าง ๆ ก็ต้องนั่งรถราง เราก็เลยขับรถไปตามจุดต่าง ๆ ค่าเข้าสวนสัตว์ ผู้ใหญ่คนละ 100 นะคะ ค่ารถเข้ามาอีก 50 บาท
ก็ขับรถดูสัตว์ไปเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าไฮไลท์ของสวนสัตว์เชียงใหม่ก็คือ แพนด้า ช่วงช่วง กับหลินฮุ่ย นั้นเอง สมัยนางดัง ๆ ก็ไม่ได้มาดูสักที 555 ซึ่งจะเข้าไปดูพวกนางก็เสียอีกคนละ 50 บาท ตัวไหนช่วงช่วง ตัวไหนหลินฮุ่ย ก็จำไม่ได้ละ 555 แต่ว่าอิเจ้าตัวที่ถ่ายมาคือ ขี้เล่นมาก รู้จักเรียกแขกสุด มีโพสท่าเป็นระยะ เอาเป็นว่าใช้เวลายืนดูนางเกือบ 20 นาทีได้ แต่อีกตัวนางหลับอย่างเดียว