เกาะเชจู (Jeju) หรือที่คนเกาหลีเรียกว่า เชจูโด ซึ่งหมายถึง เกาะเชจู เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และได้รับการจดทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก เนื่องจากความสวยงามของธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยสถานที่สวยๆ น่าสนใจมากมาย เช่น เกาะอุโด้ (Udo Island), หมู่บ้านพื้นเมืองชองอึพ (Seongeup Folk Village), น้ำตกชอนจียอน (Cheonjiyeon Falls) เป็นต้น
นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนและเยี่ยมชมความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ อีกทั้งบนเกาะเชจูนี้มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ที่ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ไปชมกันว่าเชจูมีสถานที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง
1. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park)
อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเชจู มีความสูงถึง 1,950 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้
กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ก็คือการปีนเขา ซึ่งเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางที่ไม่ยากมากนัก ระยางทางโดยรวมประมาณ 10 กิโลเมตร โดยสามารถเดินเขาเส้นทางระยะสั้นได้ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง และมีเส้นทาง 4-5 ชั่วโมง หรือเส้นทางระยะไกลสุดก็จะใช้เวลารวมๆ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางนี้จะสามารถเห็นทะเลสาบที่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่เรียกว่า แบงนกดัม (Baengnokdam) ได้ด้วย
📍 พิกัด: 2070-61 1100(Cheonbaek)-ro, Jeju-si, Jeju-do, South Korea
2. หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ (Seongeup Folk Village)
หมู่บ้านวัฒนธรรมซงอึบ (Seongeup Folk Village) เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณเล็กๆ เชิงเขาฮัลลาซาน ผู้คนอยู่อาศัยกันที่นี่มากันเป็นเวลายาวนานจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศย้อนยุคโบราณ ชิมอาหารท้องถิ่น และชมดนตรีพื้นเมือง นอกจากนี้บริเวณใจกลางหมู่บ้านยังมีต้นไม้อายุหลายร้อยปีขึ้นอยู่ คือต้นเซลโคว่า (Zelkova) ซึ่งเป็นต้นไม้โบราณเกาหลี เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านที่ชาวบ้านให้ความสำคัญอีกด้วย
📍 พิกัด: 30번지 Seongeupjeonguihyeon-ro, Pyoseon-myeon, Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
3. วัดยักชอนซา (Yakcheonsa TEmple)
วัดยักชอนซา (Yakcheonsa Tample) หรือ วัดน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นวัดที่เก่าแก่ของเกาะเชจู ตัววัดมีขนาดใหญ่มาก โดยมีความสูงถึง 30 เมตร และมีพื้นที่กว่า 3,305 ตารางเมตร ภายในวัดมีพระพุทธรูปหลัก 3 องค์เป็นสิ่งแทนถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้แก่ พระพุทธรูปพระไวโรจนพุทธะสูงที่สุดในเกาหลีตั้งอยู่ มีความสูงถึง 5 เมตร ส่วนด้านซ้ายและขวาเป็นพระพุทธรูปสูง 4 เมตร ซึ่งผู้คนนิยมมากราบไหว้และขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
📍 พิกัด: 293-28 Ieodo-ro, Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
4. ยอดเขาซองซาน อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak)
ยอดเขาซองซาน อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) เป็นเกาะภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก ภูเขาซองซานอิลชุบงนั้นเกิดจากการระเบิดของภูเขาใต้น้ำมากว่า 100,000 ปี ปากปล่องภูเขาไฟมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 600 เมตร และมีความลึก 90 เมตร ซึ่งถ้าไต่ขึ้นไปบนยอดเขาก็จะสามารถพบกับวิวพาโนรามาของเชจูอันสวยงามอย่างแน่นอน เป็นหนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
📍 พิกัด: Seogwipo-si, South Korea
5. โขดหินยงดูอัม (Yongduam Rock)
โขดหินยงดูอัม (Yongduam Rock) หรือโขดหินมังกร ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเชจู โขดหินแห่งนี้เกิดขึ้นจากการกัดกร่อนของคลื่นลมทะเลทำให้มีรูปทรงลักษณะเหมือนหัวมังกรกำลังอ้าปากส่งเสียงร้องคำรามและพยายามที่จะผุดขึ้นจากท้องทะเล
📍 พิกัด: 15 Yongduam-gil, Yongdam 2(i)-dong, Jeju-si, Jeju-do, South Korea
6. ทุ่งดอกหญ้าพิงค์มูลลี่ (Pink Muhly Grass)
ดอกหญ้าพิงค์มูลลี่ (Pink Muhly Grass) บนเกาะเชจูนั้นจะบานสะพรั่งช่วงต้นเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน สามารถชมความสวยงามของพิงค์มูลลี่ได้ที่สวนโนรีแม (Norimae Park) และอุทยานแห่งชาติฮูรี (Hueree Natural Park) นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงามและเก็บภาพสวยๆที่นี่ รวมไปถึงคนเกาหลีก็นิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่นี่เช่นกัน
📍 พิกัด: 487-45 Sangam-dong, Mapo-gu, Seoul, South Korea
7. พิพิธภัณฑ์คิตตี้แห่งเกาะเชจู (Hello Kitty Jeju Island)
พิพิธภัณฑ์คิตตี้แห่งเกาะเชจู (Hello Kitty Jeju Island) ที่เหล่าแฟนๆของคิตตี้ห้ามพลาดเลย โดยภายในจะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของคิตตี้ มีภาพและศิลปะต่างๆ ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ อีกทั้งยังมีการฉายหน้ง 3 มิติเรื่องราวของคิตตี้อีกด้วย
📍 พิกัด: 340 Hanchang-ro, Andeok-myeon, Jeju-si, Jeju-do, South Korea