ประเทศจีน (China) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก กว่า 1400 ล้านคน เป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงปักกิ่ง จีนขึ้นชื่อถึงความยิ่งใหญ่ในสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างหลายอย่าง อีกทั้งอารยธรรมอันเก่าแก่ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งอารยธรรมยุคแรกเริ่มของโลก มาดูกันดีกว่าว่าจะมีเมืองไหนบ้างที่น่าสนใจของประเทศจีน ไปดูกันเลย
1. ปักกิ่ง (Beijing)
ปักกิ่ง (Beijing) เป็นเมืองหลวงของประเทศจีน ที่มีขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมจีน ในขณะที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนั้นจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้และฮ่องกง
ปักกิ่งเป็น 1 ใน 4 เมืองหลวงเก่าของจีน และได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 อีกด้วย ปักกิ่งมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square), กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China), พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวน (Yiheyuan Palace), พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) เป็นต้น
📍 พิกัด: ปักกิ่ง, ประเทศจีน
2. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) มหานครอันยิ่งใหญ่ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยความทันสมัย ความสะดวกสบายของการคมนาคมที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ แม้ว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย แต่ที่นี่ก็ยังผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ดั้งเดิม และคงยังรักษาความร่มรื่นของเมืองไว้ได้เป็นอย่างดี
เซี่ยงไฮ้มีไฮไลท์สำคัญหลายแห่ง เช่น หาดไว่ทัน (Waitan), ถนนหนานจิง (Nanjing Road), ตึกชมวิวสูง เป็นต้น
📍 พิกัด: เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
3. กวางโจว (Guangzhou)
กวางโจว (Guangzhou) หรือที่เดิมเรียกกันว่า แคนตัน ซึ่งกวางโจวเป็นเมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง เมืองในเขตเศรษฐกิจการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด และเป็นเมืองที่ใหญ่สุดทางตอนใต้ของประเทศจีนอีกด้วย ทั้งที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจรวมไปถึงมีร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้งมากมาย ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
📍 พิกัด: กวางโจว, ประเทศจีน
4. คุนหมิง (Kunming)
คุนหมิง (Kunming) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลยูนนานเต็มไปด้วยภูเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้หลากสีสวยงามจากต้นไม้หลากชนิด เมืองคุนหมิงจึงได้ถูกขนานนามว่า “นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ” ที่นี่จึงมีนักท่องเที่ยวผลัดกันมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย
📍 พิกัด: คุนหมิง, ประเทศจีน
5. ซีอาน (Xian)
ซีอาน (Xian) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของโลกเมืองหนึ่ง ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี อีกทั้งยังมีกำแพงเมืองโบราณที่มีความยาวกว่า 13 กิโลเมตร และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
📍 พิกัด: ซีอาน, ประเทศจีน
6. ฮาร์บิ้น (Harbin)
ฮาร์บิน (Harbin) เป็นคำในภาษาแมนจู มีความหมายว่า 'สถานที่ตากแหจับปลา' ฮาร์บินอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีพรมแดนติดกับรัสเซีย อีกทั้งฮาร์บินยังเป็นที่รู้จักในชื่อ 'เมืองแห่งน้ำแข็ง' เพราะมีฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็นมาก ในฤดูหนาวอาจจะมีอากาศต่ำสุดถึง -40 องศา เลยทีเดียว
📍 พิกัด: ฮาร์บิ้น, ประเทศจีน
7. แชงกรีล่า (Shangri-la)
แชงกรีล่า (SHANGRI-LA) หรือมีอีกชื่อว่า เมืองจงเตี้ยน คำว่า “จง” นั้นหมายถึงศูนย์กลางหรือสิ่งที่กว้างใหญ่อันเป็นศูนย์กลาง ส่วน “เตี้ยน” นอกจากจะแปลว่าทุ่งหญ้าแล้ว ยังแปลว่า อาณาจักร ได้อีกด้วย
แชงกรีล่าตั้งอยู่บนหุบเขาบนความสูงกว่า 3,160 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากบนนี้จะสามารถสัมผัสบรรยากาศและความสวยงามของเมืองเก่าที่ยังคงความสวยงามของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวทิเบต รวมถึงธรรมชาติต่างๆและภูเขาหิมะที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
📍 พิกัด: แชงกรีล่า, ประเทศจีน