สวัสดีครับ มีโอกาสได้กลับไปทานร้านอาหาร"หลังบ้านเชฟ"ที่เชียงใหม่มาอีกรอบ เลยเอามาอัพเดทให้สำหรับคนที่สนใจครับ สำหรับร้านอาหารหลังบ้านเชฟเป็นร้านเล็กๆอยู่ภายในชุมชนเเถบสันกำเเพงครับ โดยวันนึงจะรับประมาณ15 ท่าน ดังนั้นจึงต้องทำการจองไปก่อน โดยปัจจุบันจะอยู่ที่หัวละ 1650 บาทครับ(อาหารมี10 คอร์ส) เริ่มเสิร์ฟตอน 6 โมงเย็น เมื่อทำการติดต่อเเละจองปุ๊ป ทางร้านจะให้จ่ายเงินเต็มจำนวน ดังนั้นวันที่ไปถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มจึงมีเเค่ส่วนเครื่องดื่มเท่านั้นครับ ผมไปถึงร้านราว 5 โมงครึ่ง ตัวร้านจะเป็นทั้งบ้านของเชฟด้วย เเละด้านข้างบ้านริมสนามหญ้าจะเป็นที่นั่งสำหรับเเขกที่มาทานอาหาร ซึ่งมีทั้งโซนOpen Air เเละในศาลาที่ติดเเอร์ครับ ส่วนตัวผม ผมชอบตรงศาลามากกว่า
ด้านข้างของบ้านจะมีเเปลงผักเเละดอกไม้เล็กๆ ซึ่งเจ้าพวกนี้จะถุกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่จะทำเสิร์ฟเราด้วย
พอ6โมงเย็นก็ได้เวลามาประจำการที่โต๊ะ เริ่มด้วยWelcome Drink เป็นน้ำรสอมเปรี้ยวมคล้ายมะขามพริกเกลือ แปลกๆดี
จานเเรกจะเป็นขนมปังเสิร์ฟพร้อมที่ทา 3 เเบบนั่นคือตับไก่ เเยมมะม่วง เเละมูสเเซลมอนกับไข่ปลาดองโชยุ ตัวขนมปังสามารถเติมได้ สำหรับผม ผมยังไม่ชอบtextureของขนมปังเท่าไร เเต่ตัวเพสท์ทำได้ดี โดยเฉพาะตัว Mango Chutney ตัวนี้ทากับขนมปังเเล้วอร่อย มีรสเปรี้ยวอมหวานดีครับ
จานถัดมาเป็น Oyster Confit ทอปด้วยไข่ปลาดองโชหยุ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Lobster Croquettes ตัวหอยนางรมผมยกให้เพื่อนไป เพราะไม่ใช่สายทานหอยสักเท่าไร เเต่ส่วนโครเกต์ซึ่งเสิร์ฟมาเเบบรมควัน ทานเเล้วอร่อยครับ รสมีความกลมกล่อม ไม่อมน้ำมัน เข้ากันได้ดีกับซอสที่รองอยู่ด้านล่างครับ
จานสลัด(ที่มีผักน้อยมาก) จะเป็นเเซลมอนเอาไปเบิร์น เสิร์ฟบนเม็ดมะม่วงครัมเบิลเคลือบคาราเมล ด้านข้างเป็นBeetroot gel เเละ mayonnaise จานนี้อร่อยครับ ปลาทำมาได้กำลังพอดี พอทานกับเจลเเละซอส อร่อยครับ เเต่มันไม่ให้ความรู้สึกถึงการกินสลัดเท่าไร
จานถัดมาเป็นจานซุป ซึ่งซุปที่เชฟทำมาเป็นซุปเห็ดที่ประกอบด้วยเห็ดหอม ออรินจิ เเชมปิยอง ด้านบนเป็น Parmesan Foam เเละนำมันเห็ดทรัฟเฟิลครับ จานนี้อร่อยมากกก น่าเเปลกที่บางครั้งซุปเห็ดทานเเล้วจะหนักๆ เค็มๆ เเต่นี่ทำมาได้กลมกล่อมเเละไม่หนักจนเกินไป
จานถัดมาเป็นจานSignatureของที่นี่คือกุ้งลายเสือเอาไปผ่านกรรมวิธีเเบบฝรั่งเศส(เชฟบอกเเค่นี้ ไม่รู้ว่าทำไง 555) เสิร์ฟพร้อมโซบะ น้ำมันงา เเละน้ำผึ้ง(ผมใช้ภาพของการกินครั้งที่เเล้ว เเต่หน้าตาเหมือนๆกันครับ ภาพคราวนี้หาย) จานนี้อร่อยมากกกกกก อร่อยจริงๆ เนื้อกุ้งดี textureโซบะก็ดี รสชาติก็ดีครับ
จานต่อมาเป็น Lobster Bisque Risotto เสิร์ฟพร้อมScallops เเละกุ้งญี่ปุ่น จานนี้รสจะเเน่นๆนิดนึงทั้งจากตัวรีซอตโตทีทำจากซุปลอบสเตอร์ เเละเนื้อหอยเชลเเละกุ้ง เเต่โดยรวมถือว่าอร่อยครับ ตัวข้าวมีความกรุบนิดๆ เนื้อหอยนุ่มเด้งดีครับ
จานถัดมาเป็น Chocolate Foie gras โดยเชฟทำเหมือนกับชอคโกเเลตเฟอเรโร ที่มีตับห่านผสมอยู่ ทานพร้อมกับApple Sphere โดยเวลาทานจะให้เราเอามือถูกับโรสเเมรีก่อนหยิบเจ้าชอคโกเเลตมาทาน เเล้วตามด้วยsphere ซึ่งต้องยอมรับว่ารสชาติเเละกลิ่นดี ไม่มีกลิ่นของตับออกมา เเต่ยังได้ความมันของตับอยู่ เชฟเลือกตัดความเเน่นของรสชอคโกเเลตตับด้วยเเอปเปิล ซึ่งให้รสชาติเบา ถือว่ามีมิติดีครับ จานนี้
จานนี้เป็นComplimentary จากเชฟ เป็นเนื้อA4พันหน่อไม้ฝรั่งเสิร์ฟพร้อมBéarnaise sauce อร่อยครับ เนื้อนุ่ม เเอสพารากัสกรอบ ซอสดี
จานถัดมาเป็นอกเป็ดรมควันกับซอสส้ม เนื้อเป็ดทำได้ดีมากกกก เนื้อเเน่น ซอสกลมกล่อม Pureeก็อร่อยครับ
จานหลักที่ผมเลือกทานเป็นเนื้อ Dry Age 45วัน charcoal กับซอสไวน์เเดง ตัวเนื้อทำได้ดี รสชาติอร่อยครับ เเต่portion เล็ก เเละผมว่ายังจัดจานไม่ว๊าวเท่าไร
ของเพื่อนผมเลือกเป็นกุ้งลายเสืออบชีสกับข้าวฝรั่งเศส เพื่อนบอกว่ารสชีสเด่นกว่ากุ้งไปนิดส่วนข้าวอร่อย
ของหวานเป็น Chocolate Mousse ทำเป็น4Layers โดยประกอบด้วย โอรีโอ้/Dark Chocolate/Milk Chocolate เเละ White Chocolate เสิร์ฟพร้อมกับครัมเบิลเเละผลไม้สด passion fruit sorbet เเละmascarpone อร่อยเเละถือว่าเป็นตัวจบมื้อได้ดีทีเดียวครับ
สรุป หลังบ้านเชฟก็ยังคงเป็นร้านอาหารที่รักษามาตรฐานของรสชาติอาหารไว้ได้ดีทีเดียวครับ ทำหรับราคา1650 บาท ผมว่าคุ้มค่านะกับอาหารที่นำมาเสิร์ฟ เเต่ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ผมว่าMain course ยังน้อยไปหน่อย เเละการอธิบายอาหารเเต่ละจานรีบไปนิดครับ โดยรวมไม่ผิดหวังครับ