ทริปนี้เราจะพาไปภาคอีสานของประเทศไทยนี้แหละ พาไปสัมผัสกับวิถีชีวิต ธรรมชาติ และความเป็นกันเองของชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองเป็นเพียงทางผ่าน แต่สำหรับเราที่นี่เป็นทั้งแหล่งความรู้ แหล่งท่องเที่ยวที่ถูกรวบรวมเอาไว้ ที่นี่ “ชุมชนบ้านบัวเทิง” จังหวัดอุบลราชธานี
การเดินทางก็แสนจะง่ายจากสนามบินอุบลราชธานี เราเช่ารถเพื่อไปยังชุมชน ใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปยัง อ.วารินชำราบ จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 217 ขับไปประมาณ 12 กม. จะเจอสะพานต่างระดับ ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึงชุมชนบ้านบัวเทิง บอกเลยว่าร้องเพลงไม่ทันจบก็ถึงแล้ว 555
เสาหลักบ้าน
มาเริ่มที่แรกกันที่ "เสาหลักบ้าน" ที่มีอายุเกือบ 200 ปี เป็นที่เคารพนับถือของชุมชน เชื่อกันว่าถ้าลูกหลานคนไหน เดินทางไปไกลบ้าน ต้องมาไหว้เพื่อบอกกล่าว และขอพรให้คุ้มครองลูกหลาน เดินทางปลอดภัย หรือขอในด้านการงานก็ได้ เปรียบเสมือนเสาหลักบ้านนี้เป็นผู้ใหญ่ที่คุ้มครองคนในชุมชนมายาวนาน
ป่าชุมชน
จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ "ป่าชุมชน" เป็นป่าที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ เพื่อให้อยู่คู่ชุมชน โดยมีการสร้างข้อตกลง ห้ามตัดไม้ ห้ามทำลายสัตว์ป่า เพื่อให้ป่าอยู่คู่ชุมชนไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ต้นไม้ในป่าแห่งนี้จึงมีความสมบูรณ์ ต้นไม้ก็มีขนาดที่ใหญ่มากๆ แต่ละต้น มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
ต้นตะแบกต้นนี้อายุมากกว่า 100 ปี
ในป่าแห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือ นั้นก็คือ “ดอนปู่ตา” เชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษที่คอยช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง และช่วยขจัดสิ่งช่วยร้ายต่างๆ ให้กับลูกหลาน
แปลงเกษตรอินทรีย์และโฮมสเตย์
จากที่เราได้ไปไห้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชนแล้ว เราก็ได้มาที่ "แปลงเกษตรอินทรีย์และโฮมสเตย์" ซึ่งก่อนจะเข้าไปในโฮมสเตย์ เราก็ได้สะดุดกับป้ายหน้าบ้านที่กล่าวไว้ว่า พัก 1 คืน อายุยืน 100 ปี แค่ได้เห็นก็อยากจะรีบเข้าไปพักซะแล้ว
ที่นี่ยังเป็น "ฐานการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์" อีกด้วย เราได้ทั้งการพักผ่อนที่จะสบาย แถมยังมีผัก ผลไม้ปลอดสารที่ไว้ทานกันอีก ซึ่งผลผลิตที่นี่บางส่วนนำไปส่งให้กับทางโรงพยาบาลด้วย
สิ่งที่พลาดไม่ได้ในการมาที่ชุมชนแห่งนี้คือ สวนพุทรา 3 รส คือมี รสหวาน เปรี้ยว และฝาด ที่มีชื่อเสียงล่ำลือว่าเป็นพุทราที่อร่อยที่สุด ถือว่าเป็นผลิตผลที่ทำรายได้ให้กับคนในชุมชนนี่เลยก็ว่าได้
จากสวนพุทราเราก็มากันที่ "สวนเกษตรผสมผสาน" ซึ่งมี พืช ผัก ผลไม้ ตามฤดูกาล ที่นี่ยังทำน้ำปุ๋ยหมัก เลี้ยงไส้เดือน ซึ่งมั่นใจได้ว่า แปลงเกษตรผสมผสานแห่งนี้ปลอดสารแน่นอนจ้า
ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ธ.ก.ส. ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันส่งเสริมทางด้านเงินทุน องค์ความรู้ รวมไปถึงเป็นสื่อกลางกลางส่งต่อให้คนภายนอกเข้าถึงชุมชนได้อย่างมากยิ่งขึ้น
ชาวบ้านน่ารักมาก มีการได้จัดเตรียมอาหารพื้นถิ่นไว้ต้อนรับหลายอย่าง "อ่อมไก่ใส่หวาย ระแวกะปู ยำโคโยตี้ แกงเห็ดเจ็ดชั่วโครต" แค่ได้ยินชื่อ ก็ตะลึ่งกันเลยทีเดียว 555
รสชาติของอาหารอีสานนั้น เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยส่วนตัวเราชอบมากๆ กินคู่กับผักที่เพิ่งเก็บมา กรอบ หวาน อร่อย แซ่บลืมกันเลยเชียว
พิพิธภัณฑ์ตามรอยอเล็กซานเดอร์มหาราช
ก่อนเดินทางกลับก็จะพลาดไม่ได้ที่จะต้องแวะ "พิพิธภัณฑ์ตามรอยอเล็กซานเดอร์มหาราช" จากการที่ จังหวัดอุบลราชธานีได้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องอเล็กซานเดอร์มหาราช จึงได้มีการจำลองเมืองเป็น ค่ายพักแรมของกองทัพพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
ภายในมีการแบ่งเป็นกระโจมต่างๆ กระโจมท้องพระโรง คลังอาวุธ เครื่องแต่งกาย มีนิทรรศการบอกเล่าประวัติความเป็นมา แถมยังมีจุดให้ถ่ายรูปอีกด้วยนะ
เชื่อว่าเรื่องราวบอกเล่าของเราครั้งนี้น่าจะทำให้ใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวอุบลราชธานี จะอยากมาจังหวัดนี้ และมองภาพจังหวัดนี้ได้ชัดเจนขึ้น หลายคนอาจที่คิดว่าชุมชนบ้านบัวเทิงเป็นแค่เพียงทางผ่าน แต่สำหรับเราที่นี่โอเคมากเลย หลังจากได้สัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน และกินอาหารพื้นถิ่นอย่างอิ่มอร่อย ชาวบ้านก็มีความน่ารัก ต้อนรับ และดูแลเป็นอย่างดี เหมือนเราเป็นลูกหลานคนหนึ่ง อบอุ่น และประทับใจมาก อยากให้เพื่อนๆ ได้มาลองสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง จบจากอุบลราชธานีแล้ว เราจะไปต่อจังหวัดไหนตามดูต่อไปนะ….
ติดต่อชุมชน : บ้านบัวเทิง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี
ผู้นำชุมชนบ้านบัวเทิง โทร. : 094-3107913