แสงเทียน บีช รีสอร์ท อิ่มเอมใจไปกับทะเลสวยๆ และชายหาดส่วนตัว    

แสงเทียน บีช รีสอร์ท  🏖️  อิ่มเอมใจไปกับทะเลสวยๆและชายหาดส่วนตัว พร้อมทั้งมุมถ่ายรูปสุดปังและกิจกรรมมากมาย โดยห้องพักที่เราจองเป็นห้อง Deluxe ที่ออกแบบให้มีความมินิมอล ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้งราวแขวนเสื้อผ้า กระจกแต่งตัวบานใหญ่ หรือแม้แต่เซ็ทตะกร้า snack box   

ห้องพักห่างจากทะเลประมาณ 200 เมตร ได้ยินเสียงคลื่นซัดชายหาดเบาๆ ด่านหน้าชายหาดมีกิจกรรมมากมาย ทั้ง 

• พายเรือคายัค ฟรี ! 🛶
• ดำน้ำตื้น ฟรีอุปกรณ์ 
• มีแพยางใหญ่ยักษ์ให้นั่งเล่น
• พาย SUP BOARD  300/ชั่วโมง 

นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปทั้งกระโจมริมทะเล เซ็ทปิคนิคชายหาด มุมรังนกบาหลี ส่วนกลางคืนก็นั่งทานอาหารค่ำและฟังดนตรีสดริมทะเล รวมถึงการแสดงควงกระบองไฟอีกด้วย   

ที่นี่เป็นหาดส่วนตัวที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการมาดื่มด่ำบรรยากาศสวย แล้วเค้ายังมีให้เช่าชุดว่ายน้ำนางเงือกด้วยนะ และที่รีสอร์ทมีบริการถ่ายภาพมุมสูงให้แหละ สายถ่ายรูปต้องมา 📷 

การเดินทางทริปนี้เราใช้กระเป๋า St.Andrews - Bags & Accessories  เป็นเป้ผ้าร่ม มีช่องเก็บของหลายช่อง ใส่ได้ทั้งโน้ตบุ๊ค เสื้อผ้า รักเลย ใบนี้   

แสงเทียน บีช รีสอร์ท

ทริปทะเลแบบนี้ เราเลือกใส่เสื้อฮาวายของ  Luckypeach บอกเลยเนื้อผ้าบางและนุ่มมากๆเลย   

🏠 : หาดแสงเทียน เกาะเสม็ด ระยอง

☎️ : 081-295-9567

📱 : @sangthian

💻 : https://www.facebook.com/SangThianBeachResort/

สวัสดีคร๊าบ .. ทริปนี้เราจะพาไปเที่ยว “เกาะเสม็ด” เกาะที่ขึ้นชื่อว่าน้ำใสไม่แพ้เกาะไหนในแถบทะเลภาคตะวันออก เราเริ่มออกเดินทางจากชลบุรี ประมาณ 11.00 ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์สายใหม่ ขับกันเรื่อยๆ ชิลๆ ไม่รีบ ก็มาถึงท่าเรือศรีบ้านเพ เวลาประมาณ 12.00 จอดรถไว้ที่รับฝากตรงท่าเรือเลย มีคนดูแลรถให้เรียบร้อย  

เสร็จแล้วเราก็มาซื้อตั๋วเรือเมล์ ไป-กลับ คนละ 120 บาท บวกค่ารับฝากรถอีก 100 บาท ก็เป็น 340 บาท เราได้เรือเมล์รอบ 13.10 น. ได้เวลาขึ้นเรือก็จะมีรถสองแถวมารับเราจากจุดนั่งรอไปส่งที่ท่าเรือไม่ต้องเดินหอบหิ้วกระเป๋าให้เหนื่อยเลย  

ซึ่งเรือที่ท่าเรือศรีบ้านเพจะมีรอบการเดินเรือไปเกาะเสม็ดทุกๆ หนึ่งชั่วโมง ..  

ถึงท่าเรือ .. เรือศรีบ้านเพของเราสีสันสดใสมาก สีชมพูม่วงColor full สุดๆไปเลย ขาไปเรือเราผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง อาจจะเพราะวันศุกร์มีนักท่องเที่ยวบางคนเดินทางมาพักผ่อนก่อนวันหยุด เพื่อเลี่ยงคนเยอะเช่นเรา 555 เรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที  

บนเรือจะมีเสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยวใส่ทุกคนเพื่อความปลอดภัย 

ระหว่างที่นั่งบนเรือลมทะเลพัดมาเย็นสบายมาก อากาศถึงจะร้อนแต่ก็ไม่แดดไม่แรงมาก ยิ่งเรือมาถึงกลางทะเลลมเย็นๆยิ่งพัดมา รู้สึกสดชื่นสุดๆ  

เราเห็นชายหาดของเกาะอยู่ไม่ไกลจากสายตา .. และแล้วเรือก็มาจอดเทียบท่าเรือหน้าด่าน นักท่องเที่ยวทยอยขึ้นฝั่งโดยมีเด็กเรือคอยช่วยยกของ และกระเป๋าของนักท่องเที่ยว เราขึ้นจากเรือเป็นกลุ่มสุดท้าย ..  

แลนด์มาร์คของเกาะเสม็ด " ผีเสื้อสมุทร "  

ที่นี่มีรถให้เช่าทั้งมอเตอร์ไซค์ หรือสองแถว แต่เราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านเจ๊ออยข้างๆเซเว่น ในราคา 250 บาท ได้พาหนะสำหรับทริปนี้แล้วเราก็เตรียมตัวแว๊นไปที่พักกันดีกว่า..  

ที่พักของเราอยู่เลยชายหาดมาประมาณ 200 เมตร ห้องพักเราคือ D4 เป็นห้องพักที่รีโนเวทใหม่ แต่มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบถ้วน  

ทั้งไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม แถมยังมีเซท Snack Box ใส่ตะกร้าปิกนิคมุ้งมิ้งให้เราอีกด้วย  มีราวแขวนเสื้อและไม้แขวนข้างๆเป็นกระจกบานใหญ่ถูกใจสาวๆแน่นอน แถมด้วยจอโทรทัศน์ขนาด 42 นิ้วที่เปิดได้ทั้ง YouTube Netflix ดูหนัง ฟังเพลงกันอย่างจุใจเลย  

ห้องน้ำก็กว้างขวาง คุมโทนมากๆเลยน้า  

เราเก็บของเปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็ลงมาเดินเล่นที่ชายหาด .. มีมุมถ่ายรูปยอดฮิตเพียบเลยแกรร๊  

มาถึงมื้อแรกของเรา สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้เลย รวมอยู่ในแพคเกจ เมนูที่สั่งก็เป็นข้าวผัดกระเพราทะเล อร่อยใช้ได้อยู่นะ ปลาหมึกตัวใหญ่ดี ตั้งหน้าตั้งตาจัดการข้าวกันจนเกลี้ยงจาน  

มีมุมเซ็ตปิคนิค อุโมงขนนกให้เราแอ๊คท่าถ่ายรูป  

แค่มุมห้องอาหารก็สุดๆ แล้ว มุมถ่ายรูปเยอะมาก  

นุ้งหมาทะเลมารอต้อนรับเราด้วย  

มีห่วงยางหงส์ ห่วงยางเป็ดตัวใหญ่ยักษ์ให้นอนลอยเล่นอีกด้วย มาที่นี่กิจกรรมเพียบเลยแกรร๊  

มุมถ่ายรูป กระโจมสีขาวริมทะเลที่ตั้งไว้บนหาดทรายขาวๆ  

และทริปนี้เราใช้กระเป๋าเป้ผ้าร่มของ st.andrewsleathergoods รักเลยใบนี้สะพายทำกิจกรรมถ่ายรูปได้ทุกที่  

มีช่องเก็บของหลายช่อง ใส่ได้ทั้งโน้ตบุ๊ค เสื้อผ้า ฯลฯ ใบเดียวครบจบเลยแกรร๊  

และมาทะเลแบบนี้มันก้ต้องเสื้อฮาวายแล้วป่ะ ทริปนี้ เราใส่เสื้อของ luckypeachofficial  

เป็นเสื้อฮาวายที่เนื้อผ้าบางและนุ่ม ใส่แล้วรู้สึกสบาย  

ลายผ้าสีสันสดใสเหมาะกับ summer มากๆ เลยน้า  

เค้ามีให้เลือกหลายลาย หลายไซส์เลยน้า ของเราใส่เบอร์ L เราว่ามันลงตัวนะกับการมาทะเล  

มีบริการพายSup Board เรือคายัค ที่สำคัญถ่ายรูปให้ด้วยน้า  

เรากลับขึ้นห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวลงไปกินอาหารค่ำซึ่งต้องจองโต๊ะไว้ก่อน  

เราได้โต๊ะ C8 ซึ่งค่อนข้างอยู่ในมุมที่ส่วนตัว และอยู่ริมทะเล มีแสงไฟคล้ายๆแสงเทียน ทำให้บรรยากาศโรแมนติกไปอีก ...ซึ่งมาพร้อมอาหารทั้ง ไข่เจียวปู ต้มยำทะเล ทะเลผัดผงกะหรี่ และเสิร์ฟพร้อมผลไม้ล้างปาก  

ประมาณหนึ่งทุ่มก็มีดนตรีสด นั่งทานข้าวไปฟังเพลงสบายๆริมทะเล มันรู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆ  

สองทุ่มไฟทุกดวงก็ดับลง ตอนแรกทุกคนตกใจมากคิดว่าไฟดับ แต่มันเซอร์ไพรส์มากอ่ะแกรรเสียงประกาศขึ้นมาว่า "ขณะนี้ท่าจะได้พบกับโชว์ชุดพิเศษซึ่งเป็นการควงกระบองไฟ ไฮไลท์ของที่แสงเทียนบีช"  

และที่เป็นซิกเนเจอร์เลยคือการควงกระบองไฟตรงริมทะเล เป็นประกายไฟขึ้นมาเหมือนเราดูจุดพลุ มันอเมซิ่งมากอ่ะแกรร๊ โชว์ใช้เวลาประมาณ 45 นาที  

อากาศยามเช้าสดชื่นมากๆ... เช้านี้น้ำทะเลขึ้นจนถึงมุมชิงช้ารังนก  

ก่อนที่ช่วงสายๆ น้ำจะเริ่มลดระดับลงไปเรื่อยๆ เรามาห้องอาหารแต่เช้าเพื่อมาทานข้าวและเก็บรูปบรรยากาศยามเช้า  

อาหารเช้าของเรามีให้เลือกหลายอย่าง ทั้ง ไข่ดาว ข้าวต้มหมู สปาเก็ตตี้ ไส้กรอก แล้วก็มีผัดเปรี้ยวหวาน ข้าวสวย รวมถึงมุมชา กาแฟ และขนมปังปิ้ง และผลไม้เป็นแตงโมกับสับปะรด  

เราทานข้าวอิ่มเรียบร้อยก็เดินหามุมถ่ายรูปกันต่อ  

ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะจริงๆ ทั้งมุมโต๊ะอาหารกับชุด afternoon tea บอกเลยพร๊อพเยอะมากจริงๆ  

ที่พักของเราแสงเทียนบีชรีสอร์ทอยู่ติดริมหาดเลยแกรร๊  

เสียงเด็กน้อยหัวเราะอยู่ตรงชายหาดกับห่วงยางริมทะเล  

เด็กๆ มีความสุข และสนุกกับการตักดินเล่นบ้าง นั่งบนห่วงยาง สนุกเค้าแหละ  

มุมถ่ายรูปกับ sup board ห้ามพลาดเลยน้า ถ้ามาแล้ว  

มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมากๆ มาที่นี่ที่เดียวเราว่าครบนะ  

ถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ได้เวลาเช็คเอาท์ออกจากที่พัก ไว้มีโอกาสเราจะกลับมาเที่ยวอีก แค่สองวันหนึ่งคืนเราก็ชาร์ตแบตให้ตัวเองไปเกือบเต็มร้อย  

ตอนนี้เค้าจัดโปร คนละ 1,234/ท่าน/คืน (รวมอาหารกลางวัน เย็น และเช้า) มาเหอะ มันคุ้มมากจริงๆ