นารา (Nara) เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ติดกับ โอซาก้า และเกียวโต เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของราชวงศ์ยามาโต้ จนกระทั่งเมืองหลวงถูกย้ายในปี 784 ที่เมืองนารามี วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) ที่มีชื่อเสียงมากจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่หรือหลวงพ่อโต และมีศาลเจ้าคาซูงะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะนารา (Nara Park) ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณภายในสวนมีเหล่ากวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นเสมือที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้คน เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มีวัดและศาลเจ้ามากมายซึ่งบางแห่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรกดโลก เช่น วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple) ซึ่งเป็นวัดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในช่วงซากุระบานนั้นภูเขาทางตอนใต้ของนารา เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการชมซากุระ นั่นก็คือภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino) ด้านบนเขานั้นสามารถที่จะมองเห็นต้นซากุระหลายพันต้นเรียงรายออกดอกให้ชมอย่างสวยงาม
📍สามารถจองกิจกรรมเที่ยวต่างๆ ในเมือง Nara และ Osaka แบบง่ายๆ ที่ Klook
วิธีเดินทางจาก โอซาก้า – นารา
1. เดินทางด้วยรถไฟของ JR 🚃
- รถไฟจากสถานี Tennoji ไปลงสถานี Nara ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคา 470 เยน
- 1.2 รถไฟจากสถานี Shin - Osaka ไปลงสถานี Nara ราคา 800 เยน ใช้เวลาประมาณ 45 เยน
2. เดินทางด้วยรถไฟเอกชน คินเท็ตสุ (Kintetsu) 🚋
รถไฟด่วนจากสถานี Namba Station ไปสถานี Kintetsu Nara ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคา 1,070 เยน หรือนั่งรถไฟแบบธรรมดาที่ใช้เวลานานกว่านิดหน่อย แต่ราคา 570 เยน
การเดินทางในเมือง นารา จะใช้วิธีนั่งรถเมล์ ราคาเริ่มต้นที่ 210 เยน ถ้าต้องการโดยสารมากกว่า 2 ครั้งแนะนำให้ซื้อบัตรแบบ One day pass ราคา 500 เยน (Nara City) สามารถเที่ยวสถานที่สำคัญในเมืองนาราได้หลายแห่ง ซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวเมืองนาราใน 1 วัน แต่เราใช้วิธีการนั่งไปลงที่ไกลสุดของวันนี้นั่นคือ ศาลเจ้าคาสุกะ(Kasuga Taisha Shrine) โดยลงที่ป้าย Kasuga Taisha Honden แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
นั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย Kasuga Taisha Honden แล้วเดินต่อเพื่อไปที่ ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha Shrine) ประมาณ 10 นาที
พอเดินเข้ามาเรื่อยๆ เราจะเริ่มเจอกับน้องกวางตัวเล็ก ตัวใหญ่ มีเขาและไม่มีเขา โดยน้องกวางจะนอนๆ เดินๆ งงๆ ไม่ดุร้ายเลย สามารถยืนถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยเลยนะ
ตามจุดที่มีน้องกวางก็จะมีอาหารแผ่นๆ แบบนี้ขายอยู่ ราคาชุดละ 150 เยน
เราขอเตือนว่าซื้ออาหารกวางมาแล้ว ระวังกลุ่มกวางมาเฟียที่อยู่แถวร้านขายอาหารให้ดี เพราะมันจะมารุมและอาจจะกัดพุง กัดเสื้อผ้า เพื่อขออาหารเราแบบชุลมุนวุ่นวายกันเลย แนะนำให้รีบเดินออกมาและซ่อนอาหารของพวกมันเอาได้ดีๆ ก่อน ค่อยมาให้บริเวณที่มีกวางน้อยๆ จะดีกว่านะ
เราเดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับตะเกียงหินแบบโบราณตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางเข้าของ ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha Shrine)
ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha Shrine) นับได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่โด่งดังมากๆ ของเมืองนารา ไฮไลท์ของศาลเจ้าจะเป็นตะเกียงหินโบราณประดับประดาอยู่ทั่วพื้นที่ของศาลเจ้า ส่วนตัวอาคารหลักของศาลเจ้ามีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยมากตามสไตล์นารา
ค่าเข้าชม : ศาลหลัก 500 เยน ผู้ใหญ่
เวลาเปิด - ปิด :
เมษายน - กันยายน : 6:00 - 18:00 น.
ตุลาคม - มีนาคม: 6:30 น. - 17:00 น.
หน้าวิหารหลัก 8:30 น. - 16:00 น.
วันปิดทำการ : เปิดทุกวัน
วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) มีชื่อเรียกหลายๆ ชื่อที่คนทั่วไปมักจะเรียกว่า วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุตสึ (Daibutsu of Nara) วัดนี้นั้นชื่อเสียงความโด่งดังนี่ระดับประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว วัดไทโดจิมีพระพุทธรูปที่มีชื่อว่า พระพุทธรูปไดบุทสึ (Daibutsu) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ แต่ได้มีการซ่อมแซมในสมัย โมะโมะยะมะ เนื่องจากมือทั้ง 2 ข้างเสียหายจากแผ่นดินไหวและไฟไหม้ และหอที่พระพุทธรูปไดบุทสึประดิษฐานอยู่นั้นถือได้ว่าเป็นหอไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เวลาเปิด - ปิด
- (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์)8:00 - 16:30 น.
- (มีนาคม) 8:00 - 17:00 น.
- (เมษายน - กันยายน) 7:30 - 17:30 น.
- (ตุลาคม) 7:30 - 17:00 น.
- (เมษายน - กันยายน) 7:30 - 17:30 น.
- (ตุลาคม) 7:30 - 17:00 น.
- วันปิดทำการ : เปิดทุกวัน
การเข้าชมในตัววัดจะเสียค่าเข้า 500 เยน และเด็ก 300 เยน วัดนี้ยิ่งใหญ่สมควรเข้าไปชมด้านในครับ แต่วันนี้เนื่องจากคนเยอะมากก...กก เราเลยขอบายนะ **ถ้าใครมีรูปด้านในวัดสามารถโพสรูปไว้ใต้คอมเม้นต์ภาพนี้ได้เลยนะ
สวนสาธารณะนารา (Nara Park) หรือได้อีกชื่อหนึ่งว่า สวนกวาง เพราะเป็นสวนสาธารณะที่มีกวางเชื่องจำนวนมากอยู่ที่สวน ซึ่งกวางกับเมืองนารานั้นเป็นสัตว์ที่คู่กันเพราะกวางถือว่าเป็นสัตว์สวรรค์เคยมีตำนานอยู่ว่า เทพเจ้า Takemikazuchi กับกวางขาวนั้นช่วยกันปกป้องเมืองนาราจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ซึ่งนั้นก็คือเหตุผลที่ทำให้กวางเป็นสัตว์สำคัญของเมืองนารานั่นเอง
เดินทางมาอีกที่หนึ่งนั่นคือ วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple) โดยนั่งรถเมล์สาย 97 มาลงที่ป้าย Kintetsu Nara แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ 10 นาที
วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple) เป็นวัดที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่แป็นเพราะวัดไม้ที่มีความสำคัญสวยงามมาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อีกทั้งได้รับการยกย่องให้ฐานะแหล่งเก็บรวบรวมงานศิลปะทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ตัวอาคารเองก็ล้ำค่าไม่แพ้กันเพราะได้ถูกสร้างขึ้นโนปี 1150 โดยเจ้าชาย Shotoku Taishi ซึ่งในส่วนเขตพุทะวาสผั่งทิศตะวันตกถือเป็นกลุ่มอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ค่าเข้าชม : 1,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 8:00 - 17:00 น.
(พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์: 8:00 - 16:30 น.)
วันปิดทำการ : เปิดทุกวัน
จบแล้วกับทริปท่องเที่ยวเมืองนารา ซึ่งเราคิดว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวอีกเมืองหนึ่งในคันไซ ถ้าใครได้มีโอกาสมาเที่ยวโอซาก้า หรือ เกียวโต แนะนำให้หาเวลาว่างสักวันลองมาชมเมืองที่มีวัดใหญ่ๆ มากมาย และมาถ่ายรูปหรือให้อาหารกับน้องกวางแสนน่ารักในเมืองนี้กันดูนะ