บุก “Donki” ยามดึก ห้างดังจากญี่ปุ่น 🇯🇵    

ดอง ดอง ดองกิ ไทยแลนด์ (Don Don Donki Thailand) หรือ ดองกี้โฮเต้ ドン・キホーテ（Don Quijote）ที่คนไทยรู้จักกันดี ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการทางการเป็นเรียบร้อยแล้วในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 กุมภาฯ ที่ผ่านมา โดยร้านจะอยู่ภายในตึกที่ชื่อ DONKI Mall Thonglor ที่ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ ซอย 10 หรือ เอกมัย ซอย 5 โดยจะมีสินค้าจากญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่เช่นเดียวกันกับสาขาที่ญี่ปุ่นเช่นกัน โดยจะมีทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์ ของฮิตๆ ติดเทรนด์หลากหลายอย่าง เช่น หน้ากากกันฝุ่น PM 2.5 ก็มีเหมือนกัน ไม่ต้องฝากหิ้ว ไม่ต้องถ่อหิ้วมาให้หนักกระเป๋าจากญี่ปุ่นกันแล้ว สาวกดองกี้เตรียมตัวให้พร้อมนะ ลองเข้ามาส่อง มาดูราคา มาดูกันว่าเหมือนหรือแตกต่างยังไงกับดองกิญี่ปุ่น  

  เวลาเปิด - ปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

ร้านดอง ดอง ดองกิ ไทยแลนด์

  Don Don Donki Thailand 107 ซอยทองหล่อ 10 สุขมวิท 63 กทม.

วิธีการเดินทาง

  โดย BTS สถานีเอกมัย หรือ สถานีทองหล่อ **มี Shuttle bus ฟรี รับส่งย่านทองหล่อ เอกมัย

🚙 สำหรับใครที่เดินทางโดยรถยนต์ที่นี่มีที่จอดรถด้วยเช่นกัน

• 07.00 - 22.00 น. จอดฟรี 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น ชั่วโมงละ 50 บาท
• 22.00 - 07.00 น. ไม่มีจอดฟรี และ คิดชั่วโมงละ 100 บาท

ขอบคุณข้อมูล Don Don Donki Thailand

ขนมมีให้เลือกซือเยอะอยู่พอควร  

สำหรับช่วงเปิดร้านแรกๆ ทางร้านก็มีสินค้าแบบลดราคามากมายให้เราช้อปได้ในราคาที่เหมือนซื้อจากญี่ปุ่นเลยทีเดียวนะ  

ขนมยอดฮิตสำหรับคนไทยที่นิยมซื้อเป็นของฝากอย่าง Kit Kat รสต่างๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย  

วิธีการเดินทาง โดย BTS สถานีเอกมัย หรือ สถานีทองหล่อ**มี Shuttle bus ฟรี รับส่งย่านทองหล่อ เอกมัย  

โดยร้านจะอยู่ภายในตึกที่ชื่อ Donki Mall ที่ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ ซอย 10 หรือ เอกมัย ซอย 5  

ในร้านจะมี 2 ชั้น โดยหลักๆ ชั้นล่างจะเป็น อาหาร ขนม เครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ ชั้นบนจะมีของหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องสำอาง น้ำหอม ไปจนถึงของเล่น ของใช้ประจำวัน  

สินค้าที่นี่ราคาก็อาจจะสูงกว่าที่ญี่ปุ่นนิดนึง เพราะต้องเสียภาษีนำเข้านั่นเอง แต่ถ้าคิดในแง่ที่ว่าสินค้าบางอย่างที่หนักหรือแตกง่าย และเราไม่ได้ซื้อเป็นจำนวนมากๆ ก็แนะนำซื้อที่นี่ไม่ต้องหิ้วมาจากญี่ปุ่นหรอกนะ  

บรรยายกาศภายในคล้ายที่ญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

สำหรับคอสายเนื้อ ทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัวเกรดต่างๆ ก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย  

ใครชอบปาร์ตี้ชาบูแนะนำโซนนี้เลย จัดให้วางเรียงสวยงาม  

ขนมมีให้เลือกซือเยอะอยู่พอควร ส่วนพวกขนมฮิตๆ ต้องไวนิดนึง เพราะของหมดไวมากเลย แสดงว่าราคาไม่ใช่ตัวตัดสิน แต่เป็นความหน้ามืดของพวกเรานั่นเอง หยอกๆ   

ขนมเห็ดและหน่อไม้เคลือบช้อกโกแลต จาก Meiji ก็มีนะ ถึงแพงกว่าญี่ปุ่นนิดหน่อย แต่เวลาขนไอ้พวกนี้กลับจากญี่ปุ่น มันชอบเละเป็นผงกันเลยทีเดียววว...วว !!  

เยลลี่ UHA เห็นบอกว่าแพงๆ กันแต่พอไปหมดเกลี้ยงงงง  

ขนมยอดฮิตสำหรับคนไทยที่นิยมซื้อเป็นของฝากอย่าง Kit Kat รสต่างๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย  

สำหรับสายแอลฯ เราถ่ายมาได้แค่เพราะห้ามขายหลังเที่ยงคืน เค้าเลยเอาฉากผ้ามากั้นปิดไว้ ขายไม่ได้นะ T^T

ในร้านจะมี 2 ชั้น โดยหลักๆ ชั้นล่างจะเป็น อาหาร ขนม เครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ ชั้นบนจะมีของหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องสำอาง น้ำหอม ไปจนถึงของเล่น ของใช้ประจำวัน  

โซนดูดทรัพย์ มีหลายโซนจริงๆ  

มาช้าก็อดกันไปตามระเบียบ ไว้จะมาสอยใหม่นะ T ^ T

เครื่องสำอางค์เซเลอร์มูน น่ารัก น่าโดนกันไม๊  

ชุดคอสเพลย์เอาไว้ใส่ไปงานปาร์ตี้ก็มีให้เลือกช้อปกันอย่างมากมาย อิอิ  

โซนสำหรับสาวๆ ก็มีของจากญี่ปุ่นนำเข้ามาให้เลือกซื้อมากมายเช่นกัน  

ที่นี่ยังมีเครื่องสำหรับแปลสินค้าที่เราอ่านไม่ออกอีกด้วยนะ โดยเราสามารถนำบาร์โค้ทบนตัวสินค้าไปสแกนได้เลย คือดีย์  

ผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นก็มีให้เลือกซื้อกันเยอะอยู่ ถูกหรือแพงลองเทียบกันดูนะ  

น้ำตบจาก Hada Labo สิ่งนี้คนก็ชอบฝากหิ้วกัน มันหนักรู้ไม ซื้อที่ไทยนี่แหละ  

ที่มาร์กหน้าต่างๆ จากญี่ปุ่น  

ลิปต่างๆ จาก DHC  

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดจากประเทศญี่ปุ่นก็มีมากมายให้ช้อปปิ้ง  

สำหรับช่วงเปิดร้านแรกๆ ทางร้านก็มีสินค้าแบบลดราคามากมายให้เราช้อปได้ในราคาที่เหมือนซื้อจากญี่ปุ่นเลยทีเดียวนะ  

โซนพวกของใช้ประจำวัน  

ซื้อไปกัน PM 2.5 สักอันไม๊ล่า !!  

จบไปแล้วกับการรีวิวดอง ดอง ดองกิ ไทย์แลนด์ สาขาแรก ซึ่งเราก็ถ่ายมาได้แค่บางส่วน เพราะไปดึก สินค้าที่ฮิตๆ กันก็โดนซื้อไปราวกับของฟรีกันเลยที่เดียว ยังไงก็แนะนำให้ลองมาช้อป มาส่อง มากินกันด้วยตัวเองนะ บายจ้า