• สายการบิน
  • ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ
  • เตรียมตัวก่อนเดินทาง
  • รีวิวท่องเที่ยว
  • สรุปตารางท่องเที่ยว
5 วัน 4 คืน

รีวิว Tokyo Trip 2019 หน้าหนาว ~ เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 5 วัน 4 คืน

วันที่เขียน 27/03/2019
ยอดเข้าชม

107

รีวิว Tokyo Trip 2019 หน้าหนาว ~ เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 5 วัน 4 คืน

วันที่เขียน

27/03/2019

ยอดเข้าชม

107

#Tokyo #Nikko

เรียบเรียงโดย PinTrip

ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว.. ของคนรุ่นใหม่

สายการบิน

Airlines

  • NokScoot
    NokScoot
    DMK
    02:45
    NRT
    10:25
  • NokScoot
    NokScoot
    NRT
    13:55
    DMK
    19:10

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

เดินทางต้นเดือนมกราคม 2019 หลังปีใหม่ อากาศหนาวมากกกก ประมาณ 2 องศา หน้าชากันไปเล้ย ถ้าหากว่าใครที่กลัวติด ตม. ก็เตรียมเอกสารไปให้พร้อมนะ 

เราก็เตรียมเอกสารทุกอย่างไปจะได้ไม่มีปัญหาอะไร เอาติดไปก็อุ่นใจดีนะ ^^ แต่พอถึงเวลาจริงเราก็ผ่านมาได้ ไม่โดนถามอะไรเลย พอส่ง passport ให้เจ้าหน้าที่เขาก็ส่งยิ้มให้ เราก็ส่งยิ้มกลับไป แล้วก็ผ่านด่านเข้ามาเลย


เอกสารที่ต้องเตรียม

  • ตั๋วเครื่องบิน
  • ใบจองโรงแรม
  • ถ้าใครที่ยังเรียนอยู่ก็ให้ไปขอใบรับรองการเป็นนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัยนะ
  • แพลนการเดินทาง ท่องเที่ยว


การเดินทาง

การเดินทางในโตเกียว เราเดินทางด้วยรถไฟทั้งทริปเลย โดยเราจะใช้บัตรแค่ 2 ใบเท่านั้นอยู่ได้ทั้ง 5 วันเลย คุ้มมากๆ แนะนำให้ใช้นะถ้าใครจะเน้นเที่ยวในโตเกียว

  • บัตร Tokyo metro & Toei subway ใช้ได้ 72 ชั่วโมง ใช้ได้กับเส้นทางที่อยู่ในแผนที่เท่านั้นนะ เป็นรถไฟเหมือนกับ MRT
  • บัตร Pasmo เป็นบัตรเติมเงินไว้ใช้กับรถไฟ JR หรือเหมือนกับ BTS บ้านเรานี้แหละ บัตรนี้ยังสามารถใช้กับตู้กดน้ำ,ร้านสะดวกซื้อได้ด้วยนะ


การเดินทางเข้าเมืองโตเกียว นั้นมีหลายทางให้เลือกตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนนะ

  1. JR Narita Express สายนี้เป็นของค่าย JR ถ้าใครมีบัตร JR pass ก็สามารถขึ้นได้ฟรีนะ วิ่งไปถึงปลายทางสถานี Tokyo, Shinagawa,Shibuya, Shinjuku,Ikeburo, JR yokohama
  2. รถไฟสาย Keisei
    • Skyliner รถด่วนพิเศษ วิ่งจากสนามบินนาริตะไปยังสถานี nippori ใช้เวลา 36 นาที และ สถานี Ueno ใช้เวลา 41 นาที ราคา 2470 เยน/เที่ยว ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
    • Access Express รถด่วนวิ่งสายเดียวกับ Skyliner แต่จะจอดสถานีระหว่างทางใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารขึ้นกับปลายทาง
    • Keisei main line รถไฟสายธรรมดา จอดหลายสถานีเหมาะกับคนที่ไม่รีบ ราคาถูก ใช้เวลาประมาณ 75 นาที รถไฟจะมาทุกๆ 20 นาที
  3. รถบัส ค่าโดยสารจะแตกต่างกันไปตามเส้นทาง ข้อดีคือไม่ต้องคอยยกกระเป๋าขึ้นลง ข้อเสียคืออาจเจอรถติด

สำหรับเราเลือกเดินทางด้วย Skyliner เพราะสะดวกดี แล้วก็ประหยัดเวลาด้วย จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ เราซื้อล่วงหน้าผ่านแอพ KLOOK ตอนนั้นจอง ช่วงสิ้นปีเลยได้ส่วนลดด้วย โดยเมื่อเราจองเสร็จจะได้เป็น Voucher เพื่อไปแลกที่สนามบินนาริตะอีกทีหนึ่งนะ


วิธีแลกตั๋ว


ที่พัก

ตอนนั้นเราพักแยกเป็น 2 ที่นะ เพราะลองคิดดูแล้วมันถูกกว่า 

1. คืนที่ 1, 2, 3 พักที่ APA Hotel Asakusa Kuramae

2. คืนที่ 4 พักที่  APA Hotel TKP Nippori Ekimae

รีวิวท่องเที่ยว

DAY 1

แท่นแท๊นนนน ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง เดินทางถึงสนามบินนาริตะประมาณ 10 โมงครึ่ง พอออกมาจากเครื่องเราและเพื่อนรีบมุ่งตรงไปที่ด่าน ตม.ทันที เพราะไม่อยากเสียเวลานาน

ใช้เวลาแค่ 10 นาที พอผ่านด่านศุลกากรมาแล้วเราก็ไปเอากระเป๋า แล้วลงไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อนั่งรถไฟเข้าเมือง ถ้าเครื่องลงที่ Terminal 2 เมื่อออกมาจากด่านศุลกากรให้เลี้ยวขวาจะเห็น

บันไดเลื่อนลงไปชั้นใต้ดิน จากนั้นเราก็นั่งรถไฟ Skyliner ไปลงที่ Ueno เพื่อไปโรงแรม พวกเราจะเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยกลับมาเช็คอิน เพราะโรงแรมจะให้เช็คอินตอน 15.00 น. จากนั้นเราก็จะไปเที่ยวกันเลย


วัดอาซากุสะ (Asakusa)

ข้าวหน้าปลาไหล ร้าน Unatoto ราคา 800 เยน พิกัด ตลาด Ameyoko

แวะดองกี้ สาขา Asakusa เปิด 24 ชม อยู่แถวที่พัก

สตรอเบอรี่ที่นี่ราคาถูกนะ ลูกใหญ่ หวาน อร่อยมาก

ปิดท้ายวันแรกด้วยมันเผาญี่ปุ่น


DAY 2

วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะเราจะไป Tokyo Dianey Sea กัน

วิธีไปก็คือต้องไปลงที่สถานี Maihama จากนั้นออกทางออก South Exit แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อไปที่ Disney Resort line จะต้องนั่งรถไฟของ Disney เพื่อไป Disney sea เที่ยวละ 260 เยน แต่ถ้าใครจะไป Disney land เมื่อออกทางออก South Exit ให้เลี้ยวขวา แล้วสามารถเดินไปได้เลย


Toy story mania


โรงแรมสยองขวัญ


มาดูของกินภายใน Tokyo Disney Sea กันบ้างดีกว่า 

เริ่มที่ไก่รมควัน กินตอนร้อนๆ อร่อยมาก

Sea salt ice cream monaka

Caramel milk tea หอม หวาน ละมุน มากกกก กินตอนร้อนๆ บวกกับอากาศที่หนาวประมาณ 2 องศา ~ฟินสุดๆ~

อร่อยจนต้องซื้อกลับบ้านเลยนะ ที่ร้านขายของที่ระลึกมีขายนะ

จริงๆ มีโมจิ กับ ชูโรส อีกนะ แต่กินเพลินลืมถ่ายรูปมา   

ยังเล่นไม่ครบเลย ฟ้ามืดซะแล้ว เราว่าเครื่องเล่นดีนะ ดีทุกอย่างเลย ถึงแม้ว่าจะต่อคิวรอเป็นชั่วโมง แต่ได้เล่น 5 นาทีก็ตาม แต่สนุกมากจริงๆนะ

ที่ประทับใจที่สุดคือสตาฟทุกคนยิ้มต้อนรับกันดีมากๆ ยิ้มกันทุกคน ตลอดเวลาเลย จริงๆ ตอนเย็นจะมีการแสดงในน้ำนะ แต่เรามาดูไม่ทัน มัวแต่ช้อปของฝากอยู่


DAY 3

หลังจากที่เมื่อวานเราได้ไปที่ Tokyo Disney sea เดินขาลากกันเลยทีเดียว วันนี้จะเป็นวันที่เราตกลงกับเพื่อนว่าจะเน้นช้อป เน้นกิน อย่างเดียวเลยนะ


มื้อเช้า

เริ่มที่มื้อเช้า อยู่ญี่ปุ่นตั้ง 3 วันแล้วยังไม่ได้กินซูชิเลย รออะไรล่ะไปกินซูชิกันเลยจ้าาาาา ร้านนี้แนะนำให้มาลองเลยนะ ซูชิหน้าล้น อยู่ที่ตลาด Ameyoko ร้านเปิด 10 โมงนะ ด้วยความที่เราไปเช้าเกินร้านยังไม่เปิด เลยได้ยืนต่อคิวรอคิวแรกเรยจ้า ราคาจะแตกต่างกันไปตามสีจาน แต่ทุกจานคำใหญ่มากจริงๆ อร่อย สด มากๆ

ต่อด้วยหอยนางลมที่ตัวใหญ่และสดมาก จริงไม่เคยกินเลยแต่มันตัวใหญ่มากจนอยากลอง  6 ตัว ราคา 1000 เยน ถ้ากินแบบสดๆนะพอได้กินเข้าไปแล้วภาพทะเลลอยมาเหมือนกินน้ำทะเลเข้าไปเลยล่ะ

หลังจากเติมพลังกันเสร็จแล้ว สถานีต่อไปคือ ศาลเจ้าเมจิ ที่ประตูทางเข้าศาลเจ้ามีเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่ ระหว่างทางเดินเข้าไปยังศาลเจ้าจะเต็มไปด้วยต้นไม้ ระยะทางไกลนิดหน่อย บรรยากาศร่มรื่น และเย็นมาก มือแข็งเลย

ข้างในจะมีจุดจำหน่ายเครื่องราง สิ่งที่นิยมก็คือการเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้ขอพร แล้วนำไปแขวนไว้รอบต้นไม้ที่จัดไว้ให้

จากนั้นเดินออกมาทางเดิมที่เป็นสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอกับถนนช้อปปิ้ง Takeshita หรือที่รู้จักกันก็คือ  Harajuku ส่วนมากจะมีของขายน่ารักๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ แต่เราเน้นกินอย่างเดียวเลย

รสชาติหอมนม กรอบนอกนุ่มใน เนื้อครีมนุ่มละมุน

จากนั้นต่อด้วย Shibuya เมื่อมาถึงก็พลาดไม่ได้ที่จะแชะภาพกับรูปปั้นสุนัขฮะจิโกะ

จากภารกิจพาเพื่อนหาซื้อรองเท้า นั่งรอเพื่อนเลือกจนฟ้ามืดเลย เดินหากันขาลากเลยจริงๆ

หลังจากที่ช้อปกันเพลิน ช้อปกันจนล้มละลาย สิ่งที่ตั้งใจว่าจะต้องมากินให้ได้ก็คือ ราเมงข้อสอบ เรามาที่สาขาชินจูกุ รอคิวไม่นานเลย


DAY 4

สำหรับวันนี้เราจะไปเมือง Nikko กัน อยู่บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แอบกลัวหลงเหมือนกันเพราะออกกันไปไกลเลย

วิธีเดินทาง

เราจองบัตรรถไฟล่วงหน้ากันมาก่อนแล้ว นำ Voucher  ที่จองมาแลกที่  ตึก Mutsuya  ชั้น 1 ตรง Tobu Information center สถานี Asakusa มีเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยนะ ตอนแลกตั๋วก็จะได้จองเวลาและที่นั่งเลย 

บัตรนี้เป็นบัตร All nikko pass ราคา 4,520 เยน บัตรนี้ครอบคลุมเที่ยวได้ทั้งโซนธรรมชาติ และโซนมรดกโลก Nikko ตั๋วมีอายุ 4 วัน นั่งรถไฟ ไป-กลับระหว่างสถานี Tobu Asakusaกับสถานี Shimo-Imachi ได้ 1 เที่ยว แล้วขึ้นต่อได้ช่วงระหว่างสถานี Shimo-lmachi กับสถานี Tobu nikko 

ถ้าใครกลัวหลงไม่อยากต่อรถไฟก็อัพเกรดเป็นรถไฟขบวน Spacia เพิ่มเงินอีก 1080 เยน ต่อเดียวถึงสถานี Tobu Nikko เลย เดี๋ยวจะแนบไฟล์ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ให้นะ

https://drive.google.com/file/d/1MLWNmWoAG7f_F6HKAmYX9g3-GR_3oP9N/view?usp=drivesdk

เราอัพเกรดเป็นขบวน Specia ทั้งขาไปและกลับ ใช้เวลาเดินทาง 1  ชั่วโมง 50 นาที  นั่งยาวเลย สามารถซื้อข้าวกล่องมากินบนรถไฟได้นะ หรือถ้าใครซื้อไม่ทันบนรถไฟก็มีเคาน์เตอร์จำหน่ายอาหารนะ บนรถไฟเป็นที่นั่งแบบมีโต๊ะสำหรับทานอาหารให้และมีห้องน้ำด้วย

นั่งมาเรื่อยๆก็เริ่มเข้าสู่โซนธรรมชาติมากขึ้น เริ่มมองเห็นภูเขา และเริ่มรับรู้ถึงความเย็นผ่านเข้ามาภายในรถไฟเลยล่ะ


สถานี Tobu nikko

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสถานี Tobu nikko เดินออกมาจากรถไฟนี่หนาวสั่นกันเลย อากาศ -2 องศา เดินออกมาหน้าสถานีแล้วก็ขึ้นรถบัสที่ป้าย A2 ไปลงที่ป้าย 24 เพื่อไปขึ้นกระเช้ากัน โชว์บัตร All nikko pass ขึ้นฟรีได้ทั้งรถบัสและกระเช้าเลยนะ

ใช้เวลา 50 นาทีก็มาถึงแล้วป้าย 24 ขวามือเป็นร้านขายดังโงะ อาหารปิ้งย่าง เราแวะเข้าไปนั่งหลบลมหนาวกัน เจ้าของร้านใจดีมากแถมไก่ย่างให้ 1 ไม้ เขาบอกว่าเคยไปเมืองไทยแล้วคนไทยใจดี ก็เลยชอบคนไทย ^^

นี่แหละทางที่รถบัสขึ้นมา โค้งเยอะมากจ้า แทบอ้วก

หลังจากนั้นเราก็ลงมารอรถบัสข้างล่างเพื่อจะไปน้ำตก Kegon กับทะเลสาบ Chuzenji ให้ลงป้ายที่ 26 จากนั้นถ้าไปทางซ้ายจะไปทะเลสาบ ถ้าไปทาางขวาจะไปน้ำตก


ทะเลสาบ Chuzenji


น้ำตก Kegon


จะหนาวแค่ไหนก็อยากกินไอติม

ก่อนกลับแวะกินราเมงกัน คุณลุงเจ้าของร้านใจดี น่ารัก แต่รอนานหน่อยนะเพราะคุณลุงทำคนเดียว แต่ให้เยอะนะน้ำซุปราเมงอร่อยนัวมาก

ขากลับก็นั่งจากป้าย 26 ไปป้าย 2A ขากลับจะมึนหัวมากกว่าขามานะ เพราะโค้งเยอะ เมื่อกลับมาถึงที่พัก พรุ่งนี้เช้าเราก็ต้องกลับกันแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปกินเนื้อย่างกันก่อนกลับ


Bouya สาขา Nippori

อร่อยมากที่สุดเท่าที่เคยกินมา ละลายในปากเลยจริงๆ กระเป๋าตังเบากันเลย ><


DAY 5

ก่อนกลับเรารีบแวะไปซื้อสตรอเบอรี่ที่ตลาด Ameyoko เกือบตกรถไฟ วิ่งหอบกันเลย วิ่งหน้าตั้งกันจริงๆ แต่สุดท้ายก็มาทันรถไฟพอดีเลย   

ทริปนี้เป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก สนุกมากๆ อยากจะกลับไปอีกถ้ามีโอกาส

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ นี่เป็นการรีวิวครั้งแรก เราอยากจะมาแชร์ให้กับคนที่สนใจหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้าาาา

Credit: https://pantip.com/topic/38693464

สรุปตารางท่องเที่ยว

ดาวน์โหลดตารางทั้งหมด