หนึ่งวันใน Otaru     

โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าเรือเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซัปโปโร (Sapporo) เมืองนี้ได้รับการอนุรักษ์พื้นที่ตรงบริเวณคลองเอาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟด้วยเวลาเพียง 40 กว่านาทีเท่านั้น สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับได้โดยไม่ต้องนอนค้างอีกด้วย  

ช่วงต้นของยุคล่าอาณานิคมฮอกไกโด (ปลาย ค.ศ. 1800) โอตารุทำหน้าที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้า และ ท่าประมงที่สำคัญ สามารถเดินทางจากซัปโปโรได้อย่างสะดวกโดยทางรถไฟ อาคารในเมืองต่างยังคงรักษาไว้ให้เป็นเหมือนโกดังเก่าเหมือนในอดีต แต่ด้านในจะเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ต่างๆ มากมาย  

📍สามารถจองตั๋ว JR Hokkaido Rail Pass แบบ 3, 5 และ 7 วัน ได้กับทาง Klook

🎟️ JR Hokkaido Rail Pass แบบ 3 วัน

➡️ https://goo.gl/qqnHct

🎟️ JR Hokkaido Rail Pass แบบ 5 วัน

➡️ https://goo.gl/D6tFei

🎟️ JR Hokkaido Rail Pass แบบ 7 วัน

➡️ https://goo.gl/s54qAN

และติดต่อสอบทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Klook นะ

🎟️ ทัวร์ท่าเรืออ่าวโอตารุ (Otaru Bay) **หน้าร้อน

➡️ https://bit.ly/2meShmy

วิธีเดินทาง

  จากสถานี Sapporo ใช้รถไฟ JR สาย Hakodate Line ไปลงที่สถานี Otaru  ราคา 640 เยน

** แนะนำให้ซื้อบัตร Otaru Welcome Pass ที่ซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่น บัตรนี้ ราคาอยู่ที่ 1,700 เยน สามารถใช้เดินทางไปกลับจากซัปโปโร และโอตารุได้หนึ่งรอบ แถมบัตรรถไฟใต้ดิน One Day Pass Sapporo ให้อีก 1 ใบ (สามารถเก็บไปใช้วันไหนก็ได้) สามารถซื้อได้ที่ห้องขายตั๋วสถานี JR Sapporo  

ถึงแล้วเมืองโอตารุ (Otaru) ใช้เวลาเพียง 40 กว่านาทีเท่านั้น  

มาที่ตลาด Sankaku เพื่อจะหาอะไรกินกันก่อน เพราะวันนี้ต้องเดินเกือบทั้งวันแน่ๆ  

มีสัตว์ทะเลสดๆ มากมาย ราคาก็ไม่แพงมาก  

เข้ามาร้าน Takeda เป็นร้านแบบข้าวหน้าปลาดิบและทะเลดิบๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลายหลาย และ ให้ในปริมาณเยอะดีในราคาที่ไม่แพงมากนัก อาหารมาแล้ว ข้าวหน้ารวมทุกอย่าง กับ ข้าวหน้าปู อร่อยดีของเค้าสดจริงอะไรจริง  

เข้ามาร้าน Takeda เป็นร้านแบบข้าวหน้าปลาดิบและทะเลดิบๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลายหลาย และ ให้ในปริมาณเยอะดีในราคาที่ไม่แพงมากนัก อาหารมาแล้ว ข้าวหน้ารวมทุกอย่าง กับ ข้าวหน้าปู อร่อยดีของเค้าสดจริงอะไรจริง  

สั่ง Otaru Beer มาชิมก่อนเลย 555  

เดินกลับมาที่หน้าสถานีรถไฟ Otaru แล้วเดินไปที่ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area)  

เดินหนาวกันมาเรื่อยๆ ใช่เวลาค่อยข้างนานอยู่นะประมาณ 20 นาที ก็จะเห็นเหมือนเป็นโกดังใหญ่ๆ แบบในรูปก็คือถึงแล้วนั่นเอง  

คลองโอตารุ (Otaru Canal)

คลองโอตารุ (Otaru Canal) ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ โกดังริมคลองก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร จะมีนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมมาเดินเล่นริมคลองช่วงกลางคืนโคมไฟก๊าซโบราณก็ทำให้บรรยากาศริมคลองโรแมนติกขึ้น และยังเป็นที่จัดเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) ในฤดูหนาวอีกด้วย  

เดินมาต่อเรื่อยๆ ก็จะเจอกับแยก Marchen Square ที่มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่มากมาย  

หนาวๆ แบบนี้ ก็ต้องซื้อไอศครีมชาเขียวมากินสิ อิอิ  

ร้าน LeTao

แวะมาร้าน LeTao เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองโอตารุ (Otaru) อยู่ตรงแยก Marchen Square เป็นสาขาหลัก (Head Store) ของร้าน LeTAO เลย ซึ่งจะมีเมนูขนมหวานและเค้กขายในแต่ละวันมากกว่า 50 ชนิด  

เข้ามามีแต่ขนมน่ากินไปหมด  

หมดสภาพ  

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum)

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) ซึ่งอยู่ตรงแยก Marchen Square สาเกตุง่ายๆ จะมี นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Stream Clock) สไตล์อังกฤษตั้งอยู่ด้านหน้า  

นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Stream Clock)  สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา  

เข้ามาภายในบริเวณชั้น 1 จะเป็นโซนจำหน่ายของที่ระลึกและกล่องดนตรีสำเร็จรูปที่มีลวดลายต่างๆ ส่วนชั้น 2 จะเป็นส่วนของการแสดงประวัติความเป็นมาของกล่องดนตรีแต่ละยุคสมัยให้ชม รวมทั้งมีกล่องดนตรีที่มีความหรูหรามากมายให้ชม และชั้น 3 จะเป็นชั้นที่ใครอยากได้กล่องดนตรีสไตล์ของตนเองหนึ่งเดียวในโลก ก็สามารถมาประดิษฐ์กล่องดนตรีได้ด้วยตัวเองที่ชั้นนี้   

สำหรับใครที่ช็อปปิ้งร้านนี้ตั้งแต่ 10,000 เยนขึ้นไป ที่นี่สามารถทำ Tax Refund ได้ทันที สะดวกมากๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาทำที่สนามบิน และอยากจะขอเตือนสำหรับใครที่จะมาเดินเลือกซื้อกล่องดนตรีที่นี่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินสักนิด เพราะกล่องดนตรีส่วนใหญ่จะทำมาจากแก้วและเซรามิก  

แวะหาอะไรกินก่อนกลับ Sapporo มาที่ร้าน Otaru Soko No.1 ซึ่งก็อยู่ในตึกที่เป็นโกดังเก่าข้าง ๆ ครองโอตารุนั่นเอง ภายในจะทำคล้ายๆ เป็นโรงเบียร์ของโอตารุ (Otaru Beer) ที่ให้ได้ดื่มเบียร์ แท้ๆ ตามแบบฉบับเบียร์เยอรมัน  

มีคราฟเบียร์หลาหลายสไตล์ให้เลือกดื่มกัน  

ออกมาเก็บภาพกับคลองโอตารุอีกสักหน่อย น่าเสียดายที่วันที่ไปหมดงานเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุไปซะแล้ว T_T 

ถึงเวลากลับเข้าเมืองกันแล้ว