1 วัน 1 คืน

ไป คิโนซากิออนเซ็น Kinosaki Onsen กับ นายบ้าเที่ยว

วันที่เขียน 21/11/2018
ยอดเข้าชม

188

ไป คิโนซากิออนเซ็น Kinosaki Onsen กับ นายบ้าเที่ยว

วันที่เขียน

21/11/2018

ยอดเข้าชม

188

#Hyogo #ท่องเที่ยว #Kinosaki Onsen

ไป คิโนซากิออนเซ็น KinosakiOnsen กับ นายบ้าเที่ยว    

คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) อีกหนึ่งเมืองออนเซ็นชื่อดังในแถบคันไซ (Kansai) ของประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เมืองบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ มาครบทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เก่าแก่ ซึ่งว่ากันว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,300 ปี และบริเวณเมืองก็มีบรรยากาศแสนสบาย โดยตัวบ้านเรือนจะเป็นไม้หลังเก่าที่ตั้งอยู่ตามทางเลียบคลองน้ำใสเส้นเล็กๆ ที่มีต้นไม้เรียงรายมากมายตามสองข้างของคลอง ซึ่งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเช่าชุดยูกาตะมาใส่ เพื่อเดินเล่นกันในช่วงยามเย็นได้จนกลายเป็นอีกหนึ่งสีสันของเมืองคิโนซากิ ออนเซ็นแห่งนี้  

เมืองคิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) แห่งนี้ ต้องมาลองแช่บ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่เป็นบ่อดั้งเดิมของเมือง ทั้ง 7 บ่อ ขอแนะนำให้ใช้ตั๋วตระเวนแช่บ่อออนเซ็นกลางแจ้ง 7 แห่ง ที่เรียกว่า “Yumepa (ยูเมพะ)” ตั๋วบุฟเฟ่ต์ตระเวนแช่ออนเซ็นตลอด 1 วัน (ผู้ใหญ่ 1,200 เยน และเด็ก 600 เยน) มีจำหน่ายตรงเคาน์เตอร์รับรองของออนเซ็นแต่ละแห่ง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วตระเวนแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง 7 แห่ง  

สามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่ : http://www.kinosaki-spa.gr.jp/.../hotspring/hotspring.html


วิธีเดินทาง

โอซาก้า (Osaka) ไป คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)  

  • เดินทางโดย JR สถานี Osaka นั่งรถไฟด่วน Limited Express (LTD.EXP) สาย Hamakaze และ Kounotori ลงที่สถานี  Kinosaki Onsen Onsen ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
  • เดินทางโดย JR สถานี Shin-Osaka นั่งรถไฟด่วน Limited Express (LTD.EXP) Kounotori ลงที่สถานี  Kinosaki Onsen ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที


คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) 

เราใช้บัตร JR Kansai WIDE Area Pass โดยไปขึ้นที่สถานี Osaka นั่งรถไฟด่วน Limited Express (LTD.EXP) สาย Hamakaze และ Kounotori ลงที่สถานี Kinosaki Onsen โดยเราต้องไปนั่งที่ตู้รถไฟที่เป็นแบบ Non-Reserved เท่านั้นนะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 50 ตีไปเกือบ 3 ชั่วโมงได้เลย  

หน้าตาของรถไฟด่วน Limited Express (LTD.EXP) นะ  

เราออกนอกเมืองตอนเช้าๆ ในวันธรรมดารถไฟคนจะน้อย เพราะส่วนใหญ่คนเค้าจะเข้าเมืองกันมาทำงานมากกว่า เราเลยสามารถเลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัยได้เลยนะ  

แล้วอย่าลืมซื้อข้างกล่องแบบเบนโตะ และน้ำชา กาแฟ มากินระหว่างทางกันด้วย เพราะเราใช้เวลาในการเดินทางไปถึงเมือง คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) เกือบ 3 ชั่วโมงกันเลย  

ในที่สุดก็มาถึงเมือง คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) กันสักที  

หน้าสถานีทำมีบ่อน้ำร้อนให้นั่งพักแช่เท้ากันด้วย สมกับเป็นเมืองแห่งบ่อออนเซ็นจริงๆ  

เราจะเจอเจ้าตัวมาสคอท คุณลุงหนวดที่หัวเป็นหิน ซึ่งเป็นมาสคอทของ Genbudo เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งวึ่งห่างออกไปจากเมืองคิโนซากิ 1 สถานี  

ใกล้ๆ กับสถานีจะมีเหมือนเป็นที่ให้เราสามารถไปพักนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนได้  

เราก็สามารถนั่งรถบัสของเมืองไปลงตามป้ายต่างๆ ได้เลย แต่เราเลือกที่จะเดินเล่นชิลล์ๆ กันดีกว่า  

ภายในเมืองดูสงบเงียบเหมาะแก่การเดินเล่นจริงๆ แต่มันดูเงียบไปหรือเปล่าเนี่ย 555  

ร้านนี้มีขนม และของฝากประจำเมืองขายอยู่มากมาย ใครที่สนใจซื้อไปฝากหรือซื้อไปทานเองก็ลองเลือกดูได้ครับ เน้นอาหารทะเลเป็นหลัก  

ลองไอศกรีมนมถั่วเหลือง อร่อยมากก...กก ราคา 500 เยน  

อันนี้เป็นเหมือนแป้งโมจิย่างและทาน้ำจิ้มเค็มๆ หวานๆ ก็อร่อยพอได้ใช้ได้อยู่นะ ราคาไม้ละ 200 เยน  

เดินชมบ้านเรือนแบบโบราณที่เป็นไม้หลังเก่าๆ ที่ตั้งอยู่ตามทางเลียบคลองน้ำใสเส้นเล็กๆ ที่มีต้นหลิวเรียงรายมากมายตามถนน แค่นี้ก็ฟินสุดๆ แล้ว  

เดินชมบ้านเมือง และวิถีชีวิตของเค้ากันดู เดินสูดอากาศสดชื่นมากๆ ภายในเมืองกันให้เต็มปอด สะพานข้ามคลองแบบนี้มีหลายจุดตลอดเส้นทางเลียบคลอง เดินระวังรถสัญจรไปมากันด้วยครับ ทางเดินแคบพอสมควร  

สะพานข้ามคลองอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้  

อีกหนึ่งความใส่ใจของคนญี่ปุ่น ร้านมินิมาร์ทที่ตกแต่งให้ดูกลมเกลือนกับเมือง ทำให้ดูเข้ากับบ้านเรือนที่เป็นไม้เก่าได้อย่างลงตัว สุดยอด....ดดด  

ภายในเมืองนี้จะมีบ่อน้ำร้อนทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน Ichinoyu ก็เป็น 1 ใน 7 บ่อน้ำร้อนในเมืองนี้เช่นกัน ซึ่งแต่ละบ่อก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งเราไม่ได้ลองแช่นะ แอบเสียดายเหมือนกัน เพราะถ้ามาแช่ควรจะต้องค้างสักคืนดีกว่า แล้วเดินใส่ชุดยูกาตะมาเดินลองแช่น้ำในแต่บ่อออนเซ็น  

น้ำ Soda Pop เครื่องดื่มดับกระหายสุดฮิตในหน้าร้อนของประเทศนี้ รสชาติก็เค็มๆ หวานๆ ซ่าส์ๆ ดื่มแล้วสดชื่นดี

อากาศที่ร้อนแบบนี้ก็ต้องลอง Kinosaki Beer เบียร์ท้องถิ่นของเมืองนี้กันซะหน่อย ใครชอบดื่มเบียร์อย่าลืมไปลองกันนะ หอมๆ ไม่เข้มมาก ดื่มง่ายๆ (สำหรับเราอะนะ 555)  

ฝาท่อของเมืองนี้ก็จะเป็นรูปสะพานหินกับดอกซากุระ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนั่นเอง  

ก่อนถึงบ่อ Gosyono-yu ก็จะเจอกับศาลเจ้าเล็กๆ ตรงนี้ก่อนนะ  

บ่อกลางแจ้ง Gosyono-yu ที่นี่จะดูเป็นสไตล์โบราณพอสมควร ด้านนอกอาคารเป็นไม้สีเข้มสวยสง่าดูคล้ายศาลเจ้าเหมือนกันนะ  

บริเวณนี้จะเป็นจุดนั่งพัก และมีบ่อน้ำร้อนเล็กๆ สำหรับซื้อไข่มาลวกเป็นไข่ต้มทานกันอีกด้วย  

วัดออนเซ็นจิ (Onsenji Temple) ตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันตกของเมืองคิโนซาคิ (Kinosaki) ถือเป็นวัดที่มีความโดดเด่นและดังมากๆ ของเมืองแห่งนี้เลยนะ ซึ่งเราไม่ได้ขึ้นไปนะอยู่แต่ด้านล่างพอแล้วละ แหะๆ เพราะเวลาไม่พอและฝนก็ตกอีกต่างหาก  

เดินกลับมาจากวัด ถ่ายรูปชิลล์ๆ กับบรรยากาศในเมืองไปเรื่อยๆ ถึงบ่ายแก่ๆ ท้องเราก็เริ่มหิว เลยหาร้านอาหารทานมือเที่ยงกันดีกว่า ซึ่งเราก็เล็งร้านนี้เอาไว้ตั้งแต่เช้าแล้วนั่นเอง ร้านนี้สังเกตง่ายๆ เลย เพราะจะมีปูตัวใหญ่เกาะอยู่ตรงป้ายหน้าร้านเลย เราก็จำชื่อเมนู กับราคาเมนู ด้านในจะเป็นตู้กดเหมือนร้านราเมง พอกดเมนูที่เราต้องการแล้วก็นำใบยื่นให้พนักงานร้านที่เคาท์เตอร์ รอเค้าเรียกก็ไปยกเมนูเรามาที่โต๊ะได้เลย  

สั่งเป็นข้าวหน้าปูกับไข่ปลาแซลม่อน มีหอยแบบซาชิมิ กับของทะเลทอด อร่อยเลยไม่ต้องถาม  

สรุปการมาเมืองคิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ในครั้งนี้ รู้สึกชอบบบรรยากาศของเมืองนี้เป็นอย่างมาก สามารถเดินเล่นชิลล์ๆ ถ่ายรูป สูดอากาศได้สบายๆ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้แช่บ่อออนเซ็นสักแห่งเลย โดยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้ามีโอกาสมาที่นี่ใหม่อีกครั้งจะขอค้างสักหนึ่งคืน พร้อมกับใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นในเมืองชิลล์ๆ พร้อมลองแช่บ่อออนเซ็นทุกบ่อด้วยนะ