🍂 N I K K O 🍂
🍁 นิ ก โ ก . . . นี่ โ ก้ จ ริ ง ๆ 🍁
นิกโก (Nikko) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทจิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ โดยมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เช่น ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu) และวัดรินโนจิ (Rinnoji)
เราได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองนิกโก้ (Nikko) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งมรดกโลกนั่นเอง ซึ่งเรามาเที่ยวช่วงนี้อากาศเย็นๆ กำลังดี แต่ก็โชคไม่ดีนักเพราะนิกโกช่วงที่เรามานั้น ใบไม้ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนสี และร่วงหล่นเหลือแต่กิ่งไม้แห้งๆ ไปหมดแล้ว
📍 กระเช้าไฟฟ้าสีแดงอะเคะจิไดระ (Akechidaira Ropeway)
ที่จะพาเราขึ้นไปยัง จุดชมวิวบนภูเขา ซึ่งจากจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นทั้งทะเลสาบ ชูเซ็นจิ (Lake Chuzenjiko) และ น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) โดยลงที่ป้าย Akechidaira
💰 ค่าขึ้น ไป - กลับ : ผู้ใหญ่ 730 เยน / เด็ก 370 เยน (📌 ใช้บัตร NIKKO PASS all area ขึ้นฟรีไปเลย)
⏰ เวลาเปิด - ปิด : 9:00 - 16:00 น. ( ปิด 16:30 แตกต่างกันตามฤดูกาล)
เพราะในอดีตนิกโก้เคยเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโต ทำให้มีศาลเจ้าและวัดที่สวยงามหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามที่อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ (#Okuniko) ที่มีทั้งภูเขาและทะเลสาบ โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะมีใบไม้เปลี่ยนสีมากมายตามหุบเขากลายเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ อีกด้วย
ปลายปีนี้ น า ย บ้ า เ ที่ ย ว ได้มีโอกาสเดินทางไปเมือง #นิกโก้ (Nikko) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งมรดกโลกนั่นเอง ซึ่งเรามาเที่ยวช่วงนี้อากาศเย็นๆ กำลังดี
แต่ก็โชคไม่ดีนักเพราะนิกโกช่วงที่เรามานั้น ใบไม้ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนสี และร่วงหล่นเหลือแต่กิ่งไม้แห้งๆ ไปหมดแล้ว ซึ่งเราก็เลยไปเดินเล่น ถ่ายรูป หาจุดเช็คอินเท่ๆ เก๋ๆ ที่ใครมายังเมืองนิกโกนี้ก็ต้องไปถ่ายรูปเพื่อเช็คอินลงโซเชียลอวดเพื่อนๆ กัน ซึ่งมีทั้งสถานที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวไปกันเป็นจำนวนมากนั่นเอง จะเป็นสถานที่อะไรกันบ้างนั่น ไปดูกันเล๊ย
🚈 การเดินทาง (เราใช้บัตรนิกโก้พาส NIKKO PASS all area)
ขึ้นรถไฟของ Tobu สาย Tobu Nikko Line ที่สถานี Asakusa แล้วไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Minami-Kurihashi สาย #Tobu Nikko Line Exp. สถานี Tobu-Nikko ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ (นั่งแบบหวานเย็นมาก 555)
📌 สามารถจองบัตรนิกโก้พาส NIKKO PASS all area (รับที่อาซากุสะ) ที่ Klook ➡️ https://bit.ly/2WrfMGW
🎫 จุดเด่นของบัตรนิกโก้พาส (NIKKO PASS all area)
- ระยะเวลาที่ใช้ได้ 4 วัน
- สามารถใช้โดยสารรถไฟในช่วงสถานีอาซากุสะ - สถานีชิโมะอิมะอิจิไป-กลับ 1 รอบ
- ใช้บริการรถไฟและรถบัสภายในเมืองนิกโก้ได้ไม่จำกัดรอบ
ออกจากสถานี Tobu-Nikko จะเจอกับป้ายรถบัสด้านหน้า ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่บริเวณทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenjiko) ให้เลือกขึ้นรถบัสป้าย 2A ที่มุ่งหน้าไปยังชูเซ็นจิ ออนเซ็น (Chuzenji Onsen) หรือ 2C ที่มุ่งหน้าไปยังยูโมโตะออนเซน (Yumoto Onsen)
(📌 ใช้บัตร NIKKO PASS all area ขึ้นฟรีไปเลย โดนโชว์ให้คนขับทั้งตอนขึ้นและลงด้วยนะ เก็บกันดีๆ อย่าให้หายย...ยยย !!)
พอขึ้นรถบัสมาก็หาที่นั่งกันได้เลย โดยถ้าเราต้องการลงป้ายไหน ให้กดกริ่งตรงเสาสีส้มก่อนลงกันด้วยนะ
โดยที่แรกเราไปขึ้น
📍 กระเช้าไฟฟ้าสีแดงอะเคะจิไดระ (Akechidaira Ropeway) ที่จะพาเราขึ้นไปยัง จุดชมวิวบนภูเขา ซึ่งจากจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นทั้งทะเลสาบ ชูเซ็นจิ (Lake Chuzenjiko) และ น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) โดยลงที่ป้าย Akechidaira
💰 ค่าขึ้น ไป - กลับ : ผู้ใหญ่ 730 เยน / เด็ก 370 เยน
(📌 ใช้บัตร NIKKO PASS all area ขึ้นฟรีไปเลย)
⏰ เวลาเปิด - ปิด : 9:00 - 16:00 น. ( ปิด 16:30 แตกต่างกันตามฤดูกาล)
📍 น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) ตั้งอยู่ภายในเมืองนิกโก (Nikko) จังหวัดโทจิงิ (Tochigi) เป็นน้ำตกที่สวยจนได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นเลย ตอนที่เราไปวิวทิวทัศน์โดยรวมจะดูแห้งๆ เพราะใบไม้ได้ร่วงไปเกือบจะหมดแล้วนั่นเอง แต่ก็ดูสวยดีไปอีกแบบนะ (ปลอบใจตัวเองแหละ 55)
ลงจากกระเช้า เราก็นั่งมาลงที่ป้าย Chuzenjiko Onsen เผื่อมาชม น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) กันแบบใกล้ๆ กันดูบ้าง
💰 ค่าเข้าชม : 570 เยน
(❌ ไม่สามารถใช้บัตร NIKKO PASS all area ได้นะ)
⏰ เวลาเปิด - ปิด :
8.00 - 17.00 น. (มีนาคม - พฤศจิกายน)
9.00 - 16.30 น. (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
📍 น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall)
เป็นน้ำตกที่สวยติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยนะโดยเราจะตกลงลิฟต์ลงไปเผื่อชมน้ำตกแห่งนี้ เพราะเป็นน้ำตกที่มีความสูงเกือบๆ 100 เมตรและยังเป็นอีกหนึ่งจุดสุดปังสำหรับการชมใบไม้แดงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงกลางๆ ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมของทุกปี แถมช่วงฤดูหนาวนี่ก็จะสวยแปลกตา เพราะน้ำที่ไหลจากน้ำตกจะแข็งตัว ทำให้ดูเป็นภาพที่สวยจับตาไปอีกแบบด้วยนั่นเอง
มาเที่ยวน้ำตกน้ำตกเคงอน ใกล้ๆ ที่จำหน่ายตั๋ว จะมีร้านขายปลาย่าง ราคา 600 เยน ปลาจะนำไปชุบเกลือ เสียบไม้แล้วค่อยๆ ปิ้ง กลิ่นหอมมาก
แต่เนื่องจากวันที่ไปหนาวมาก เราเลยจัดโซบะร้อนสักชาม น่าจะดีกว่า
เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่บริเวณทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenjiko) ซึ่งมีน้อยมากตอนเราไปนะ เลยเดินย่อย รอรถบัสรอบอีกไปจะมานั่นเอง
📍 ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji) เป็นทะเลสาบแห่งนี้นี่จะตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai) คนส่วนใหญ่จะมาวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมชมทะสาบงามๆ กิจกรรมอีกอย่างของนักท่องเที่ยวคือปั่นเรือเป็ดรอบๆ ทะเลสาบชูเซนจิ หรือล่องเรือจาก Chuzenjiko Onsen เพื่อเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่งดงามได้อีกด้วย
ต่อมาเราไปชมแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมืองนิกโกนั่นคือ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) โดยลงที่ป้าย Shinkyo
💰 ค่าเข้าชม : 1,300 เยน
(❌ ไม่สามารถใช้บัตร NIKKO PASS all area ได้นะ)
⏰ เวลาเปิด - ปิด
8:00 - 17:00 น.
8:00 - 16:00 น. (พฤศจิกายน - มีนาคม)
* เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 30 นาที
บรรยากาศทางเดินไปศาลเจ้าโทโชกุ
เจดีย์หน้าศาลเจ้าโทโชกุ
หนึ่งในจุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ รูปลิงปิดหู ปิดตา ปิดปาก
📍 ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)
นับเป็นศาลเจ้าที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนิกโกเลยนะ เรียกได้ว่าไม่ว่าใครที่มาเมืองนี้แล้วถ้าไม่มาศาลเจ้าโทโชกุเนี่ยเหมือนมาไม่ถึงเลยทีเดียว ซึ่งคราวที่แล้วเราก็ไม่ได้เข้ามา เพราะมาไม่ทันเวลา วัดปิดซะก่อนเลยจึงต้องมาซ้ำให้ได้ เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิกโกอันมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้
ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นมีการออกแบบ และประดับตกแต่งตัวอาคารต่างๆ อย่างประณีตงดงาม ส่วนมากจะเน้นไปที่การตกแต่งด้วยไม้สลักเป็นหลัก และมีการนำเอาทองมาประดับตกแต่งให้ดูงดงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
📍 สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) หรือ สะพานศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณไม่ไกลจากศาลเจ้าโทโชกุ ซึ่งเราสามารถเดินมาได้เลย เป็นสะพานที่ได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยละ ซึ่งเราก็มาช้าเกินไป อดขึ้นไปถ่ายบนสะพานอีกเช่นเคย โถ่ !
💰 ค่าเข้าชม : 300 เยน
⏰ เวลาเปิด-ปิด
8.00 - 17.00 น. (เมษายน - กันยายน)
8.00 - 16.00 น. (ตุลาคม - กลางพฤศจิกายน)
9.00 - 16. 00 น. (กลางพฤศจิกายน - มีนาคม)
ขอบคุณข้อมูลจาก