สวัสดีครับ หลังจากที่ได้พาไปเเช่น้ำร้อนท่ามกลางหิมะที่ Takaragawa Onsen เเล้ว คราวนี้จะพาไปเดินชมวัดเเละสุสานกันที่ Koyasan ครับ

ย้อนอ่านรีวิว SNOW FALLING in TAKARAGAWA ONSEN ได้ที่ Link นี้ครับ https://pantip.com/topic/38264182 

Koyasan เป็นเมืองเล้กๆบนภูเขา อยู่ในเขต Wakayama แต่สามารถเดินทางมาจากOsakaได้ค่อนข้างสะดวกทีเดียว ตามเเผนที่รถไฟด้านล่างนี้เลยครับ

โดยKoyasan ได้กำเนิดขึ้นเมื่อ 1200 ปีก่อน โดย Kobo Daishi เริ่มสร้างวัดและเผยแพร่พุทธศาสนานิกายชิงอนบนเขาเเห่งนี้ เเละค่อยๆขยายขนาดขึ้นตามจำนวนความสรัทธาที่มีต่อ Kobo Daishi ทำให้ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของวัดจำนวนมาก เเละเป็นวัดที่มีพิธีกรรมปฎิบัติที่เคร่งครัดมากทีเดียวครับ (ที่มีข่าวพระฆ่าตัวตายเพราะกดดัน เเละวัดบางวัดห้ามมีเเมวเพราะความน่ารักไปรบกวนสมาธิของพระ ก็คือที่นี่ครับ)

สำหรับที่เที่ยวเด่นๆของKoyasan จะมีอยู่หลายจุด กระจายตามถนนเส้นหลักของเมือง ซึ่งจะมีรถบัสวิ่งให้บริการเป็นระยะๆ

จุดที่น่าเเวะชมคือ

หมายเลข 1 ประตูเข้าเมือง

หมายเลข 4 กลุ่มศาสนสถาน Danjo Garan

หมายเลข 11 วัด Kongobuji

หมายเลข 22 สุสานของท่าน Kobo Daishi ซึ่งจะต้องเดินตามเส้นสีเเดงไปยังสุสานครับ

ช่วงที่ผมไป รถไฟมีการซ่อมบำรุง จึงทำให้ต้องเปลี่ยนมานั่งรถบัสเเทน เเต่ก็ไม่ลำบากอะไรมาก ซึ่งเส้นทางการวิ่งรถบัสบน Koyasan จะเป็นดังนี้ครับ

ภาพเเรกที่เห็นของKoyasan จะเป็นประตู Daimon ซึ่งถ้านั่งรถไฟมาต่อกระเช้าจะเข้าอีกทางนึง ถ้าจะมาต้องนั่งรถบัสย้อนมา เเต่ไม่ไกลมากครับ สำหรับตัวประตูสร้างด้วยไม้ทาสีแดง ทั้งสองด้านจะมีเทพ คองโกริชิฉิ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่เชื่อว่าเป็นผู้ติดตามพระพุทธเจ้าเพื่อปกป้องพระองค์จากอันตรายต่างๆ จึงนิยมสร้างไว้เพื่อป้องกันการมากล้ำกรายสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ไว้ที่นอกประตู ไม่ให้เข้าสู่ภายในตัวเมืองได้

จากประตูผมนั่งรถบัสต่อมายัง วัด Kongobuji ซึ่งเป็นวัดใหญ่ประจำKoyasan ทางเข้าจะผ่านป่าสนเล็กๆ บรรยากาศขลังมาก

วัด  Kongobuji ถือเป็นวัดสำคัญที่สุด ในฐานะเป็นศูนย์กลางของวัดในนิกายชินงอนทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่มารดาของท่านโชกุน Toyotomi Hideyoshi ในปีค.ศ 1593 ในอดีตประตูใหญ่ทางเข้าวัดนี้คนทั่วไปจะไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ เพราะเอาไว้สำหรับ นอกจากจักรพรรดิ์ เชื้อพระวงศ์ หรือพระชั้นผุ้ใหญ่ของโคยะซังเท่านั้น เมื่อผ่านประตูเข้ามาด้านในจะพบกับอาคารไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งบนหลังคาจะมีถังบรรจุน้ำเอาไว้ดับไฟ ในกรณีที่มีไฟไหม้เกิดขึ้น

นักท่องเที่ยวที่มาที่ Koyasan จะต้องมาที่นี่กันเเทบทุกคน เพราะนอกจากเป็นวัดหลักเเล้ว ที่นี่ยังมีงานภาพเขียนผนังกระดาษชื่อดังอยู่เป็นจำนวนมาก เเต่น่าเสียดายที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปครับ

ในตั๋วเข้าชมจะระบุว่าเราสามารถไปทานน้ำชาเเละขนมที่อาคารด้านหลังได้ ซึ่งช่วงที่ผมไปอุณหภูมิ -5 องศา การไปนั่งจิบชาอุ่นๆ ช่วยคลายความหนาวได้มากทีเดียวครับ

ฝั่งตรงข้ามห้องชมชา จะเป็นอาคาร Okuden ซึ่งเป็นอาคารรับรองขององค์จักรพรรดิ์ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนหิน Banryutei ซึ่งเป็นสวนหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมบริเวณ 2,340 ตารางเมตร โดยจัดวางเป็นรูปมังกรสองตัวที่ว่ายอยู่กลางทะเลเมฆ เพื่อปกปักษ์รักษาอาคาร Okuden ตั้งอยู่บริเวณกลางสวนหินแห่งนี้

โดยหินจำนวน 140 ก้อนถูกนำมาจากเกาะชิโกกุ อันเป็นสถานที่เกิดของท่าน Kobo Daishi ส่วนหินสีขาวแทนทะเลเมฆนั้นนำมาจากเมืองเกียวโตครับ

ผมใช้เวลาเดินภายในวัดนี้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะตอนผมไป คนน้อยมาก สามารถเดินเเล้วนั่งชมวิวมุมต่างๆได้อย่างเต็มที่ ประทับใจมากครับ

จากวัด Kongobuji ผมเดินไปยังกลุ่มศาสนสถาน Danjo Garan ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก ระหว่างทางเห็นต้นซากุระเยอะอยู่ ถ้ามาช่วงมี.ค ที่นี่น่าจะสวยน่าดู ที่นี่เป็นที่ปฎิบัติธรรมของท่าน Kobo Daishi ประกอบด้วยอาคารหลายหลัง เช่น เจดีย์ Konpon อาคาร Kondo ที่ใช้จัดพิธีกรรมสำคัญ และอาคาร Fudodo ซึ่งในปัจจุบันที่นี่ยังคงใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสำคัญของนิกายชิงอนอยู่ครับ

จากDanjo Garan ผมเดินเล่นเรื่อยเปื่อยชมเมือง ซึ่งเงียบมากๆ (เเต่มันออกแนวเงียบขลังๆ ไม่ใช่เงียบร้างๆ) วัดที่นี่จะอยู่ติดๆกันเลย หลายๆวัดมีคาเฟ่ เเละบริการมื้ออาหารที่ทำโดยพระ ซึ่งจะเป็นอาหารมังสวิรัติ ความจริงผมอยากลองทานมาก เเต่ร้านที่เล็งไว้รับเเขกขั้นต่ำ 2 ท่านขึ้นไป ผมไปคนเดียวจึงอดไปโดยปริยาย

หลังจากเดินเล่นเรื่อยเปื่อยจนมาถึงวัด Shojoshin-in ก็สะดุดตากับทางเข้า สวยมากกกกกก

ความเก๋ของวัดบน Koyasan คือหลายๆวัดเปิดเป็นที่พัก เราสามารถจองพักค้างคืนได้ โดยจะเป็นเเพคเกจรวมอาหารด้วย ความจริงผมอยากลองพักมาก เเต่เวลาไม่ทัน เลยได้เเค่ 1 daytrip แทน อย่างวัดนี้ ถ้าได้มาพักคงฟินมาก ดูสวย สงบสุดๆเลยครับ

ใครที่ชอบชมวัดวา ผมว่าที่ Koyasan เหมาะมากสำหรับการมาชมครับ เพราะวัดเเต่ละวัดสวยมาก เเถมอยู่ใกล้ๆกัน เดินสะดวก ถ้าเหนื่อยก็เเวะคาเฟ่ของวัดได้อีกด้วย

หลังจากชมวัดจนพอใจ ผมก็เดินต่อเพื่อไปชมสุสานของท่าน  Danjo Garan ซึ่งจากที่บอกไว้เเล้วว่าท่านมีคนศรัทธาเยอะมาก จึงทให้ชาวญี่ปุ่นที่ศรัทธาในตัวท่านมักจะเลือกมาสร้างสุสานประจำตระกูลที่นี่ เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับท่าน Danjo Garan เเละเปรียบดังได้ขึ้นสวรรค์ด้วย ระยะทางจากปากทางเข้าไปยังตัวสุสานท่าน Danjo Garan เป็นระยะราว 2 กม เดินเพลินๆดีครับ เเต่ช่วงที่เข้าใกล้สุสานท่าน Danjo Garan จะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพครับ

ความน่าเเปลกอย่างหนึ่งคือ ตอนผมเดิน มันมีบรรยากาศของความสงบมากกว่าความน่ากลัว คือผมเดินคนเดียวชิลๆ ไม่ได้เเบบกลัวอะไรเลย รู้สึกมันเป็นสถานที่ที่สงบจริงๆ (เคยรู้สึกเเบบนี้ก็ตอนไปสุสานเเห่งหนึ่งที่สิงคโปร์ อันนี้ก็เป็นสุสานที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่าความน่ากลัว)

ผมใช้เวลาเดินที่นี่ราว 2 ชมซึ่งความจริงอยากอ้อยอิ่งนานกว่านี้เเต่หิมะเริ่มตกหนักพอดี หนาวมากกกกก เลยต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถบัสหลบหิมะ

พอขึ้นรถบัส ก็ได้เวลากล่าวลา Koyasan ไปพร้อมกับปุยหิมะเเล้วครับ สรุป สำหรับที่นี่ผมว่าเหมาะมากๆสำหรับคนที่ชอบเที่ยวที่คนน้อยๆ สงบๆ เเต่อาจจะไม่เหมาะกับสายชอปปิ้งเเละสายตระเวณกินครับ สำหรับผม ผมชอบที่นี่มากกกกกก มันดูสวย สงบ มีจิตวิญญาณดีครับ