4 วัน 3 คืน

Taiwan 4 Day 3 Night งบ 5,000

วันที่เขียน 25/05/2020
ยอดเข้าชม

54

Taiwan 4 Day 3 Night งบ 5,000

วันที่เขียน

25/05/2020

ยอดเข้าชม

54

#Taipei #ท่องเที่ยว #4 วัน 3 คืน

Taiwan 4 Day 3 Night งบ 5,000    

ทริปนี้เกิดจากเพื่อนร่วมงานบ่นๆ อยากไปใต้หวันบ่อยเกิ้น จนทำให้เราต้องเข้า Google ดูสักทีว่าใต้หวันมันมีอะไรน่ากินบ้าง สะดุดที่ชานมไข่มุก บะหมี่อาจง ชาบูปูยักษ์ แล้วก็พอดี๊เลย เห็นตั๋วโปรของ Nokscoot  Airlines ✈ ตั๋วไปกลับพร้อมที่พัก ราคาไม่แพง  ที่สำคัญฟรีวีซ่าอีกด้วยแหละแกรรร๊ แหละเราอยากไปลองต้นตำรับชาไข่มุก ที่เค้ารีวิวกันเยอะเหลือเกิ๊น  เลยต้องจัดซะหน่อย 5555  


เที่ยวใต้หวัน ไทเปแบบชิคๆ บรรยากาศญี่ปุ่น งบไม่เกิน 5,000.-

เวลาที่ใต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชม. ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 3 ชั่วโมง เราเลือกเดินทางไฟลท์ดึก ไปถึงไต้หวันตอนเช้า สามารถเที่ยวต่อได้เลย แล้วก็ขากลับเป็นช่วงเช้า แต่ไม่เช้ามาก มาถึงไทยก็ประมาณเที่ยง ** เราแลกเงินไป 5,000 บาท เหลือกลับบ้านด้วยแหละ 555 **

ทริปนี้เรียกได้ว่า เป็นทริปที่เน้นเที่ยว กินแบบ ชิลไป๊  เที่ยวตามที่ต่าง ๆ ไม่เยอะ เน้นเดินเล่นถ่ายรูปเก็บบรรยากาศแล้วก็รูปตัวเอง จะกี่เทค ก็ไม่ต้องเกรงใจใคร 🎒✨ 


ทริปนี้เราเดินทางกัน 4 Day 3 Night

Day01 : Thailand > Taiwan > Longshan > Chiang Kai-Sheck > Tamsui > Ximending

Day02 : Taiwan > Chingjing Farm

Day03 : Taipei >  Ximending Night Market

Day04 : Taipei > Thailand

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็เก็บกระเป๋าออกเที่ยวให้คนอิจฉากันเถอะ ..


Day 1  :  Bangkok – Taipei

จากไทย ไปไทเป ไต้หวัน ทริปนี้เราใช้บริการของ Nokscoot  จองได้ตั๋วไปกลับพร้อมที่พัก ราคานี้ต้องบอกว่าคุ้มมากๆ ได้น้ำหนักกระเป๋าโหลด 30 กิโล พอเห็นราคานี้ปุ๊ป รีบจองเลย  


การเดินทางจากสนามบิน ✈ เข้าตัวเมือง

เรามาถึงไทเปตอนสายๆ เดินทางเข้าเมืองด้วย MRT  Express Line (สีม่วง)  ไปลง Taipei Main Station

(ราคาตั๋ว 160TWD แต่ถ้าจ่ายผ่าน Easy Card จะลดเหลือ 150 TWD ) ใช้เวลาเดินทางแค่ 35  นาที  

พอมาถึง  Taipei Main Station  หาซื้อบัตร Easy Card   เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปในที่ต่างๆ  หาซื้อได้ตามมินิมาร์ทต่างๆ ลายบัตรก็จะต่างกันไป  Top up ได้ตลอด   ร้านอาหาร  มินิมาร์ท  ตู้กดน้ำ ก็สามารถใช้บัตรได้นาจ้า  

เราไปก็เปลี่ยนเป็น Mrt  สายสีเขียว ขึ้นฝั่งที่มุ่งไปทาง Xindian ไปลงสถานีรถไฟ Chiang Kai-Shek Memorial Hall –> Exit 3  เดินไปยังที่พัก  Uinn Travel   

ระหว่างทางเดินไปที่พัก เจอร้านเสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาในตำนานที่ขึ้นชื่อ  เราก็ไม่พลาดที่จะรองท้องยามเช้า มีทั้งไส้ผักและไส้หมู จัดมาทั้งสองไส้เลย  

มาถึงที่พัก เอากระเป๋าฝากไว้กับที่พักก่อน เวลาเช็คอินประมาณ 14.00 น. ขึ้นไป UINN TRAVEL ที่พักของเรา

เราก็เตรียมเที่ยวเลย  พิกัดแรกที่เราจะไปก็ที่ Chiang Kai-Shek เพราะไม่ไกลจากที่พักเรามากนัก Go Go Go   


อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)

ที่นี่นับเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองไทเปที่หลายคนต้องแวะมาชมความยิ่งใหญ่อลังการ ภายในบริเวณอนุสรณ์สถานนี้กว้างใหญ่เกินกว่าที่จิตนาการไว้เยอะ เป็นที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของเมืองไทเปเลยก็ว่าได้  ที่ไม่ว่าใครเมื่อมาแล้วต้องแวะมาถ่ายรูป เช็คอินกันที่นี่  


วัดหลงซาน (Longshan Temple)

นั่ง MRT สายสีฟ้า ขึ้นฝั่งที่ไปทาง  Dingpu   ไปลงสถานีรถไฟ Longshan Station  —>  Exit 6  เดินตามป้ายโลดดด  

ไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ   ก็ต้องไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยทุกทีเลย 555 วัดหลงซาน  หนึ่งในวัดเก่าแก่ของไต้หวันที่ต้องแวะมา คนเยอะมากกกก สถานที่ขอแฟนเลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์   ใครอยากได้แฟนแบบไหนก็ขอกันไป  และยังมีเครื่องรางของขลังอีก … อิอิ  


FYI  : การไหว้ขอให้ได้

  • เทพเฒ่าจันทรา อยู่กระถางที่ 7  จุดสังเกตคือคนขอกันเยอะๆ นั้นแหละ ..
  • ตอนขออย่าลืมระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราให้หมดด้วยน้า ที่สำคัญระบุเสปคไปด้วย
  • ที่สำคัญอย่าลืมอธิษฐานขอด้ายแดงจากเทพเจ้าด้วยนาจ้า
  • โยนไม้ครึ่งเสี้ยวสีแดง คว่ำชิ้นนึง หงายชิ้นนึง ครบ 3 ครั้ง ถึงจะได้รับด้ายแดงนาจ้า
  • ไปหยิบด้ายแดงมา 1 เส้น  แล้วก็เดินวนรอบกระถางธุป 3 รอบ
  • ไปอธิษฐานเหมือนเดิม (เดจาวู) หน้าศาลอีกครั้ง  เก็บด้ายแดงใส่กระเป๋าสตางค์  เรียบร้อยจ้า 

**  เผื่อๆ กันพลาดแนะนำให้ก่อนออกจากวัด ซื้อเครื่องรางเรื่องความรัก ติดตัวไว้ด้วย 5555 **

ด้านหน้าวัดหลงซาน จะมีร้านขายอาหารหลากหลายสไตล์เลยแหละ บรรดาคาเฟ่น้อยใหญ่มีให้เลือก จะเดินเที่ยวเล่นหรือหาอะไรกินรองท้องก็ได้นาจ้า  

ส่วนเรานั่ง MRT กลับไปที่ Taipei Main Station แล้วก็ซื้อซูชิแบบใส่กล่อง นั่งกินที่สถานีก่อนไปเที่ยวที่ตลาดตันสุ่ยต่อ  


Tamsui Old Street   ( 淡水老街) 

ออกจากวัดหลงซาน  นั่ง MRT สายสีฟ้า ขึ้นฝั่งที่ไปทาง Nangang  ไปลงสถานี  Taipei Main Station เปลี่ยนรถไฟสายสีแดง จาก Taipei Main Station ไปลงสถานีรถไฟ Beitou Station  

จากนั้นเปลี่ยนสายมาขึ้นชานชาลา Xinbeitou Station แค่ 1 ป้ายก็ถึงตั้นสุ่ย (Tamsui Station)  

มาถึงสถานีตั้นสุ่ย เดินออกทาง Exit 1 บรรยากาศหน้าสถานีตั้นสุ่ยได้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายทะเล  เราเริ่มเดินมาทาง Starbucks  

เข้ามาทางถนนคนเดิน Tamsui Old Street ( 淡水老街)  ถนนสายนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คน คงเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ใครๆก็ต่างอยากเดินทางมาเที่ยวกัน  

เริ่มจากร้านแรกๆ ที่ผ่านเข้าไป เป็น ร้าน soft icecream  คนเข้าแถวซื้อกันเยอะมาก  เราก็ไม่รอช้า สั่งแบบทูโทนมาลอง  แล้วก็ไม่ผิดหวัง  รสชาติอร่อย หอมกลิ่นช๊อกโกแลตมากๆ เลยแกรร๊   

ร้านขายของทอดเพียบเลย ที่ดังสุดๆ ก็ต้องร้านปลาหมึกยักษ์ทอด มีให้เลือกหลายร้านและเกือบทุกร้านก็มีให้ลองชิมก่อนด้วย   แล้วเราก็จัดปลาหมึกยักษ์มา 1 ไม้  5555+++

แล้วก็มีร้านของกินเยอะมาก ผลไม้ น้ำอ้อยก็มี   เดินมาสุดถนน ฝั่งตรงข้ามมี Tiger Sugar ชาไข่มุกร้านดังด้วยนาจ้า  

จากร้านชานม เดินมาเจอทางแยกเล็กๆ  มีร้าน  “เสี่ยว หลง เป่า”   นึ่งร้อนๆ    

จากนั้นก็เดินมายังริมทะเล โซนนี้ของฝากเยอะมาก  postcard  แม๊กเน็ต เสื้อ กระเป๋า ฯลฯ ของน่ารักทั้งนั้นเลย

สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำอยู่เสมอทุกครั้งที่ออกเดินทาง คือ เขียนโปสการ์ดส่งกลับหาตัวเราที่เมืองไทย เพราะไม่รู้จะส่งให้ใคร (ไม่ว่าเทคโนโลยีจะไปไกลแค่ไหนเราก็ยังคงเขียนโปสการ์ดกับจดหมายเหมือนเดิม  

ตั้งใจจะนั่งเรือไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานคู่รัก (Fisherman’s wharf)  แต่เรามาไม่ทันเรือรอบสุดท้ายตอน 6 โมง  เปลี่ยนแผนเดินเล่น เก็บบรรยากาศ  รอดูพระอาทิตย์ตกที่ริมทะเลแทน 5555  


ย่านซีเหมินติง (Ximending)

การเดินทาง: นั่ง Mrt สายสีแดง  จาก Tamsui Station ไปลงสถานี  Taipei Main Station เปลี่ยนนั่งรถไฟสายสีฟ้า จาก Taipei Main Station ไปลงสถานี Ximen Station  Exit 6

ที่นี่คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักหรือเคยได้ยินชื่อนี้ “ซีเหมินติง” ให้อารมณ์คล้ายย่านชิบุยะของประเทศญี่ปุ่น วุ่นวายสุดๆ มาถึงก็เดินเที่ยว เดินช๊อป หาของกินกันได้เลย😀 มีให้กินกันตลอดทาง ย่านนี้มีร้านอาหาร ของกินดังๆ รวมตัวกันอยู่มากมายเลย แต่เรามาเพื่อกิน Mala Hot Pot

ใครที่มาใต้หวันห้ามพลาดเลยน้า  เป็นบุฟเฟ่ต์ กินไม่จำกัด ทุกอย่าง  หัวละ 550 TWD ก็แพงอยู่ แต่คุ้มมาก เพราะมีเนื้อปูด้วย  กินได้ 2 ชั่วโมง  ออกแนวสไตล์ ร้านชาบูบ้านเรา แหละ  

กลับที่พัก เราก็เปลี่ยนเป็น Mrt  สายสีเขียว ขึ้นฝั่งที่มุ่งไปทาง Xindian  ไปลงสถานีรถไฟ Chiang Kai-Shek Memorial Hall à Exit 3   แล้วเดินกลับไปยังที่พัก  Uinn Travel   

เอากระเป๋าที่ฝากไว้    ที่พักของเราเป็นแบบ Hostel  ที่นอนนุ่ม  ห้องน้ำสะอาด  สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

จบการเดินทางวันแรกของวัน อาบน้ำ เตรียมชาร์จแบตกล้อง โทรศัพท์ ให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้  


Day 2  Taipei – Chingjing   (การเดินทางด้วยรถบัส)

เช้าวันรุ่งขึ้น  ออกจากที่พัก แวะกิน น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ซาลาเปา  แถวๆ ที่พัก  นั่ง MRT สายสีแดง ไป Taipei Main   

เดินตามป้าย Taipei Bus Station   เมื่อเดินเข้าไปในตึกให้  เดินตามป้าย  Ubus ขึ้นไปชั้น 3   

ให้มองหาช่องบริษัท  Ubus เพื่อซื้อตั๋วไป  สถานีไทจง  เราได้รถรอบ 08.30 น.  ค่ารถ  290 NTD  

ใช้เวลาเดินทางประมาณ  3  ชั่วโมงกว่าๆ  ก็มาถึง  Taichung Bus Station  

เดินต่อไปยังป้ายรถเมล์ Gancheng Station สถานีรถบัสหนานโถ  เพื่อขึ้นรถของ Nantou Bus ไปที่ชิงจิ้งฟาร์ม

ระหว่าง Taichung – Cingjing Farm เราสามารถนั่งรถบัสต่อเดียวได้เลย   เราซื้อแพคเกจราคา 610 NTD  ได้รถรอบ 14.35 น.


Cingjing Farm Pass   610 NTD   ราคานี้รวม

  • บัสไปกลับ Taichung >> Puli 
  • บัสไปกลับ Puli >> Songgang (ชิงจิ้งฟาร์ม)
  • บัตรผ่าน Green Green Grassland (ฟาร์มแกะ)
  • ตั๋วบัสสาย 02 จากชิงจิ้งเกสเฮาส์ >> ฟาร์มแกะ เที่ยวเดียว
  • บัตรส่วนลดค่าที่พักชิงจิ้งเกสเฮาส์ 40% ในวันธรรมดา วันหยุดราชการหรือช่วงเทศกาล 15%

หลังจากที่ได้ตั๋วรถเรียบร้อย ยังไม่ถึงเวลารถออก ข้างๆ สถานีรถบัส มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ  จัดซะหน่อย ก่อนที่จะเดินทางอีกตั้งไกล ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงกว่าๆ  เราเลือกสั่งอาหารหน้าตาคล้ายๆ ผัดหมี่ กับกระเพาะปลา บ้านเรามาทานดู  รสชาติโอเคเลยแหละ  หนังท้องตึง ก็ได้เวลาขึ้นรถออกเดินทางไกลกันแล้ว   

เราหลับตลอดทางเริ่มมาตื่นตอนที่รถโค้งบ่อยมาก  หยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์แทบไม่ทัน วิวระหว่างทางสวยมากกกกกกสมแล้วที่ได้ชื่อว่า  สวิตเซอร์แลนด์แดนไต้หวัน ^^

ด้วยลักษณะภูมิทัศน์ที่มีความคล้ายคลึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นอย่างมาก เพราะตั้งอยู่ในหุบเขา อากาศดี๊ดี มาช่วงต้นปีแบบเรา ไม่ต้องพึ่งแอร์เลย ต้องพึ่งฮีตเตอร์แทนเพราะอากาศหนาวมากก  

แล้วก็มาถึงที่พักของเราในคืนนี้  MountainTraveler   ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถบัส  ลมหนาวพัดมาปะทะหน้า รู้สึกดีสุดๆ เลยอ่ะแกรร๊  ลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอินกับที่พัก  ติดต่อรถที่จะไปเหอฮวนซานในวันพรุ่งนี้  เสียดายมากๆ ที่ช่วงนี้ไม่มีคน Join Trip ไม่เป็นไรไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่   

เอากระเป๋าเก็บเรียบร้อย  ออกมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศ  เฮ้ย !! ที่พักเราอยู่ใกล้ 7-11 คืนนี้ตั้งใจจะฝากท้องไว้ที่นี่แหละ  ดอกซากุระออกเยอะมากเลย เดินเล่นที่นี่เหมือนเดินอยู่สวิสยังไงยังงั้น  แต่เอ!! เรายังไม่เคยไปสวิสนิหว่า 5555

ไม่ไกลจากที่พักมี Camp ที่พักแบบรถบ้าน  ที่ตอนแรกเราตั้งใจจะจองเสียดายที่เต็ม  เราได้แต่เดินเข้าไปถ่ายรูปแอ๊คท่านิดหน่อย  เพราะยิ่งอากาศเย็นมากเท่าไหร่  ก็ยิ่งมืดลงเร็วเท่านั้น ยิ่งมืดอากาศยิ่งเย็น  

เราเลยตัดสินใจเดินกลับที่พัก แวะ 7-11 ฝากท้องไว้กับที่นี่  มาม่ากระป๋อง กับข้าวไก่เทอริยากิ  จะบอกว่าอาหารของ 7-11 ที่นี่รสชาติเหมือนกับนั่งทางตามร้านเลยแหละ   

ทานเสร็จกลับเข้าที่พัก  เสียดายสุดๆๆ  ที่พักมีชาบูบริการด้วย (:   ได้แต่ทำใจแล้วก็เดินขึ้นห้องพัก ผ่านไปอีกหนึ่งวัน ราตรีสวัสดิ์  


Day 3  Cingjing Farm 清境農場  (ชิงจิ้งหนงฉ่าง)

อีก 1 สถานที่ที่คนไทยชอบมาเที่ยว เพราะชิงจิ้งมีสภาพอากาศที่โคตรดี มีความเย็นตลอดทั้งปี  มีบรรยากาศคล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะมีทั้งแกะ และหุบเขา   

เพราะอกหักจากเหอฮวนซาน ไม่มีคนร่วมแจม วันนี้เราจะไปเที่ยวฟาร์มแกะกัน เมนูอาหารวันนี้ เป็นข้าวต้ม รสชาติทำให้รู้สึกถึงอยู่บ้านเราเลยแหละแกรร๊ ออกจากที่พัก มายืนรอรถด้านหน้า ตรงจุดที่เราลงเมื่อวาน ไปลงยัง  Cingjing Farm  

 Green Green Grasslands  ที่แสดงโชว์แกะ  

ฟาร์มแกะแห่งนี้จะตั้งอยู่ด้านบน  ตรงทางเดินเข้าจะเป็นศูนย์อาหาร..    

เดินตรงเข้าไปจะมีทางเข้า-ออกเล็ก ๆ  มีที่ปั๊มมือไว้เพื่อกลับเข้ามาได้อีก  ก่อนเข้าอย่าลืมปั๊มกันด้วยน้า  เผื่อใครอยากกลับเข้าไปอีกรอบ 555   ยื่น Cingjing Farm Pass  ให้กับพนักงานได้เลย ค่าเข้าที่นี่รวมอยู่ใน Pass ที่เราซื้อมาเมื่อวานนี้แล้ว 555+ บอกแล้วคุ้มมากๆๆ  

ในฟาร์มแกะนั้นจะมีการแสดงให้น้องหมาต้อนน้องแกะเข้าคอก การแสดงตัดขนแกะ และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้คือให้อาหารแกะ   บริเวณรอบของฟาร์มจะมีต้นซากุระ  มีมุมให้เราถ่ายรูปเยอะมาก  ถ่ายยังไงก็สวยอ่ะแกรร๊  

ด้านในกว้างมากเลยทีเดียว  ที่นี่เราจะเห็นแกะแทะเล็มหญ้าอยู่ตามหุบเขา  ตัวอ้วนปุกปุยมาก  แต่ขนไม่ขาวออกจะไปทางสีโอวัลติน 555   

ยิ่งเดินลึกเข้าไปยิ่งสวย ทั้งบรรยากาศ  ทั้งมุมถ่ายรูป  ที่นี่จัดไว้ได้สวยมากๆ  เพราะเวลาที่จำกัดทำให้เราไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยวใน  Small Swiss Garden  เดินไปถึงแค่ด้านหน้า   

Cingjing Skywalk  ทางเดินเรียบเขาชมวิว ใกล้ๆ กับฟาร์มแกะ มีสถานที่ให้เราเดินเล่นพร้อมชมวิวที่โคตรสวย และห้ามพลาดอย่าง “Cingjing Skywalk”   ค่าเข้า 30 NT$  เส้นทางเดิน  ประมาณ 1.2 กิโล ใช้ระยะเวลาเดินประมาณ 1 ชม. ขึ้นอยู่กับว่า จะหยุดถ่ายรูปนานแค่ไหน  จุดสิ้นสุดของ Skywalk บริเวณ Cingjing Guest House

เดินทางกลับไทเปด้วยการนั่งรถ Nantou Bus  ตรงจุดเริ่มต้น 7-11 แถวๆ Cingjing Guest House ไปลงที่สถานี Taichung และนั่งบัส กลับไทเปเหมือนขามาเลย  

สำหรับเมืองไทเป เราพักที่โรงแรมเดิมเลย Uinn Travel  เอาของกลับไปเก็บที่พัก แล้วเราก็ออกมาหาของกินที่


ย่านซีเหมินติง (Ximending) 

จากที่พักนั่งรถไฟสายสีเขียว จากสถานี  Chiang Kai-Shek Memorial Hall  ไปลงสถานี Ximen Station   Exit 6 คืนแรกที่เรามาจัด  Mala Hot Pot  ไปแล้ว วันนี้เราก็มากินบะหมี่อาจง   / หงโต้วปิง/ แมงโก้เชฟไอซ์  กันดีกว่าก่อนที่ จะเดินทางกลับบ้านในวันพรุ่งนี้  

บะหมี่อาจง หรือ Ay-Chung Flour Rice Noodle (阿宗麵線)  ถูกจัดให้เป็น อาหารไต้หวัน ที่อร่อยที่สุด แล้วก็เดินเข้าไปใน ซีเหมินติง  จะเจอร้าน The Face Shop   ให้เลี้ยวขวา เดินตรงไปอีกนิดหน่อย ก็จะเจอร้าน บะหมี่อาจง อยู่ด้านขวามือ  (จุดสังเกตคนรอเยอะมากๆ)  

เมนูเด็ดก็คือ บะหมี่  เส้นหมี่ทำจากแป้งข้าว น้ำซุปจะข้นๆรสชาติคล้ายกระเพาะปลาบ้านเรา ใส่ไส้หมูลงไปด้วย พอได้กินเท่านั่นแหละ  รสชาติกลมกล่อมมากเลย  ไม่แปลกใจเลยทำไมถูกจัดให้เป็น อาหารไต้หวัน ที่อร่อยที่สุด

มีอยู่สองขนาด   ใหญ่ 65NT   เล็ก 50NT   (เราลองขนาดเล็ก)   ใครที่มา ไต้หวันก็ควรไปลองกินน้า  

🍪 หงโต้วปิง (紅豆餅, Hóngdòu bǐng) … ไส้ถั่วแดง 

🍪 เชอหลุนปิง (車輪餅, Chēlún bǐng) หรือขนมล้อรถที่มีหลายไส้  ขนมอร่อยๆ มีเกือบทุกที่ในไต้หวัน

สมัยก่อนขนมแบบนี้จะมีแต่ไส้ถั่วแดง คนจึงเรียกขนมแบบนี้ว่า หงโต้วปิง ต่อมาได้พัฒนามีไส้ต่างๆ มากขึ้น จึงเรียกขนมแบบนี้ที่ไม่ใช่ไส้ถั่วแดงว่า เชอหลุนปิง ค่ะ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ยังชินกับการเรียกขนมนี้ว่า หงโต้วปิง อยู่ดี 

มีหลายไส้ให้เลือกเลือก  ราคา 25 NTD เราสั่งไส้ครีมมาแบบร้อนๆ เวลากัดเข้าไปไส้ลาวาด้านในทะลักออกมาเลย  คือให้ไส้เยอะมาก   แป้งกรอบ ไส้ไม่หวาน โอ๊ยชอบมากๆ  จากร้านอาจงเดินตรงขึ้นมาสุดทาง อยู่ขวามือ  


ซีเหมินแมงโก้เชฟไอซ์ Ximen Mango Shaved Ice

ร้านน้ำแข็งชื่อดังแห่งย่าน ซีเหมินติง  วัยรุ่นค่อนข้างเยอะ   สั่งง่ายมีชื่อภาษาอังกฤษทุกเมนู เมนูเด็ดของที่นี่คือ น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะมีกลิ่นมะม่วงนิดๆ   ให้เนื้อมะม่วงกินกันจนสาแก่ใจเลยทีเดียว มะม่วงสุกรสหวานอมเปรี้ยว ทุกอย่างลงตัวมาก  เมนูมีไม่มาก แต่คุณภาพคับชาม ห้ามพลาดเลยน้า   

หลังจากกินจนอิ่มแปร้ ก็ได้เวลาซื้อของฝาก  ชานมขวดหลากสี  ที่เราซื้อสะสมได้มาทั้งหมด  16 ขวดคืนนี้ภารกิจของเราก็คงไม่พ้นต้องเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วเอาขวดชานมใส่เข้าไปแทน  5555  ดีน้าที่เราขนเสื้อผ้ามาไม่เยอะ  พรุ่งนี้เราก็เดินทางกลับบ้านแล้ว   


Day 4  Taipei – Bangkok

เช้าวันสุดท้ายที่ Taipei  เราขึ้นเครื่องเวลา  09.25 น.  ทำให้ต้องออกเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักตั้งแต่ยังไม่สว่างกันเลยทีเดียว นั่ง Mrt สายสีเขียวไปลง  Taipei Main Station ทางเดินเชื่อมระหว่าง MRT Taipei Main Station ไป Airport MRT น่าจะยาวประมาณ 800 เมตร ทางเดินเรียบ ลากกระเป๋าได้สบาย   

ซื้อตั๋วที่หน้าสถานี Airport MRT  ราคา 160 NT ขึ้นขบวนแรก  6  โมงเช้า   35 นาทีผ่านไป ถึงสนามบินเถาหยวน เรียบร้อย ความเร็วไม่เท่า HSR แต่ก็ถือว่าประหยัดเวลาสู่สนามบิน และไม่ต้องเสียเวลาต่อรถบัส  

หลังจากผ่านเคาน์เตอร์เช็คอิน และตม. เรียบร้อย  ระหว่างรอขึ้นเครื่องจัดอาหารกล่องในสนามบิน เรียบร้อย รอเวลาเดินทางกลับไทยโดยบริบูรณ์  😄 บอกเลยว่าไทเปทริปนี้แค่น้ำจิ้ม   ถ้ามาใหม่ ทีนี้จะไปให้ทั่วเลย  🇹🇼 แล้วเจอกันนะ… ไต้หวัน!!

✈️💚 สำหรับใครๆ ที่อยากลองเที่ยว  หาประสบการณ์   เราว่าใต้หวันเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ ทั้งอาหารการกินที่หลากหลาย ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์  และค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวที่พอๆ กับไทย ที่สำคัญผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยได้ด้วยแหละแกรร๊