เฌอ-ชี-วา | แม่แมะ | จ.เชียงใหม่ 🌳

เราเริ่มการจองโดยการทักแชทเฟสบุ๊คเพจของเฌอชีวา ได้รับการตอบกลับมาว่าให้จองผ่านไลน์หรือโทรจะสะดวกกว่า พอแอดไลน์กันปุ๊บ ก็ทักทายกัน พี่เจ้าของชื่อพี่ตรี บอกว่าวันที่น้องจะไปพัก ห้องว่างครับ ยังไม่มีคนจองเลยซักห้อง แล้วพี่เค้าก็ส่งรูปห้องมาให้เราเลือก เราตัดสินใจเลือกห้องหมายเลย 2 

จากที่เราอ่านรีวิวมา ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 3 ห้อง ห้อง หมายเลข 1 พักได้ 4 คน อยู่บนสุดเลย เป็นห้องใต้หลังคา ราคา 2,000 บาท/คืน ส่วนห้องที่เรานอนคือห้องหมายเลข 2 อยู่มุมขวาของตัวบ้านพักได้ 3 คน 

และห้องหมายเลข 3 อยู่มุมซ้ายของบ้าน ก็พักได้ 3 คน ราคาคืนละ 1,500 บาท/คืน ทุกห้องเสริมฟูกได้ห้องละ 1-3 ฟูก หากอยากทานอาหารเช้าและอาหารเย็นด้วย ก็เพิ่มอีก คนละ 150 บาท ส่วนที่นอนเสริมก็คนละ 400 ไม่รวมอาหารนะจ๊ะ อาหารกลางวันก็หากินเองในหมู่บ้านมีร้านขายอยู่

การเดินทางถ้ามาจากขนส่งช้างเผือกก็บอกว่ามาลงเซเว่นแม่นะ แล้วโทรให้รถจากบ้านมารับ (เที่ยวละ 400/คัน) แต่ของเรามาจากดอยเชียงดาว ก็ต้องเป็นรถเหมาอย่างเดียว (เที่ยวละ 500 บาท) รถที่เราเหมามาส่งที่บ้านแม่แมะก็คือรถลุงปึ้ง ได้เบอร์ลุงแกมาจากร้านในหมู่บ้านที่เราไปนอนมาเมื่อวานนั่นแหละ

ตอนแรกถามคนที่เชียงดาวว่าจะไปเฌอชีวา ไม่มีใครรู้จักซักคน แต่ทุกคนรู้จัก #บ้านต้นไม้แม่แมะ กันซะงั้น ซึ่งจริงๆมันก็อยู่ติดกันนั่นแหละ

ระหว่างทางจากบ้านระเบียงดาวมาถึงเฌอชีวา ถนนเล็ก และแคบมาก หากไม่ชินทาง แนะนำว่าเหมารถมาเหอะ อย่าขับมาเองเลย โค้งหักศอกก็เยอะ กว่าจะถึงเล่นเอาโยกไปหลายที 🔀 🛣

ระหว่างทางจากบ้านระเบียงดาวมาถึงเฌอชีวา ถนนเล็ก และแคบมาก หากไม่ชินทาง แนะนำว่าเหมารถมาเหอะ อย่าขับมาเองเลย โค้งหักศอกก็เยอะ กว่าจะถึงเล่นเอาโยกไปหลายที 🔀 🛣

เมื่อมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านแม่แมะ

ก็ขับรถต่อไปจนถึงวัด ตรงข้ามจะมีทางลงไปยังโฮมสเตย์ต่างๆ เริ่มที่ปากทางจะเป็น #บ้านต้นไม้ #บ้านไอยเรศชมจันทร์ และมา #เฌอชีวา และไปสุดที่ #บ้านระเบียงน้ำ เราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าบ้านคือ คุณแม่พี่ตรี และเจ้าลาย หมาไทยพันธุ์ทาง ตัวลายขาวดำ ล่ำๆ ภายนอกดูน่ากลัว แต่จริงๆขี้อ้อนมาก👵🐶

เก็บของเข้าห้องพักเสร็จก็เดินสำรวจรอบๆ หมู่บ้าน ถัดจากเฌอชีวาไป เป็นโฮมสเตย์ ชื่อ #บ้านระเบียงน้ำ มีร้านกาแฟนั่งริมน้ำด้วย บรรยากาศดีเลย ส่วนมื้อกลางวัน เราฝากท้องไว้ที่บ้านต้นไม้ และเมื่ออาหารย่อยแล้ว บ่ายๆเราก็ไปนวดผ่อนคลายกันต่อ ด้วยฝีมือคุณป้า คุณยายในหมู่บ้าน นวดฟินจนหลับเพลินเลย 

เรานอนที่นี่ 1 คืน บรรยากาศสงบมาก มีแต่เสียงนก และน้ำไหล ธรรมชาติมาก ตอนแรกก็คิด เสียงน้ำโคตรดัง จะนอนหลับมั้ย สรุป หลับตั้งแต่ 3 ทุ่มจ้า

ส่วนใครที่คิดว่าหนาวแล้วจะต้องซักแห้งแบบบ้านระเบียงดาว มาที่เฌอชีวาไม่ต้องซักแห้งนะ เค้ามีเครื่องทำน้ำอุ่น และผ้าเช็ดตัวให้ สบายไปสิ~~~

ที่นี่จะเจริญกว่าบ้านระเบียงดาว สัญญาณอินเตอร์เน็ทเข้าถึง มี 2 เครือข่าย คือ เอไอเอส กะ ทรู ช่างภาพของเราผู้ใช้ดีแทค ก็มารบเร้า ทำตาปริบๆ ขอแบ่งฮอตสปอตอีกตามเคย 🤣🤣

มื้อเย็น

คุณแม่พี่ตรี นัดเราทานข้าว 6 โมงเย็น กับข้าววันนี้มี ต้มยำไก่ ไข่เจียว น้ำพริกหนุ่ม และไส้อั่ว อิ่มอร่อยกันไป ไม่พอเติมได้ แต่ก็ไม่มีใครเติมนะ เพราะป้าให้เยอะอยู่แล้ว 

ตอนแรกนึกว่าจะมีเราห้องเดียว ที่ไหนได้ เต็มทุกห้อง แถมโลกยังกลม ไปเจอน้อง 2 คน ที่เราเจอที่ดอยเชียงดาว มาพักที่นี่อีกด้วย หลังกินข้าวเสร็จ น้องก็มาชวนไปนั่งกินเบียร์ต่อ (อ้อออ ,, คุณป้า ขายเบียร์ด้วยนาจา เปิดตู้เย็นหยิบโล้ดดด แล้วตอนเช้าค่อยมาจ่ายค่าเสียหายเอา) นั่งคุย เม้าส์มอยกันไป ก่อนแยกย้ายกันเข้านอน ก็เลยได้คนหารค่ารถกลับลงมาส่งขนส่งเชียงดาวเลย 😄

เช้าตื่นมา 

คุณป้าก็ทำข้าวต้มร้อนๆไว้ให้ เป็นข้าวต้มแบบแม่เราทำอ่ะคือ ข้นๆ แต่ยังไม่ถึงกะเละเป็นโจ๊ก คือ มันอร่อยมากอ่าาาา ไม่ต้องปรุงเลย และตบท้ายด้วยกล้วยน้ำนม หน้าตาแบบกล้วยน้ำว้านี่แหละ แต่รสชาติแบบกล้วยหอมเลย อร่อยดี 😋🍌

อิ่มแล้วก็ร่ำลา เพื่อรอรถมารับ 9 โมง ไปส่งยังขนส่งเชียงดาว เพื่อต่อรถ ที่เขียนข้างรถว่า ล่องเชียงใหม่ ต่อไปเข้าเมือง รถเป็นรถบัสแอร์ คนละ 60 บาทจ้าว

1 วัน 1 คืนที่นี่ผ่านไปเร็วมากมาย การได้ตัดจากโลกภายนอกบ้าง ได้อยู่กับธรรมชาติบ้าง บางทีมันก็ดีแบบนี้แหละ 😊⛰📵