ราเมงข้อสอบ อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen 一蘭)
ร้าน อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) หรือ ร้านที่คนไทยรู้จักกันดีในนามว่า ราเมงข้อสอบ เป็นร้านราเมงที่มีคนต่อคิวยาวววว...ววว มากทุกวัน ซึ่งเป็นร้านราเมงที่เก่าแก่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 และขึ้นชื่อว่าอร่อยมากๆ มีรสชาติถูกปากคนไทยอย่างเรา เพราะสามารถเลือกระดับความเข้มข้ม และความเผ็ดของน้ำซุปได้ด้วยตัวเอง ในราคาที่ไม่แพงมาก ร้านนี้มีสาขาในญี่ปุ่นเกือบทั่วประเทศ ยกเว้นภูมิภาคฮอกไกโด จุดเด่นของราเมงข้อสอบ คือมีเมนูอาหารเพียงอย่างเดียว คือ ราเมงหมู (Tonkotsu Ramen) เท่านั้น
ร้าน อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) มีความพิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็นราเมงที่มีรสชาติดี เริ่มตั้งแต่ น้ำซอสแดง หรือ ซอสพริกที่ใช้ราดบนราเมง มีส่วนผสม 30 ชนิด เป็นซอสสูตรลับของทางร้าน ทำการผสมอย่างช้าๆ ข้ามวัน ข้ามคืน เส้นราเมง ทางร้านทำเอง โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญ เป็นเส้นที่ดูด กลืนง่าย น้ำซุปหมู ใช้ผู้เชี่ยวชาญวิจัยเป็นปี เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หมูสไลด์, ต้นหอมญี่ปุ่น สองอย่างนี้ก็คัดมาพิเศษเช่นกัน
ทำไมถึงได้ชื่อว่า ราเมงข้อสอบ ?
เพราะการทานราเมงที่ ร้าน อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) จะมีใบกระดาษให้เรา 1 ใบบนโต๊ะ แล้วให้เรานั้นวงเลือกระดับความเข้มข้น และส่วนผสมของราเมง รวมไปถึงความนุ่มของเส้นราเมง และความเผ็ดของน้ำซุปด้วยเช่นกัน ก็เปรียบเสมือนเป็นการทำข้อสอบ เพราะที่นั่งของเราก็จะมีที่กั้นด้านข้างช่องละ 1 คน เป็นที่นั่งคล้ายการทำข้อสอบอีกด้วย และนอกจากนั้นยังมีการทำวิจัยมาแล้วว่า การทานราเมงให้อร่อยต้องมีพื้นที่ส่วนตัว ผู้ทานจะดูดเส้น ซดน้ำได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ “ราเมงข้อสอบ” นั่นเอง (สึยโกยยย...ยยย !!)
วิธีการทานราเมงข้อสอบ
เข้ามาในร้านก็จะมีตู้กดเมนูอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเลือกเมนูได้เพียงอย่างเดียว คือ ราเมงหมู (Tonkotsu Ramen) แต่ก็จะมีเมนูเสริม เช่น กับแก้ม, ไข่, ชาชู และเบียร์ ให้เราเลือกเพิ่มด้วยเช่นกัน คนที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นอาจไม่คุ้นเคยกับการสั่งอาหารร้านสไตล์นี้ แต่เชื่อเถอะว่าไม่ยากอย่างที่คิด ไม่จำเป็นต้องอ่านภาษาญี่ปุ่นออก ก็สามารถทานราเมงข้อสอบได้เลย (เพราะเค้ามีรูปและภาษาอังกฤษให้ อิอิ)
หน้าร้าน อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) สังเกตง่ายๆ เลย ป้ายร้านจะมีตัวอักษรสีเขียวว่า Ichiran 一蘭
ในพื้นวงกลมสีแดงขอบดำที่เด่นสะดุดตาเลย ในภาพจะเป็นอิจิรัน ราเมง สาขาชินไซบาชิ (Shinsaibashi)
การสั่งราเมงก็ง่ายๆ
เข้ามาจะเจอกับตู้กด ก็กดสั่งราเมน เลือกราคาที่ต้องการผ่านเครื่องจำหน่ายคูปองอัตโนมัติได้เลย โดยมีวิธีดังนี้
1.ใส่เงินในช่องหมายเลข 1 ซึ่งจะมีช่องใส่เงินที่เป็นแบงค์ 10,000, 5,000, 1,000 และ เหรียญ 10, 50, 100, 500 เยน
2. เลือกเมนูตรงปุ่มไฟด้านบนได้เลย โดยให้เรากดเลือกตามภาพที่อยากทาน เช่น ท็อปปิ้งที่ชอบ ไข่ หมูชาชู สาหร่าย หรือข้าว จากนั้นเราก็จะได้ตั๋วสั่งรายการอาหารมา เป็นกระดาษแผ่นเล็กที่ระบุไว้ว่าเราสั่งราเมนอะไรไว้หล่อนลงมาที่ช่องหมายเลข 4
3.เราพอใจแล้วต้องการเงินทอนก็กดปุ่มสีแดงที่เขียนว่า Change จากนั้นเหรียญ และแบงค์ที่เป็นเงินทอนก็จะหล่นมาที่ช่องหมายเลข 3 นั่นเอง
4.จากนั้นพนักงานก็จะพาเราไปที่โต๊ะที่เป็นช่องๆ นั่นเอง
ที่สาขานี่โต๊ะเราจะอยู่ที่ชั้น 2 นะ พนักงานจะพาเราขึ้นไป แล้วให้เรารอคิวโต๊ะที่ว่างหน้าห้องก่อน
นี่คือภาพบรรยายกาศภายใน ซึ่งที่กั้นเราสามารถพับปิดได้ในกรณีที่มากัน 2-3 คน แต่ก็อย่าไปเปิดรบกวนคนอื่นเค้านะ
ช่องแล้วจะมีพนักงานมารับออเดอร์เรา เราก็ให้ใบที่กดจากตู้คูปองอัตโนมัติมา ส่วนน้ำเปล่าให้หยิบแก้วด้านซ้ายบน ลงมากดที่ก็อกน้ำด้านซ้ายมือเองเลย
บนโต๊ะก็จะมีใบแบบนี้วางเอาไว้พร้อมปากกา
เราก็สามารถ O วงกลม ในแต่ละหัวข้อได้เลย
- ความเข้มข้นของน้ำซุป : อ่อน / ปกติ / เข้มข้น
- ความชุ่มฉ่ำของน้ำมัน : ไม่ใส่ / นิดเดียว / ปกติ / เยอะๆ / เยอะไปเลย
- กระเที่ยม : ไม่ใส่ / นิดเดียว / ปกติ / ครึ่งกลีบ / 1 กลีบ
- ต้นหอมญี่ปุ่น : ไม่ใส่ / เอาตรงขาวๆ / เอาตรงใบเขียวๆ
- หมูชาชู : ไม่ใส่ / ใส่ (ไม่น่าถาม 555)
- ระดับของความเผ็ด : ไม่ใส่ / ครึ่ง / ปกติ / 2 เท่า / ระบุเองระดับ 3-10
- เนื้อสัมผัสของเส้น : เด้งมาก / เด้ง / ปกติ / นุ่ม / นุ่มมาก
รอสักพักนึงพนักงานก็จะเปิดเสื่อขข้นแล้วยื่นราเมงที่เราสั่งมาให้นั่นเอง
น่ากินมากกก....กกกก พร้อมแล้วก็คนน้ำซุปเบาๆ ให้ซอสพริกคลุกเคล้าไปกับน้ำ จากนั้นก็ซดน้ำเบาๆ น้ำเผ็ดเล็กน้อยกลมกล่อม อร่อยแตกต่างจากราเมงธรรมดาอย่างรู้สึกได้เลย เส้นเหนียว นุ่มกำลังดี หมูก็นุ่มน่าทาน สรุปว่าอร่อยมากๆ ครับ คุ้มค่าและเหมาะสมกับราคาจริงๆ
ออกมาหน้าร้านก็จะมีราเมงแบบกล่องวางขายให้เราสามารถเลือกซื้อ เพื่อนำกลับไปทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดย 1 กล่อง จะมี 5 ซอง ในราคากล่องละ 2,000 เยนนะ
เวลา เปิด - ปิด
เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (**แนะนำใครอยู่ใกล้ๆ ให้มากินตอนหลังเที่ยงคืนคนจะน้อยหน่อย)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://en.ichiran.com/index.php
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.emagtravel.com/archive/review-ichiran-ramen.html